หอมกลิ่นดอกไม้ 'บุหงาธานี รีสอร์ท & สปา'
หอมกรุ่นกลิ่นดอกไม้นานาชนิด ทั้งลีลาวดี มะลิ ฯลฯ ที่ปลูกอยู่ดาษดื่นทั่วบริเวณ
เหมาะแล้วที่โรงแรมแห่งนี้มีนามว่า บุหงา ธานี รีสอร์ท & สปา แถมช่วงนี้ดอกตะแบกสีม่วงกำลังเบ่งบานชูช่อสลอนแข่งกับแพงพวยที่ปลูกเป็นแนวยาวบริเวณสระน้ำหน้าล็อบบี้ ที่อยู่ติดกับชายทะเลฝั่งตะวันออกของหาดไร่เลย์ จังหวัดกระบี่
เดิมแถวนี้เป็นหมู่บ้านชาวประมงเล็กๆ ทว่าปัจจุบันมีที่พัก รีสอร์ทเกิดใหม่มากมายราวกับดอกเห็ด เพราะไร่เลย์เป็นที่รู้จักและน่าสนใจสำหรับนักท่องเที่ยวชาวยุโรปเป็นพิเศษ เรียกว่าพักผ่อนด้านตะวันออกของเกาะ พอเช้ารุ่งอรุณทานอาหารเสร็จก็เดินลัดเลาะภูเขา ไปนอนรับแสงตะวันกัน ที่ชายหาดด้านตะวันตก ที่มีชื่อเรียกว่า ‘หาดพระนาง’ อันเป็นที่ตั้งของ ‘ถ้ำพระนาง’ ไปถึงจุดนั้นจะพบว่าฝรั่งพากันมานอนตากตัวแบบไม่รู้ร้อน บ้างก็เล่นฟุตบอลชายหาด นั่งนอนอ่านหนังสือ ฯลฯ
สำหรับบุหงาธานีแห่งนี้เปิดบริการเข้าสู่ปีที่ 4 ถือว่าเป็นโรงแรม 4 ดาว น้องใหม่ของไร่เลย์ก็ว่าได้ หลังจากเรือมารับที่ชายฝั่งท่าเรือ เพียง 10 นาทีก็ไปถึงโรงแรมที่พรั่งพร้อมไปด้วยความสะดวกสบาย พรรษา เทียนทอง ผู้จัดการโรงแรมเล่าว่า คอนเซ็ปต์ของโรงแรมแห่งนี้คือดอกไม้ และสีม่วงเนื่องจากเจ้าของโรงแรมชอบสีม่วงและดอกไม้ จึงมีมีโลโก้โรงแรมเป็นดอกบัวสีม่วง
“โรงแรมเราเปิดบริการเข้าสู่ปีที่ 4 แล้วครับ แต่ว่าสองปีแรกถือว่ายังเริ่มๆ เรียกได้ว่าเปิดบริการยังไม่สมบูรณ์แบบเท่าไหร่ เพราะการก่อสร้างล่าช้า เราต้องสร้างไปด้วยเรื่อยๆ เพราะการขนวัสดุอุปกรณ์จากฝั่งมาที่นี่ค่อนข้างยากลำบาก ต้องขนลงแพ แล้วค่อยๆ ลากมา ส่วนชื่อ บุหงา ธานี คอนเซ็ปต์ก็คือเมืองแห่งดอกไม้ เราก็เลยพยายามหาดอกที่ชื่อว่าบุหงามาปลูกทั่วบริเวณโรงแรม เช่น ดอกบุหงาส่าหรี่ เราเอามาตั้งเป็นชื่อห้องอาหารด้วย ห้องต่างๆ เช่นฟิตเนส ห้องอินเตอร์เน็ต ห้องขายของที่ระลึก เราก็จะตั้งเป็นชื่อบุหงาทั้งหมด เช่น บุหงาตันหยง บุหงาเซิง เถาเลี้อยนี่เหมือนเป็นนมแมวแต่ก็ชื่อบุหงาเหมือนกัน”
จุดเด่นของโรงแรมก็คือรูปแบบของโครงสร้างเป็นสถาปัตยกรรมแบบโคโลเนียนสไตล์ มีเสาสูง ห้องพักเป็นแบบร่วมสมัย สำหรับห้องพักแบ่งออกเป็น 6 แบบ เช่น Deluxe Room (12 ห้อง), Deluxe Sea View (12 ห้อง), Deluxe Grand (12 ห้อง), Deluxe Elegant (16 ห้อง) แล้วก็มี Pool Villa ( 7 หลัง) กับ Presidential Villa (1 หลัง)
ซึ่ง Presidential Villa มีความกว้าง 139 ตารางเมตร มีสองห้องนอนใหญ่ สระว่ายน้ำส่วนตัวขนาดใหญ่ มีห้องครัว และโต๊ะรับประทานอาหาร ชุดรับแขก สะดวกสบายราวกับเป็นบ้านพักตากอากาศส่วนตัว
