เยือน “วาติกัน” วันไร้ประมุข

เยือน “วาติกัน” วันไร้ประมุข

ข่าวการประกาศสละตำแหน่งองค์ประมุขแห่งศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิกของสมเด็จพระสันตะปาปาเบเนดิกต์ที่ 16 เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

ไม่เพียงแต่เป็นข่าวช็อคโลกสำหรับชาวคาทอลิกเท่านั้น แต่มันยังทำให้เกิดคำถามในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวด้วย เพราะนครรัฐวาติกัน ใจกลางกรุงโรมเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมของอิตาลี มีนักท่องเที่ยวราว 5 ล้านคนต่อปีเดินทางไปเยือนนครแห่งนี้

เว็บไซต์ให้บริการจองโรงแรมหลายแห่งรายงานว่า ภายหลังข่าวดังกล่าวแพร่ออกมา ยอดจองโรงแรมในกรุงโรมเพิ่มขึ้นมากกว่า 35 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับปีที่แล้วในช่วงเวลาเดียวกัน โดยเฉพาะยอดจองในวันที่ 27 กุมภาพันธ์ หนึ่งวันก่อนโป๊ปจะพ้นจากตำแหน่งอย่างเป็นทางการ

“เมื่อมีการเลือกประมุของค์ใหม่ เรามักจะได้ลูกค้าเพิ่มมากขึ้น การเดินทางไปดูโป๊ปซึ่งประกาศสละตำแหน่งในขณะที่ยังทรงมีพระชนม์ชีพอยู่ เป็นสิ่งที่ไม่เคยมีใครเห็นมาก่อน” นิโคลัส แทงค์นีย์ เจ้าของบริษัทแทงค์นีย์ ทัวร์ ในอังกฤษ ซึ่งมีลูกค้าส่วนใหญ่เป็นชาวคาทอลิกกล่าว

ผู้ประกอบการท่องเที่ยวภายในประเทศอิตาลีบอกว่า ทางบริษัทยังคงดำเนินการจัดทัวร์ภายในกรุงโรมตามปกติจนกว่าเหล่าคริสต์ศาสนิกชนจะแห่กันมาเฝ้าการประชุมลับของคณะสงฆ์คาร์ดินัลเพื่อเลือกพระสันตะปาปาองค์ใหม่เหมือนครั้งที่แล้ว หรือไม่ก็มีคำสั่งห้ามจากสำนักวาติกัน ซึ่งล่าสุดสำนักวาติกันแจ้งว่ามหาวิหารเซนต์ ปีเตอร์และพิพิธภัณฑ์วาติกันยังเปิดให้เข้าชมตามปกติ

"ในช่วงที่มีการประชุมเลือกโป๊ป มันเหมือนกับเทศกาลวูดสต็อก คนแห่กันมากางเต็นท์ที่จัตุรัสเซนต์ ปีเตอร์" แอนโทนี่ สจ๊วต ผู้จัดการบริษัทวาติกัน ทัวร์เล่าให้ฟังถึงตอนเลือกโป๊ปคนใหม่เมื่อ 8 ปีก่อน

แอนโทนี่บอกถึงเหตุผลที่คนแห่กันมาที่นครรัฐวาติกันในการเลือกครั้งที่แล้วก็เพราะโป๊ปองค์ก่อนคือสมเด็จพระสันตะปาปาจอห์น ปอลที่ 2 ทรงเป็นที่รักของคนทั่วโลก ส่วนการเลือกโป๊ปครั้งนี้ก็คงไม่ต่างกันเพราะสมเด็จพระสันตะปาปาเบเนดิกต์ที่ 16 ทรงเป็นพระสันตะปาปาพระองค์แรกในรอบกว่า 600 ปีที่สละตำแหน่งประมุขศาสนจักรทั้งที่ยังทรงมีพระชนม์ชีพอยู่

หลังจากวันที่ 28 กุมภาพันธ์ ซึ่งเป็นวันที่พระประมุของค์ปัจจุบันพ้นจากตำแหน่งอย่างเป็นทางการ คาดว่าทางสำนักวาติกันจะจัดประชุมเพื่อเลือกประมุของค์ใหม่อย่างเร็วที่สุดภายใน 15 มีนาคม จากนั้นก็จะรีบแต่งตั้งให้เสร็จสิ้นก่อนวันที่ 31 มีนาคมเนื่องจากตรงกับวันอีสเตอร์

การประชุมลับเพื่อเลือกโป๊ปพระองค์ใหม่จะจัดขึ้นที่โบสถ์น้อยซิสทีน ภายในพระราชวังที่ประทับอย่างเป็นทางการของพระสันตะปาปาภายในรัฐวาติกัน โบสถ์แห่งนี้เป็นหนึ่งในงานศิลปะที่ยิ่งใหญ่ของโลกโดยเฉพาะภาพวาดบนเพดานฝีมือของจิตรกรเลื่องชื่ออย่างไมเคิลแอนเจโลอันเป็นแหล่งไฮไลท์ที่นักท่องเที่ยวต้องไม่พลาด

