นานๆที...ที่สมุย

เป็นไปตามหัวเรื่องทุกอย่าง เพราะนานๆ จะได้ไปสมุยสักครั้งหนึ่ง ทิ้งช่วงกัน 4-5 ปี พอคิดถึงก็แวบไป
ต้องบอกว่า สมุย มีความเปลี่ยนแปลงมากมายจริงๆ และผมว่าเปลี่ยนไปทุกๆ ปีด้วยซ้ำ เดี๋ยวนี้ไปสมุยนั้นง่ายมากเครื่องบินราคาถูกไปลงสุราษฏร์ธานี หรือรถไฟไปลงพุนพิน มีรถไปรับมาลงเรือ ข้ามฟากมาส่งถึงเกาะสบายๆ หรือจะนั่งเครื่องบินแพงของบางกอกแอร์เวย์ไปลงกลางเกาะยิ่งสะดวก แต่ก็แพงอย่างที่ผมบอก หรือจะนั่งรถ บ.ข.ส.จากสถานีขนส่งสายใต้ไปก็สะดวก เมื่อยก้นหน่อยก็แค่นั้น
แต่ถ้าเอารถยนต์ไปเองนี่ต้องเอาลงเรือเฟอร์รี่ที่ดอนสัก ถ้าช่วงเทศกาลต่างๆ ท่านผู้อ่านอาจจะเจอกับวิกฤติการรอเพื่อเอารถลงเรือ เช่นไปถึงท่าเรือ 10 โมงเช้า อาจจะได้คิวลงเรือ 5 โมงเย็น แล้วระหว่างนี้ ห้ามไปไหน ไม่อย่างนั้น คิวท่านจะเสีย แต่ถ้าใครหิ้วกระเป๋าไปนี่ลงเรือได้เลย แต่พอไปถึงบนเกาะการเอารถไปเองก็จะสะดวก เพียงแต่บนสมุย ตามแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ หาที่จอดรถยากมาก อย่างย่านเฉวงนี่แทบไม่มีที่จอดเลย อีกทั้งนักท่องเที่ยวที่เช่ารถขับและไม่ชินทาง อาจทำให้เราเกิดอุบัติเหตุไปด้วย ครั้นจะรอรถสองแถวเพื่อไปตามแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ ก็นานมากครับ กว่ารถจะมาสักคัน หรือถ้าจะเรียกแท็กซี่บนเกาะไปส่ง ท่านผู้อ่านอาจจะเจอกับราคาที่มหาแพง อาจจะแพงที่สุดในโลกเลยก็ว่าได้เมื่อเทียบกับระยะทางที่ไปส่งเรา ที่สะดวกสุดจึงเป็นการเช่ารถเที่ยว หรือเช่ามอเตอร์ไซค์ขับเอง ค่าเช่าวันละ 250 บาท ส่วนรถยนต์นี่ไม่รู้ราคา
ที่เที่ยวบนสมุย ส่วนใหญ่ก็อยู่รอบเกาะแหละครับ ชายหาดต่างๆ วัดวาอาราม ตรงกลางแผ่นดินเข้ามาในๆ ก็จะเป็นน้ำตกหน้าเมือง 1 หน้าเมือง 2 น้ำตกหินลาด มีทางรถยนต์แล่นผ่านแหล่งท่องเที่ยวแทบทุกที่ แต่อย่างที่บอกระวังอุบัติเหตุหน่อยและหาที่จอดรถยาก การจอดไหล่ทางนี่ต้องระวังเพราะทางแคบ ดีที่โรงแรม หรือรีสอร์ทต่างๆ แม้จะสร้างปิดกั้นทางลงหาด แต่เราสามารถขอเขาเดินผ่านไปลงหาดได้ หรือขอจอดรถสักแป๊บลงไปหาดก็ได้ ผมไปใหม่ๆ ก็ไม่รู้ ไม่กล้าลง แต่พอคนบนเกาะบอกขอได้ ผมเลยลองทำดู ก็ได้ผลจริงๆ
