Lady Journey สุดทางบูรพา จ.ตราด

เอาใจสาวๆ ที่รักการเดินทางแถมยังใส่ใจสิ่งแวดล้อม โครงการ 'Lady Journey...go green เที่ยวใส่ใจ หัวใจสีเขียว'
ซึ่งจัดโดย การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ร่วมกับ ธนาคาร ยูโอบี จำกัด (มหาชน) ได้แนะนำเส้นทางท่องเที่ยวอนุรักษ์กับเมืองสุดทางบูรพา จังหวัดตราด โดยมี วรนิติ์ กายราศ ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานตราด และ ยุทธชัย เตยะราชกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ บุคคลธนกิจ ธนาคารยูโอบี นำทีมพาสาวๆ Lady Journey และ เอ๋-มณีรัตน์ คำอ้วน ดาราสาวสวยมากความสามารถ ไปรู้จักกับเมืองตราดที่มีมากกว่าทะเล
วันแรกสาวๆ ได้ไปเยี่ยมเยือน ชุมชนบ้านห้วยแร้ง ที่ได้รับรางวัลชุมชนดีเด่นทางด้านการท่องเที่ยว จากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ปี 2550 และยังได้รับรางวัลชนะเลิศหมู่บ้าน OTOP Village Champion (OVC) ปี 2549 ถือเป็นชุมชนตัวอย่างของ “การท่องเที่ยวโดยชุมชน” (Community Based Tourism) ที่ใช้หลักการท่องเที่ยวโดยคำนึงถึงความยั่งยืนของสิ่งแวดล้อม สังคม และวัฒนธรรม ในการบริหารจัดการแหล่งท่องเที่ยวด้วยตนเอง และให้ผู้มาเยือนได้มีส่วนร่วมในกิจกรรมการเรียนรู้ต่างๆ ในชุมชน
ที่นี่ทุกคนจะได้สนุกกับการล่องเรือชมธรรมชาติป่าจากและระบบนิเวศที่ยังคงความสมบูรณ์ริมคลองห้วยแร้ง ทดลองทำอาหารพื้นบ้าน เมนู “ข้าวห่อกาบหมาก” ที่ใช้กาบหมากวัสดุจากธรรมชาติแทนการใช้โฟม และ “ขนมจาก” เรียนรู้วิธีการผลิต ผลิตภัณฑ์พื้นบ้านที่ชาวบ้านทำกันเอง อาทิ สบู่เปลือกมังคุด ครีมฟอกหน้าเปลือกมังคุด และเรียนรู้วิถีชีวิตความเป็นอยู่ของชาวบ้านแบบโฮมสเตย์
จากนั้นเดินทางโดยใช้เส้นทางสายตราด-คลองใหญ่ ถนนที่ได้รับสมญาว่า “ซ้ายภูผาขวาทะเล” มีหาดสวยงามหลายแห่ง เรียงรายคู่ขนานไปกับเทือกเขาบรรทัด ชมความงดงามของทัศนียภาพสองข้างทาง ตลอดระยะทาง 90 กิโลเมตร เพียงแค่วันแรกผู้ร่วมทริปต่างก็อิ่มอกอิ่มใจกับความงามที่ธรรมชาติสรรสร้าง
