ชีวิตสำราญ...ที่เกาะยาวน้อย

ชีวิตสำราญ...ที่เกาะยาวน้อย

มื่อไปเที่ยวทะเล อะไรจะมามีความสุขเท่ากับการเจอแดดจัดๆ ทะเลเรียบไร้คลื่นลมเป็นไม่มีอีกแล้ว เพราะมันทำให้ทะเลดูมีความสวยงามแทบจะทุกมุมมอง

เน้ำทะเลสีเขียวใสราวกับแดดแทบจะแทงแสงทะลุไปถึงพื้นทรายใต้น้ำได้ ฟ้าสีฟ้าจัดจ้าน แม้จะกลัวแดดเผาจนคล้ำ แต่ก็คุ้มถ้าได้เห็นทะเลอย่างที่ผมบอก และที่เกาะยาวน้อย ใน จ.พังงา ก็เป็นอย่างที่ผมว่ามาไม่ผิดเพี้ยน

อำเภอเกาะยาว อยู่กึ่งกลางระหว่างภูเก็ตและกระบี่ก็ว่าได้ มีเกาะยาวน้อยและเกาะยาวใหญ่ ชื่อก็บอกแล้วว่าพื้นที่ไหนใหญ่กว่ากัน ความเจริญมาทิ้งไว้ที่เกาะยาวน้อยทั้งหมด สถานีตำรวจเอย ที่ว่าการอำเภอเอย โรงพยาบาลอำเภอสารพัด และความเป็นกึ่งกลางระหว่างภูเก็ตและกระบี่ ทำให้มีเรือโดยสารมาจากท่าเรือบางโรงของภูเก็ต มาแวะเกาะยาวน้อยที่ท่าเรือมาเนาะ แล้วก็มีเรือจากเกาะยาวน้อยจากท่าเรือท่าเขาไปท่าเลนที่กระบี่ เป็นแบบนี้ตลอด นักท่องเที่ยวชาวไทยไม่ค่อยรู้ แต่ต่างชาติประเภทแบกเป้ รู้เรื่องดีกว่าเราอีก ใครลองได้ไปถึงเกาะยาวน้อยแล้วไม่หยุดเที่ยวซะก่อน ผมว่าเสียดายสุดๆ

ผมไม่รู้ว่าเขาจัดเกาะยาวเป็นแหล่งท่องเที่ยวประเภทไหน เพราะวิถีชุมชนมุสลิม ที่มีน้ำใจไมตรี ยิ้มแย้มแจ่มใส ทักทายนักท่องเที่ยว ความปลอดภัยจากอาชญากรรมสูง ชนิดที่มอเตอร์ไซค์จอดเสียบกุญแจไว้ไม่มีหาย เพราะเขารู้จักกันทั้งเกาะ ใครแปลกหน้าแปลกตาก็จะรู้ว่ามาจากไหน พักที่ไหน

การเดินทางบนเกาะยาวไปตามแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ มีหลายรูปแบบ ทั้งการเช่ารถจักรยานปั่นเที่ยวหรือเช่ามอเตอร์ไซค์หรือจะเหมารถปิคอัพก็ได้ ติดต่อได้ทุกที่พักหรือที่ท่าเรือ ราคามาตรฐาน มีป้ายแจ้งราคาไว้ชัดเจน

ที่พักบนนี้มีหลากหลายราคา หลากหลายรูปแบบทั้งที่เป็นบังกะโลคืนละไม่กี่ร้อยไปจนหลักแสน ที่พักกระจายกันไปโดยทั่วตามแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ หรือในชุมชนที่ชาวบ้านเริ่มสร้างที่พักไว้ที่บ้านของตัวเองรองรับนักท่องเที่ยวที่ขยายตัวขึ้น แต่ที่ผมไปพักนี่น่าสนใจครับ เขาชื่อ ท่าเขาเบย์วิว ห่างจากท่าเรือท่าเขาที่จะไปกระบี่ราวๆ 500 เมตร ที่ว่าน่าสนใจเพราะ เป็นกลุ่มของชาวบ้านที่เขามีการรวมกันทำผลิตภัณฑ์ชุมชน เช่น ทำผ้าบาติก ทำผลิตภัณฑ์มะพร้าว ทำร้านอาหาร ทำขนม ฯลฯ แล้วเอากำไรมาปันผลแบ่งกันปลายปี