การมาเที่ยวสมุยนั้น แนะนำท่านผู้อ่านว่า ควรหาเวลามานานๆ เลย เพราะท่านผู้อ่าน มาจากสุราษฏร์ธานีสามารถต่อไปเกาะพะงัน แล้วเลยไปเกาะเต่าเกาะนางยวนได้ แล้วมาขึ้นฝั่งที่ชุมพร เที่ยวเป็นวงกลมมีเรือโดยสารเชื่อมถึงกันได้หมด ส่วนใหญ่ฝรั่งแบกเป้ก็เที่ยวกันแบบนี้ แต่บนสมุยวันหนึ่งที่อยู่บนนั้น ควรซื้อแพกเกจทัวร์ไปเที่ยวหมู่เกาะอ่างทองครับ ขอบอกเลยครับว่าสวยมาก ไปแบบเช้าไป-เย็นกลับ หรือจะค้างแรมบนเกาะวัวตาหลับสักคืน วันรุ่งขึ้นค่อยกลับกับเรือทัวร์ก็ได้ กลางวันเขามีอาหารเลี้ยงอีก 1 มื้อ
ค่าครองชีพบนสมุยนี่บอกเลยว่า "อย่างแพง" ยิ่งเป็นย่านท่องเที่ยว หาดเฉวง หาดละไมนี่แพงทั้งอาหาร ทั้งที่พัก แต่ถ้าเป็นย่านที่ห่างนักท่องเที่ยวอย่างหาดหน้าทอน ร้านอาหาร-ที่พัก ไม่แพงครับ 500 บาทนี่ดีเลย ยิ่งไปแถวแม่น้ำ 350 บาท ติดแอร์ฉ่ำเลย ตรงท่าเรือหน้าทอน มีตลาดอาหารแบบโต้รุ่งตอนเย็น มีให้เลือกกินสารพัด สมุยไม่ได้แพงหมดแต่เราต้องรู้แค่นั้นเองว่ามีอะไรอยู่ตรงไหน ส่วนของฝากบนสมุยน่าจะเป็นกาละแม ซึ่งผมก็ไม่รู้ว่ามันไปกลายเป็นของฝากขึ้นชื่อบนสมุยได้อย่างไร โดยเฉพาะย่านหินตาหินยายมีกาละแมเพียบ อร่อยสมกับที่กลายเป็นของฝากบนสมุยครับ
ส่วนฤดูกาลเที่ยวสมุย ผมว่าถ้าเป็นคนไทยเราคงเที่ยวได้ตลอดทั้งปี อย่างหน้าฝนซึ่งไม่ใช่ฤดูท่องเที่ยว (ที่พักจะถูก คนก็ไม่มากนัก) ก็ใช่ว่าฝนจะตกตลอดเวลา เช้าแดดดี ทะเลสวย เย็นฝนตก แบบนี้ก็ไม่ใช่อุปสรรคของการมาสมุย เว้นเฉพาะก็ช่วงที่มีพายุเข้าที่กรมอุตุฯเขาบอกมีคลื่นลมแรงนั่นแหละ อย่างนี้คงเที่ยวทะเลไม่สนุกนัก
สมุยเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของบ้านเรามานาน ยิ่งการท่องเที่ยวขยายตัว ธรรมชาติก็จะถูกเบียดเบียน เดี๋ยวนี้หาที่ว่างติดทะเล เช้ากางเต็นท์ในสวนมะพร้าวอย่างที่ผมเคยทำตอนหนุ่มๆ แทบไม่มีแล้ว บางปีเราได้ยินข่าวสมุยน้ำท่วม เครื่องบินขึ้นลงกันไม่ได้ นักท่องเที่ยวตกเครื่องกันเป็นแถว ไม่น่าเชื่อว่าบนเกาะก็ถูกน้ำท่วม นั่นเป็นเพราะทางน้ำถูกถม การสร้างอาคารขวางทางน้ำธรรมชาติ ผังเมืองสมุยนี่ผมว่าแทบไม่มีกระมัง มันมั่วไปหมด โตไปตามแหล่งท่องเที่ยว ถนนนี่ไม่ต้องคิดขยายเลย บนเกาะยังกำจัดขยะโดยวิธีการฝัง พอเต็มก็ย้ายไปเรื่อย นานมาแล้วเคยจัดสร้างเตาเผา แต่มาวันนี้มันใช้ไม่ได้ แล้วก็ไม่เห็นว่าจะแก้ไขปัญหาระยะยาวอย่างไร ผมกังวลเรื่องน้ำว่าเกรงจะไม่พอเหมือนที่ภูเก็ตเคยเจอ เพราะดูบนภูเขาสูงที่มีต้นไม้ก็ดันเห็นโรงแรมสารพัดขึ้นไปปลูกกันบนเขา น้ำตกหน้าเมืองก็มีช้างไปให้บริการหน้าน้ำตก ขี้เยี่ยวลงน้ำแล้วก็ไหลเข้าชุมชน ผมก็งงว่าทำไมปล่อยกันแบบนี้