หลังจากพักผ่อนเอาแรกกันแล้ว วันรุ่งขึ้นกิจกรรมที่เป็นไฮไลท์ก็คือ การเรียนรู้เรื่องการขยายพันธุ์ปูม้ากับชาวบ้าน และทำกิจกรรมปล่อยพันธุ์ปูม้าสู่ทะเล ร่วมกับชาวบ้านหาดไม้รูด ที่ โครงการธนาคารปูม้า ไข่นอกกระดอง กลุ่มประมงพื้นบ้าน หาดไม้รูด ซึ่งชาวบ้านได้ร่วมกันก่อตั้งธนาคารปูม้า รับฝากปูม้าไข่นอกกระดอง เพื่อนำเพาะพันธุ์ลูกปูม้า แล้วปล่อยคืนสู่ท้องทะเล เพื่อเป็นการอนุรักษ์ทรัพยากรในพื้นที่ และช่วยให้ชาวบ้านมีรายได้ที่มั่นคงและยั่งยืนจากอาชีพการทำประมงชายฝั่ง ก่อนจะนั่งเรือไปชมแมงกะพรุนหลากสี ลอยเหนือผิวน้ำทะเล ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติที่เกิดขึ้นเฉพาะในท้องทะเลตราดเท่านั้น โดยจะชมได้เป็นประจำทุกปี ในช่วงปลายฝนต้นหนาว ประมาณเดือน ต.ค.-พ.ย. บริเวณหาดราชการุณย์ หาดทับทิม หาดเล็ก เขาล้าน เป็นต้น
งานนี้สาวๆ ตื่นตาตื่นใจกันเป็นอย่างมากกับฝูงแมงกะพรุนหลากสีสัน ที่มีทั้ง แมงกะพรุนโตนด แมงกะพรุนลอดช่อง แมงกะพรุนถ้วย สีใสอมชมพูบ้างอมฟ้าบ้าง รวมไปถึงแมงกะพรุนไฟ ซึ่งเป็นแมงกะพรุนที่พบมากที่สุดในประเทศไทย การชมปรากฏการณ์นี้จะขึ้นอยู่กับกระแสลมและกระแสคลื่น หากลมและคลื่นสงบ แมงกะพรุนจะรวมเป็นกลุ่มให้เห็นจำนวนมาก และอยู่ใกล้ฝั่ง แต่หากคลื่นลมแรงไม่สงบก็จะกระจายตัวกันอยู่
เมื่อทำกิจกรรมหัวใจสีเขียวเรียบร้อยแล้วก็ไปสัมผัสประสบการณ์การท่องเที่ยวแบบใหม่ใน ชุมชนชาวชอง บ้านช้างทูน อ.บ่อไร่ ซึ่งชาวชอง ถือเป็นชนพื้นถิ่นดั้งเดิมที่ตั้งรกรากอยู่ทางภาคตะวันออกของประเทศไทย ในบริเวณจังหวัดระยอง จันทบุรี และตราด มีภาษาพูดและวัฒนธรรมเฉพาะถิ่น ทั้งนี้ชาวชองในถิ่นอื่น มักเรียกชาวชองบ้านช้างทูนว่า “สำเหร่” หรือ ซัมเร (Samrae) เสน่ห์วิถีชีวิตของชาวชองที่บ้านช้างทูน คือความรักความผูกพันที่แน่นแฟ้นในเครือญาติ และยังคงรักษาขนบธรรมเนียมประเพณีต่างๆ ของชาวชอง อาทิ พิธีทรงผีหิ้ง พิธีลอยเรือตะโกไว้ได้มาจนถึงปัจจุบัน
อีกกิจกรรมหนึ่งที่ถูกอกถูกใจสาวๆ ก็คือ การทำ “สปาโคลนขาว” ที่ได้จากภูมิปัญญาท้องถิ่น โดยโคลนขาวที่นำมาใช้ทำสปา นำมาจากลำธารที่ชาวบ้านเชื่อว่าเป็นสายธารแห่งอัญมณีที่ไหลมาจากป่าต้นน้ำในเขตเทือกเขาบรรทัดแหล่งกำเนิดพลอยแดง “ทับทิมสยาม” ซึ่งถือเป็นน้ำแร่ที่มีความศักดิ์สิทธิ์ช่วยชะลอความชรา และโคลนขาวนี้ เมื่อพอกผิวหรือขัดตัวแล้ว ทำให้ผิวพรรณผ่องใสขาวนวลและเปล่งประกายระยิบระยับผิวเมื่อถูกแสงแดด เป็นสูตรลับแห่งความงามตำรับชอง