กลุ่มที่มาทำที่พักและร้านอาหารนี้ก็เป็นหนึ่งในกิจกรรมรวมกลุ่มของชาวบ้าน ที่เจียดที่สวนยางมาทำที่พัก ดังนั้นเราจึงเห็นแม่ครัวที่ทำอาหาร คนทำความสะอาดห้องพัก เป็นชาวบ้านที่เป็นสมาชิกกลุ่มมาช่วยกัน วันไหนแขกมากก็เอาลูกเอาหลานมาช่วยเสิร์ฟอาหาร ผมว่ามันน่ารักดี ที่พักเขาคืนละ 800-1,200 บาท ที่พักหันหน้าไปทางทิศตะวันออกเห็นป่าเกาะ เห็นพระอาทิตย์ขึ้น ทิวทัศน์เดียวกับซิกเซนต์คืนละ 350,000 บาทครับ มีหาดท่าเขา ที่มีทะเลแหวกด้านหน้าสวยเชียวละ นี่ผมโฆษณาให้ฟรีเลย เพราะชอบที่ชาวบ้านรวมกลุ่มกัน จะได้สร้างสำนึกรักบ้านเกิด ไม่ใช่มีนักลงทุนจากที่อื่น มาโกยเงินออกไป โทรไปจองก่อนนะครับ เพราะที่พักเขามีไม่มาก ( 08 6942 0812 ,08 3395 5885)

เกาะยาวน้อยนี้ที่เที่ยวมีมากมายจริงๆ จนผมคิดว่าถ้าละเลียดเที่ยวก็คงเป็นอาทิตย์ ทั้งยังมีการออกทะเลเที่ยวกลุ่มเกาะห้อง ที่พอมาเริ่มจากเกาะยาวโดยใช้เรือหางยาวใช้เวลาแค่ 15 นาทีก็ถึง แต่ถ้ามาจากทางกระบี่ใช้วลาเป็นชั่วโมง แล้วไหนจะกลุ่มเกาะโรย เกาะกูดูอีกละ แต่ละแห่งนี่ไปเห็นรับรองร้องกรี๊ดในความสวยงามของหมู่เกาะทะเลไทยแน่ๆ

น้ำหนักแหล่งท่องเที่ยวของเกาะยาวน้อย จะมาเทอยู่ทางฝั่งตะวันออกและทางทิศใต้ของปลายเกาะ หาดทรายต่างๆ ไล่มาตั้งแต่ท่าเรือท่าเขา ที่มีหาดท่าเขา ทะเลแหวกท่าเขา ลงมาทางใต้เรื่อยๆ หาดคลองจาก จนไปสุดที่ย่านหาดป่าทรายที่เป็นย่านท่องเที่ยว ชายหาดของเกาะยาวน้อยแทบทุกหาด ยังดูสงบ เงียบ คนน้อย แม้เม็ดทรายจะไม่ละเอียดเท่าที่สิมิลัน แต่ทรายที่นี่รับประกันว่าบางเม็ดไม่เคยถูกย่ำจากเท้านักท่องเที่ยวมาก่อน มันจึงดูว่าเป็นหาดส่วนตัวกลายๆ ขนาดฤดูท่องเที่ยวคนก็ยังไม่พลุกพล่าน แล้วแบบนี้คนที่ชอบทะเลสวยๆ และเงียบๆ จะไม่คลั่งไคล้ทะเลเกาะยาวน้อยได้ไงละครับ