นานมาแล้ว อาจรย์ผมจากคณะสิ่งแวดล้อม มหิดล ดร.จิรพล สินธุนาวา ท่านเคยไปทำโครงการโรงแรมสีเขียว คือเหมือนไปเชิญชวนให้โรงแรมบนสมุยประกอบการแบบไม่รบกวนธรรมชาติ ไปคราวนี้ผมได้เจอกับ สิทธิ์พสุ ทองสุข คนสมุยโดยแท้แห่งโรงแรมแฟร์เฮาท์ ซึ่งดูเป็นคนหนุ่มที่เอาจริงเอาจังในการฟื้นสภาพสมุยขึ้นมาไม่ให้ป่วยไข้อย่างนี้ ทั้งเคยเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงเชิญชวนโรงแรมต่างๆ มาทำโครงการโรงแรมสีเขียวในสถานประกอบการ ได้บ้างไม่ได้บ้าง สุดท้ายก็ต้องกลับมาทำในโรงแรมของตัวเอง ทำอย่างจริงจังและต่อเนื่องโดยมีการแยกขยะอย่างจริงจัง
ผมสังเกตตั้งแต่เขาแยกอาหารในห้องอาหารตอนเช้า บางส่วนเอาไปเลี้ยงหมูหลุม นอกนั้นนำไปหมักทำน้ำหมักชีวภาพรดผักและใช้ทำความสะอาดในห้องน้ำ แปลงผักเขางอกงามเติบโตผักทุกชนิดงามด้วยน้ำหมักนี้ โรงแยกขยะเป็นอาคารเล็กๆ ใกล้กัน มีเจ้าหน้าที่ทำหน้าที่แยกขยะโดยตรง แล้วนำไปขาย แม้จะได้เงินคืนมาไม่มาก แต่สิทธิ์พสุบอกว่าการสอนคนจะคุ้มกว่าเงินที่ได้จากการขายพลาสติกอีก บ่อน้ำเสียในบริเวณสวนเกษตรใช้พืชน้ำบำบัด แต่ดูเหมือนใบบัวบก กกเหลี่ยมและพืชริมน้ำจะขึ้นชายน้ำจนดูเป็นบ่อธรรมชาติไปซะแล้ว
อีกทั้งเขาทำสบู่ ทำน้ำยาทำความสะอาดใช้เอง ดอกลั่นทมที่กลิ่นอวลสดชื่นในห้องพัก เห็นคนงานมาเก็บดอกไม้นี้ในทุกๆ เช้านำมาเป็นวัตถุดิบในน้ำยาต่างๆ ในโรงแรม แต่ที่ผมทึ่งคือ เขาปลูกปะการังหน้าโรงแรมของเขา เขาใช้เทคโนโลยีง่ายๆ ให้ปะการังขึ้นและลงตามระดับน้ำที่ขึ้นลงในแต่ละวันเพื่อรักษาความเข้มของแสง และกันตะกอนที่จะไปกวนการเติบโตของปะการัง ในระยะเวลาแค่ 1 ปี ปะการังเขาจึงเติบโตรวดเร็วอย่างไม่น่าเชื่อ นี่อาจจะเป็นข้อพิสูจน์ว่าถ้าเราทำจริง มันก็ทำได้
สมุยให้อาชีพให้มีรายได้ให้อะไรต่ออะไรมาช้านาน ในวันที่สมุยเจ็บป่วย คนที่สมุยอยากทำอะไรเพื่อสมุยกันบ้างหรือไม่ ไม่ใช่กอบโกยจนไม่สนใจว่าอะไรจะเสียหาย ถ้าสำนึกดีและอยากทำก็ไม่ยากแค่ลงมือทำ ถ้าไม่รู้จะเริ่มอย่างไป ไปที่แฟร์เฮาท์ ถามหาพ่อหนุ่มไฮโซแห่งสมุยคนนี้ได้ เพื่อจะได้ร่วมเป็นหนึ่งในคนรุ่นใหม่ที่คืนสมุยให้เป็นสมุยดั้งเดิมด้วยกัน...