ตุ๊กตุ๊กพาเที่ยวรอบโลก

พวกเขาเดินทางไปทั้งหมด 39 ประเทศ รวมระยะทางทั้งสิ้น 42,120 กิโลเมตร พวกเขาไม่ใช่นักท่องเที่ยวทั่วไป เพราะการเดินทางของเขาเป็นไปเพื่อรณรงค์ให้คนทั่วโลกเห็นคุณค่าของการศึกษา นอกจากนั้น พาหนะตลอดการเดินทาง คือ รถตุ๊กตุ๊ก 3 ล้อ ยานพาหนะที่คุ้นหน้าคุ้นตากันดีในบรรดาประเทศแถบเอเชีย รวมทั้งไทย

นิค เล่าว่า จุดประสงค์ใหญ่ของการเดินทางคือเพื่อรณรงค์เรื่องปัญหาการศึกษา ไอเดียนี้เกิดขึ้นหลังจากการเดินทางไปต่างประเทศและเห็นบุคลากรการศึกษาในประเทศนั้นๆ ทำงานกันอย่างเต็มที่เพื่อเด็กๆ ของพวกเขา ริช เสริมว่า ผู้นำทั่วโลกให้สัญญาว่าจะส่งเสริมการศึกษาให้ทั่วถึง แต่ความเป็นจริงปรากฎว่า เด็กๆ กว่า 61 ล้านคนทั่วโลก ยังไม่ได้รับการศึกษา ในระหว่างการเดินทาง พวกเขาไปเยี่ยมเด็กๆ ในสลัมที่ไคโร คาทูมและคัมพาลา ค่ายผู้อพยพคองโกที่บูรุนดี้

พวกเขาเริ่มต้นการเดินทางที่หน้าพิพิธภัณฑ์แห่งหนึ่งของลอนดอน ในวันที่ 13 สิงหาคม 2555 และต่อไปที่ทางตอนใต้ของยุโรป เมื่อออกจากตุรกี พวกเขาก็ข้ามไปที่อียิปต์และแอฟริกาใต้ หลังจากนั้นพวกเขาก็ขนตุ๊กตุ๊กขึ้นเรือล่องต่อไปที่อินเดียและประเทศในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ พวกเขาจะออกจากเอเชียที่สิงคโปร์ไปยังประเทศแถบลาตินอเมริกาและอเมริกาใต้ด้วยการเอารถตุ๊กตุ๊กใส่เรือไปอีกเช่นเดียวกัน ที่นั่น พวกเขาเกือบต้องยกเลิกการเดินทางเพราะพาหนะคู่ใจเสียเกือบซ่อมไม่ได้ ประเทศสุดท้ายของการเดินทางคือ บัวโนส ไอเรส ตอนนี้กินเนสส์บุ๊คออฟเรคคอร์ดกำลังพิจารณารายละเอียดของการเดินทางและคาดว่าจะประกาศให้การเดินทางของทั้งสองเป็นการเดินทางรอบโลกด้วยรถตุ๊กตุ๊กที่มีระยะทางยาวที่สุด

นิค เล่าว่า เหตุผลที่เลือกรถตุ๊กตุ๊กเพราะขนาดที่เล็กกระทัดรัดและลักษณะของรถก็เป็นที่รู้จักกันในหลายประเทศที่พวกเขาไป

“ส่วนใหญ่คนจะเลือกขับรถยนต์หรือขี่จักรยานรอบโลก ซึ่งก็น่าประทับใจมากกว่าวิธีของพวกเรา แต่เราต้องการไม่เหมือนใคร เพื่อที่ผู้คนจะได้สังเกตเห็น นอกจากนี้ ยังไม่เคยมีใครขับรถตุ๊กตุ๊กไปที่แอฟริกาเลย และยังจะได้ถูกบันทึกไว้ในกินเนสส์บุ๊คด้วย ดังนั้นรถตุ๊กตุ๊กจึงกลายเป็นพาหนะที่สมบูรณ์แบบสำหรับพวกเรา”