แต่ที่ผมชอบอย่างมากและแทบจะต้องจอดรถลงไปถ่ายภาพแทบทุกจุดที่มองเห็นก็คือ ป่าเกาะกลางทะเล ป่าเกาะที่เป็นเกาะหินปูนรูปร่างต่างๆ ทั้งกลุ่มเกาะห้อง เกาะเหลายาดิง เกาชาบัง เกาะอันตู เกาะอีกสารพัดที่โดดเด่นยืนตระหง่านอวดรูปร่างที่สวยงามกลางทะเล ยิ่งเมื่อมีหลายๆ เกาะมาอยู่ใกล้ๆ กัน ดูเป็นป่าจริงๆ เมื่อแดดจัด เกาะต่างๆ ยิ่งชัดเจน สีสันของแร่ธาตุในหินปูน เหมือนตึกที่ถูกทาสี สีส้ม สีแดง สีเทา ดูสวยงามมาก โดยเฉพาะในยามเช้าตรู่ เงาของเกาะที่ซ้อนๆ กัน ท่ามกลางฉากฟ้าที่ค่อยๆ สีแดงระเรื่อ ผมว่าแม้แต่จิตรกรวาดภาพก็อาจจะต้องมาดูที่นี่เป็นต้นแบบ สวยมากครับ ต้องยกนิ้วให้เลย

แต่ถ้าย้ายมาทางฝั่งตะวันตก ตามเส้นทางเลียบทะเล ทางเส้นนี้จะไปสุดที่บ้านอันเป้า ชายหาดแม้จะเป็นหาดหิน มีหาดทรายแคบๆ แต่ทิวทัศน์ก็ไม่ใช่ย่อย เพราะเห็นเกาะโรย เกาะกูดู โดดเด่นเป็นป่าเกาะย่อยๆ ทางด้านนี้ เพราะความที่เป็นหาดหินจึงมีหมู่บ้านทำประมงอยู่กันมาก ใครชอบวิถีชีวิตเป็นถูกใจ ไปดูเขาทำกระชังปลาขนาดใหญ่ สานตาข่ายด้วยลวด สูง-กว้างเป็นเมตรๆ เอาไปทิ้งไว้กลางทะเลเป็นเดือนนั่นแหละถึงกู้ขึ้นมา ทางนี้เขามีการต่อเรือ การใช้แนวหินมาล้อมเป็นคูแล้วเอาตาข่ายไปดักปากทาง พอน้ำลงปลาก็ติดข่าย ภูมิปัญญาล้วนๆ ใกล้ๆ กันเขาจะมีบ่อน้ำจืดศักดิ์สิทธิ์ คืออยู่ในทะเลพอน้ำลง บ่อนี้ถึงจะโผล่แล้วน้ำจืดสนิท ผมลองชิมแล้ว มีหลายบ่อด้วย

อีกที่ที่ต้องไปดูให้ได้คือ กระชังปลาของบังหนีด ที่ปลายแหลมไทร เขาทำกระชังปลาเลี้ยงไว้ขาย มีปลากะพง กุ้งมังกรเจ็ดสี แต่เขาเลี้ยงปลาชนิดอื่นด้วย เช่น ปูเสฉวนยักษ์ ฉลามเสือ ปลาหมอทะเล ดาวทะเลชนิดต่างๆ ไว้ให้นักท่องเที่ยวมาเที่ยวชม ให้อาหารปลาเก็บค่าดูแค่คนละ 50 บาท ถือเป็นรายได้เสริมที่ดีมาก

นี่ขนาดว่าผมยังไม่ได้ลงเกาะหรือดำน้ำไปดูแนวปะการังสีฟ้าที่หายาก ยังไม่ได้พาไปดูทุ่งควาย ไร่แตงโม นาข้าว หรือดูนกเงือก นกเป็ดแดงบนเกาะ ทั้งยังไม่ได้พาไปกินโรตีร้านเพื่อนกันที่บ้านท่าค่าย ยังไม่ได้พาไปดูดงหญ้าทะเลที่ปลายแหลมนะครับ แค่นี้ก็ยืนยันได้ว่าความสำราญบนเกาะยาวน้อยนั้นยังอีกมากมายเหลือเกิน อยากรู้อะไรมากกว่านี้ โทรไปสอบถาม ททท.สำนักงานพังงาที่โทร.0 7648 1900-902

แล้วหาโอกาสไปสำราญกันที่เกาะยาวน้อยสักครั้งหนึ่งครับ...