หลังจากได้สัมผัสเรื่องสวยๆ งามๆ กันไปแล้ว เมื่อมาถึงแหล่งกำเนิดพลอยแดงทับทิมสยามทั้งที ก็ไม่พลาดที่จะไปทดลองร่อนพลอย หาพลอยในลำธาร พร้อมเรียนรู้ประวัติศาสตร์ท้องถิ่นยุคตื่นพลอย ถ่ายทอดเรื่องราวผ่านความทรงจำกับชาวชอง พอได้เหงื่อรู้สึกอ่อนล้ากันบ้างเล็กน้อย ก็ตบท้ายด้วยการไปเรียนรู้การอยู่ไฟตามตำรับแพทย์แผนชองโบราณที่ใช้สมุนไพรและไม้หอมนานาชนิดที่มีเฉพาะท้องถิ่นบ้านช้างทูน หรือบ้านหนองไม้หอม พร้อมทดลองอบตัวใน “สุ่มไก่” เพื่อทำให้ผิวพรรณเปล่งปลั่งและฟื้นฟูสภาพอวัยวะภายในให้แข็งแรง ตามตำรับ 'สปา เดอ ชอง' (Spa De Chong) ที่ บ้านสปาสุ่มไก่
วันสุดท้ายของการเดินทาง จุดหมายคือ เขาล้าน หาดราชการุณย์ ซึ่งเป็นที่ตั้งของ “ศาลาราชการุณย์” ซึ่งสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตั้งเป็นศูนย์สภากาชาดเขาล้าน เพื่อช่วยเหลือชาวเขมรอพยพกว่าแสนคน ที่อพยพหนีภัยสงครามภายในเขมรมาพึ่งพระบรมโพธิสมภารในประเทศไทย เมื่อปี 2522 ชมพิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงเหตุการณ์ในครั้งนั้น
จากนั้นไปสักการะหลวงพ่อแดง พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ ที่เคารพบูชาของชาวประมงในแถบนี้ แล้วจึงออกเดินทางสู่เส้นทางสุดทางบูรพา ตามเส้นทางคลองใหญ่-บ้านหาดเล็ก ผ่านส่วนที่แคบที่สุดของประเทศไทย ความกว้างเพียง 450 เมตร หลักบนถนนตราด-คลองใหญ่ กิโลเมตรที่ 81-82 บริเวณบ้านโขดทราย บนถนนตราด-คลองใหญ่ เพื่อไปตลาดการค้าชายแดน-กัมพูชา บ้านหาดเล็ก สนุกสนานกับการเลือกซื้อสินค้าราคาถูกที่มาจากประเทศกัมพูชา อาทิ เครื่องใช้ไฟฟ้า แว่นตา น้ำหอม กระเป๋าแฟชั่นฯ
ก่อนกลับกรุงเทพฯ สาวๆ ยังได้แวะชมพิพิธภัณฑสถานเมืองตราด แหล่งเรียนรู้ประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม และวิถีชีวิตเมืองตราด ภายในมีห้องนิทรรศการที่จัดแสดงวัฒนธรรมของ ผู้คนเมืองตราด จำลองบรรยากาศตลาดเมืองตราด เรื่องราวเรื่องราวภูมิศาสตร์ ภูมิอากาศ ทรัพยากรธรรมชาติ วัฒนธรรมและกลุ่มชาติพันธุ์ โบราณคดีและประวัติศาสตร์เมืองตราด และเหตุการณ์สำคัญในสมัยสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว อาทิ การเสด็จประพาสเมืองตราด, เหตุการณ์ยุทธนาวีเกาะช้างระหว่างไทยกับฝรั่งเศส ก่อนจะอำลาเมืองตราดด้วยการชิมและเลือกซื้อสละสดและสละลอยแก้ว ที่ สวนสมโภชน์ สวนสละชื่อดัง เป็นของฝากติดไม้ติดมือกลับบ้าน
ทริปนี้เรียกว่านอกจากจะเปิดประสบการณ์การท่องเที่ยวสำหรับสาวๆ แล้ว ยังสร้างสำนึกรับผิดชอบในแหล่งท่องเที่ยวของเมืองไทย และสนับสนุนเศรษฐกิจชุมชนอีกด้วย