“เป็นวิลล่าที่เหมาะกับครอบครัว ทั้งหมดเรามี 60 ห้อง รองรับได้ 120 คนแต่เราก็ไม่ปล่อยห้องหมด จะปล่อยประมาณ 98 เปอร์เซ็นต์ ราคาห้องช่วงกลางเดือนเมษาไปจนถึงสิ้นเดือนตุลาคมเรียกว่าโลว์ซีซั่น ราคาห้องก็จะอยู่ที่ประมาณ 3,400- 7,500 ส่วนหน้าไฮซีซั่น 8,500 - 30,000 บาท ชายหาดที่สวยที่สุดในกระบี่ก็จะอยู่ที่นี่ เพราะกรุ๊ปทัวร์ส่วนใหญ่ก็จะมาแวะที่นี่ มาเล่นน้ำ นอนอาบแดด และขอพรจากพระนาง หรือชาวบ้านเรียกว่าโต๊ะนาง เพราะว่าเป็นอิสลาม ส่วนใหญ่จะมาขอพรเรื่องความรักเพราะเชื่อว่าโต๊ะนางมาอยู่ตรงนี้รอเฝ้าสามีกลับจากทะเล แต่สามีก็หายไปในทะเล ก็เลยเป็นที่นิยมมาขอพรเรื่องความรัก”
เนื่องจากโรงแรมอยู่ด้านตะวันออก ไม่มีชายหาดที่เล่นน้ำได้ จึงสร้างจุดขายด้วยการอนุรักษ์ป่าโกงกาง และอนุรักษ์ปูก้ามดาบ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของจังหวัดกระบี่ จะเห็นได้ว่ามีปูก้ามดาบอาศัยอยู่จำนวนมาก แต่ก็ยังมีอุปสรรคเพราะเป็นจุดจอดเรือของชาวบ้านที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับเรือโดยสารสำหรับนักท่องเที่ยว ปัจจุบันมีการก่อสร้างโรงแรมแบบเต็มพื้นที่ มีจำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น
“ภายในโรงแรมเรามีฟิตเนสขนาดย่อมไว้บริการลูกค้า มีอินเตอร์เน็ตคอนเนอร์ ในห้องพักทุกห้องมีฟรีไวไฟ มีสระว่ายน้ำ เพราะว่าโรงแรมแถวนี้ส่วนใหญ่ไม่ค่อยมีสระว่ายน้ำ ทำให้ลูกค้าได้ผ่อนคลายเต็มที่ หลังจากกลับมาจากนอนอาบแดดที่หาดพระนาง ซึ่งส่วนใหญ่ลูกค้าจะออกไปนอนอาบแดดตอนสายๆ ประมาณ บ่าย 3 ก็จะกลับมาว่ายน้ำนอนพักผ่อนริมสระ ด้วยความใหม่ของโรงแรมจึงได้รับความสนใจจากลูกค้าพอสมควร
สระเราใช้ระบบเกลือเพราะลูกค้าบางคนอาจแพ้คลอลีน หรือจะไปใช้บริการของสปาก็มีแพคเกจต่างๆ ให้เลือก ตั้งแต่หัวจรดเท้า บางคนไปปีนผา ไปดำน้ำมา อาจจะปวดเมื่อย หรือว่าไปโดนแดดจัดๆ มา ก็มาผ่อนคลายบำรุงผิว มีทั้งนวดไทยและนวดแบบอโรมา มีห้องทรีทเมนท์ 4 ห้อง ห้องละ 2 เตียง และมีมุมสำหรับนวดไทยอยู่เอาท์ดอร์ ถ้าฝนตกก็ย้ายไปนวดไทยในห้องแอร์แทน ผลิตภัณฑ์ที่ใช้ก็จะเป็นของไทย คือ ส.ธนดา มีคุณภาพระดับที่ลูกค้าพึงพอใจเหมือนกัน”
สำหรับห้องขายของที่ระลึก มีไว้สำหรับลูกค้าที่ต้องการชอปปิง เนื่องจากเจ้าของโรงแรมเป็นชาวลำปาง จึงมีผลิตภัณฑ์จากทางเหนือเป็นส่วนใหญ่ และมีผลิตภัณฑ์กระบี่บ้างเล็กน้อย
เหตุผลที่อยากแนะนำให้มาพักที่โรงแรมนี้นอกจากความสะดวกสบายแล้ว ยังเหมาะสำหรับคนที่มีงบประมาณในกระเป๋าไม่มากไม่น้อยเกินไป ที่นี่เป็นโรงแรมระดับ 4 ดาว หากเข้าไปในห้องพักจะพบว่ามีการจัดแต่งอย่างสวยงาม เตียงที่ใช้ก็เลือกแบบมีคุณภาพ หมอนนุ่ม หนุนนอนอุ่นสบาย แชมพูสบู่ในห้องก็มีกลิ่นหอมละมุนเช่นเดียวกับกลิ่นหอมโชยอ่อนของดอกลีลาวดี
นี่แหละคือเหตุผลที่ว่า....ทำไมต้องมาพักที่นี่
---------------
ที่ตั้ง : หาดไร่เลย์ฝั่งตะวันออก อ่าวนางเมือง จังหวัดกระบี่
ราคา : ตั้งแต่ 3,400-7,500 บาท
จุดเด่น : สะดวกสบาย เงียบสงบท่ามกลางสวนดอกไม้
ติดต่อ : โทร.0 7581 9451 เว็บไซต์ www.bhungathani.com