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา อันโตนิโอ ปาโอลุชชี่ ผู้อำนวยการพิพิธภัณฑ์วาติกัน พยายามเปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวได้เข้าไปเยี่ยมชมโบสถ์ให้มากที่สุด เขาเคยเขียนตอบโต้บทความชิ้นหนึ่งที่ระบุว่า ทางวาติกันควรจะจำกัดจำนวนคนเข้าชมโบสถ์เพื่อป้องกันไม่ให้ภาพจิตรกรรมบนผนังและเพดานถูกทำลายไปมากกว่านี้

“ตอนนี้เรากำลังอยู่ในยุคของการท่องเที่ยวบูมสุดขีด คนเป็นล้านอยากจะชมวัฒนธรรมทางประวัติศาสตร์ของเรา การจำกัดจำนวน (นักท่องเที่ยว) จึงไม่เคยอยู่ในความคิด” อันโตนิโอระบุ

แม้ว่าสำนักวาติกันยังไม่ได้ออกประกาศต่อสาธารณชนเกี่ยวกับแผนการจัดการประชุมลับเพื่อเลือกโป๊ป แต่จาเร็ด เซช ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดของบริษัทดาร์ค โรม ทัวร์ ได้รับการยืนยันว่า นักท่องเที่ยวยังสามารถเที่ยวชมด้านนอกของโบสถ์ซิสทีนได้

จาเร็ดบอกว่า ทุกครั้งที่มีเหตุการณ์เกี่ยวกับพระสันตะปาปาอยู่ในความสนใจ มันเป็นเรื่องดีสำหรับการท่องเที่ยว เพราะเป็นโอกาสที่จะได้เห็นความงดงามและความยิ่งใหญ่ของนครวาติกัน นักท่องเที่ยวจึงต้องการเดินทางมายังกรุงโรมเพื่อให้เห็นกับตาตัวเอง

"ในการประชุมเลือกโป๊ปครั้งที่แล้ว นักท่องเที่ยวบางคนว่าตัวเองโชคร้ายที่มาตอนนั้นพอดี เลยไม่ได้เข้าไปชมภายในโบสถ์ แต่คนส่วนใหญ่ก็เข้าใจ” ปีเตอร์ ซาลิวสกี้ ซีอีโอของวาติกันทัวร์กล่าว

ปีเตอร์ไม่แน่ใจว่าจะมีนักท่องเที่ยวจำนวนเท่าใดที่ตั้งใจจะไปเยือนวาติกันในช่วงการประชุมเพื่อเลือกประมุของค์ใหม่ แต่บริษัทก็ได้เตรียมไอแพดให้ลูกทัวร์เป็นการสำรองเพื่อให้พวกเขาสามารถสัมผัสผลงานชิ้นเอกของไมเคิลแอนเจโลผ่านไอแพด

ปกติแล้วช่วงไฮซีซั่นของโรมและโดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับชาวคาทอลิกจะเริ่มขึ้นในปลายเดือนมีนาคมซึ่งเป็นช่วงใกล้วันอีสเตอร์ โดยเฉพาะในวันพฤหัสบดีศักดิ์สิทธิ์หรือวันระลึกถึงเหตุการณ์สำคัญในชีวิตของพระเยซูคือการรับประทานอาหารค่ำมื้อสุดท้ายกับบรรดาอัครสาวกก่อนที่จะถูกจับกุมและถูกพิพากษาประหารชีวิตโดยการตรึงร่างไว้กับไม้กางเขน ตามประเพณีแล้วสมเด็จพระสันตะปาปาจะเสด็จมาร่วมฉลองในพิธีบูชามิสซาเพื่อเสกน้ำมันศักดิ์สิทธิ์ภายในอาสนวิหารของสำนักวาติกันซึ่งเป็นเหตุการณ์สำคัญที่จะดึงดูดผู้คนจำนวนมากให้มาร่วมพิธีเป็นจำนวนมาก

แม้ว่าพิธีการเลือกโป๊ปพระองค์ใหม่อาจเป็นเหตุผลให้พระคาร์ดินัลปรึกษาเกี่ยวกับการจำกัดการเยี่ยมชมวาติกัน ในขณะเดียวกันนักท่องเที่ยวที่เดินทางไปเยือนโรมในช่วงนั้นก็มีโอกาสที่จะเห็นเหตุการณ์สำคัญทางศาสนาที่ไม่ได้เห็นง่ายๆ นั่นคือการได้เห็นควันสีขาวจากปล่องไฟของหอสวดซิสทีนอันเป็นสัญญาณว่าศาสนจักรได้ประมุของค์ใหม่แล้ว

.....................................
ที่มา เว็บไซต์ฮัฟฟิงตันโพสต์และเดลี่ เมล