แมงกะพรุนหลากสี ที่สุดทะเลตะวันออก

แมงกะพรุนหลากสี ที่สุดทะเลตะวันออก

หากเปรียบประเทศไทยเสมือนเป็น 'ขวานทอง' แน่นอนว่าพื้นที่ทางภาคใต้นั้นถูกนิยามให้เป็นด้ามขวาน

ส่วนพื้นที่ทางตะวันออกอย่าง จ.ตราด ซึ่งตั้งอยู่ปลายสุดด้านตะวันออกของประเทศไทยนั้นคงไม่ผิดนักถ้าจะบอกว่าที่นี่คือ 'คมขวาน' ของไทย

ว่ากันว่าพื้นที่คมขวานแห่งนี้เต็มไปด้วยทัศนียภาพที่สวยงามแปลกตา ทั้งเทือกเขา น้ำตก ป่าไม้ หมู่เกาะน้อยใหญ่ หาดทรายนวลละเอียด มีกลุ่มปะการังอันงดงาม รวมทั้งความงามที่แสนมหัศจรรย์แห่งท้องทะเลเมืองตราดที่นับว่าแปลกใหม่ที่สุด นั่นคือ แมงกะพรุนหลากสี ที่ บ้านไม้รูด หมู่ 1 ต.ไม้รูด อ.คลองใหญ่ จ.ตราด นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและช่าวต่างชาติต่างพากันมาดูแมงกะพรุนถ้วยหลากสีที่นี่กันอย่างคึกคัก

ช่วงต้นเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ผมกับเพื่อนๆ ที่เรียกตัวเองว่า 'คณะตะลอนทัวร์' ได้ไปสัมผัสกับความมหัศจรรย์แห่งนี้กับตาตัวเองมาแล้ว เพียงแค่ได้เห็นครั้งแรกก็ยอมรับเลยว่า สวยงามมาก! จนรู้สึกอยากเอามาบอกต่อ

เช้าวันนั้นเราเดินทางไปที่สะพานท่าเทียบเรือชุมชนไม้รูดเพื่อลงเรือไปดูแมงกะพรุนถ้วย โชคดีที่แดดรำไรๆ ไม่ร้อนมาก ซึ่งคลายความกังวลในใจเรื่อง 'กลัวดำ' ให้คนขาวน้อยอย่างผมได้ระดับหนึ่ง

ขณะที่เรานั่งเรือหาปลาที่ชาวบ้านเอามาดัดแปลงเป็นเรือนำเที่ยวออกสู่ท้องทะเลสีคราบนั้น พี่ใหญ่(แต่ตัวเล็ก)ที่เป็นคนขับเรือประจำทริปนี้เล่าให้ฟังว่า แมงกะพรุนหลากสีเหล่านี้ชาวประมงพื้นบ้านพบเห็นกันมานานแล้ว แต่มีจำนวนไม่มาก มักพบในช่วงประมาณกลางเดือนตุลาคมไปจนถึงประมาณปลายเดือนพฤศจิกายน หรือช่วงปลายฝนต้นหนาวนั่นเอง

โดยแมงกะพรุนที่พบบริเวณหาดราชการุณย์ อ.เมือง และในทะเลปากอ่าวไม้รูด อ.คลองใหญ่ มีทั้งสีขาว สีน้ำตาล สีน้ำเงิน สีน้ำตาลหางลาย ทั้งหมดนี้จะลอยขึ้นเป็นแพบนผิวน้ำ โดยเฉพาะจุดที่น้ำทะเลนิ่ง สะอาดใส ไม่มีคลื่นมาก แมงกะพรุนจะชุมเป็นพิเศษ ซึ่งแมงกะพรุนถ้วยเหล่านี้มักจะลอยมาเกยตามชายหาดแล้วตายไป ตามวงจรชีวิตของมัน ในปีนี้ถือว่าพบเห็นได้ช้ากว่าปีที่แล้วเนื่องจากสภาพอากาศแปรปรวน

สิ้นเสียงการบรรยายจากพี่ใหญ่ประมาณ 5 นาที เรือก็แล่นฝ่าฝูงแมงกะพรุน ทุกคนบนเรือร้อง โห! พร้อมคว้ากล้องและโทรศัพท์สมาร์ทโฟนตัวเก่งออกมาแล้วกดชัดเตอร์ถ่ายภาพแห่งความมหัศจรรย์อย่างไม่ยั้ง ในตอนนั้นเองพี่ใหญ่ก็พูดว่า "เลยไปอีกหน่อยจะชุมกว่านี้ครับ" พอได้ยินอย่างนั้นทุกคนก็ผละออกมา... ไม่ใช่ว่าจะรอถ่ายภาพในจุดถัดไปนะ แต่ทุกคนมัวสาละวนอยู่กับการโพสต์ภาพแมงกะพรุนลงเฟซบุ๊คของตัวเองต่างหาก (ฮา..)

เรือล่องต่อไปอีกหนึ่งอึดใจ เราก็พบว่าเป็นอย่างที่พี่ใหญ่บอก เพราะจุดนี้มีแมงกะพรุนฝูงใหญ่ลอยตัวขึ้นมาบนผิวน้ำให้เรากดชัดเตอร์รัวมากกว่าเดิม พี่ใหญ่พาเราชมแมงกะพรุนต่ออีก 3-4 จุด ก็ได้เวลาหันเรือกลับเข้าฝั่ง พี่ใหญ่เล่าอีกว่าการที่พบแมงกะพรุนจำนวนมากแบบนี้ทำให้ชาวประมงพื้นบ้านไม่สามารถวางอวนดักสัตว์น้ำได้ เพราะแมงกะพรุนชอบมาติดอวน จะปลดออกก็ยาก เวลาจับโดนตัวที่มีพิษก็จะเกิดอาการคัน คนที่นี่จึงเปลี่ยนวิกฤติให้เป็นโอกาส หันมาให้บริการพานักท่องเที่ยวไปชมแมงกะพรุนแทน โดยคิดค่าบริการคนละ 100 บาท ด้วยเหตุนี้ชาวประมงที่บ้านไม้รูดจึงมีรายได้พิเศษในช่วงเวลาดังกล่าว

ก่อนเทียบท่าขึ้นฝั่งพี่ใหญ่เล่าทิ้งท้ายให้เราเสียดายว่า วันนี้แมงกะพรุนไม่เยอะเหมือนทุกวัน เพราะทะเลไม่นิ่ง แกอ้อนต่อท้ายนิดๆ ว่าอยากให้พวกเรากลับมาชมความมหัศจรรย์อีกครั้ง

ไหนๆ ก็ติดใจจนถอนตัวไม่ขึ้นอยู่แล้ว เราทุกคนจึงให้คำมั่นกับพี่ใหญ่ว่าจะกลับมาชมแมงกะพรุนถ้วยหลากสีที่บ้านไม้รูดอีกครั้งแน่นอน