รถตุ๊กตุ๊กนี้เหมาะสำหรับวิ่งในเมืองซึ่งเหมาะกับการเดินทางของพวกเขามาก แต่ข้อเสียคือมันวิ่งทางตรงเป็นเวลานานๆ ไม่ค่อยได้ และเมื่ออยู่ในสถานที่ที่ละติจูดสูงๆ ก็มักจะสตาร์ทไม่ติด นอกจากนี้ถ้าเจอโคลนหรือทรายก็จะมีปัญหา นิค เสริมว่า การเดินทางช่วงที่น่าเบื่อที่สุดคือการขับรถทางตรงนานๆ และไม่มีวิวดู

"รถตุ๊กตุ๊กเป็นรถที่ปลอดภัยเพราะมันไม่สามารถวิ่งเร็วๆ ได้ ดังนั้น ถ้าพวกเราไม่หลับคาพวงมาลัย การเกิดอุบัติเหตุร้ายแรงก็ไม่มีทางเกิดขึ้นได้ เราขับรถตกถนนและถูกชนท้ายด้วย ที่มาเลเซีย เราถูกชนท้ายจนกระเด็นเข้าไปในเลนทางด่วน แต่ก็โชคดีที่ไม่มีรถในตอนนั้น"

ถ้าจะเดินทางรอบโลกอีก นิคว่า เขาอยากเดินทางด้วยมอเตอร์ไซค์รอยัล เอ็นฟิลด์ แต่ถ้าเดินทางระยะสั้นหน่อย เขาอยากลองรถจักรยาน 2 ที่นั่ง

เมื่อถามว่า ชายแดนไหนที่ยากลำบากที่สุด นิค เล่าว่า เขามีเอกสารที่ถูกต้องทำให้มักไม่ค่อยมีปัญหาในการนำตุ๊กตุ๊กข้ามชายแดน แต่ก็มีบางประเทศเหมือนกันที่ไม่อนุญาตในตอนแรก แต่หลังจากนั้นไม่นานก็เปลี่ยนใจ ที่ท้าทายที่สุดคือ ตอนเอารถขึ้นเรือเพื่อเดินทางต่อ

“เราใช้เวลาหลายสัปดาห์ในการขออนุญาตศุลกากรที่อียิปต์กับโคลัมเบียเพื่อส่งรถขึ้นเรือ เราต้องอดทนและใจเย็น”
ส่วนค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ทั้งสองได้รับการสนับสนุนจากสปอนเซอร์หลายแห่ง เช่น มหาวิทยาลัยคาร์ดิฟฟ์และดีเอสวี ทรานสปอร์ตแอนด์ลอจิสติก เงินที่เรี่ยไรได้ระหว่างทริปก็จะบริจาคให้โครงการการศึกษาที่ประเทศนั้นๆ

ส่วนแผนการในอนาคต พวกเขาจะเดินสายไปพูดตามโรงเรียนต่างๆ ทั่วอังกฤษ ซึ่งจะใช้เวลาประมาณ 2-3 เดือน หลังจากนั้นก็จะเขียนหนังสือเกี่ยวกับการเดินทางและพยายามหาทีมทำงานโครงการสารคดีเกี่ยวกับการเดินทางและการศึกษา ซึ่งน่าจะออกได้ราวปีหน้า หลังจากนั้น พวกเขายังไม่ได้ตัดสินใจแน่นอน แต่ยังอยากทำงานเกี่ยวกับการพัฒนาและการศึกษา ริชจะไม่กลับไปสอนหนังสือ แต่จะหันมาทำเกี่ยวกับธุรกิจด้านการศึกษา

“ส่วนผม ผมคิดถึงการสอนหนังสือและสังคมของมัน ผมจะกลับไปสอนหนังสืออีก” นิค กล่าว

..................
ที่มา : เว็บไซค์เดลี่ เมลล์และซีเอ็นเอ็น