ฟ้าเขาโอบกอดที่ "ลา ทอสคานา"

หมอกจางๆ ที่กำลังลอยละล่องห่มคลุมผืนป่าผืนใหญ่ เป็นภาพที่ใครเห็นเป็นต้องร้อง "ว้าว" ออกมาทุกคน
และจะยิ่งแปลกใจขึ้นไปอีก เมื่อได้รู้ว่า ดินแดนที่มีหมอกไหล อากาศเย็นสบาย ท่ามกลางต้นไม้เขียวขจีนั้น อยู่ใกล้มหานครแห่งความสุขสันต์เพียงไม่เกิน 3 ชั่วโมง
เป็นอีกหนึ่งจุดหมายปลายทางยอดฮิตของคนเมืองเลยทีเดียว สำหรับ "สวนผึ้ง" อำเภอหนึ่งในจังหวัดราชบุรี ที่โอบล้อมไปด้วยภูเขาอันอุดมสมบูรณ์ ตลอดทั้งปีจะมีความสวยงามของพื้นที่แตกต่างกันไป นั่นทำให้นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางมาเยี่ยมเยือนได้แบบไม่ขาดสาย
หลายๆ คนมาสวนผึ้งแล้วแทบไม่ต้องวางแผนล่วงหน้า เพราะที่นี่มักจะมีสถานที่ท่องเที่ยวใหม่ๆ เกิดขึ้นและพร้อมทำให้เราเปลี่ยนแผนกันได้เสมอ แน่นอนว่า ไปครั้งเดียว วันเดียว อาจจะไม่เพียงพอ ถ้าใครอยากพักต่อสัก 1 คืน หรือมากกว่านั้น สวนผึ้งมีโรงแรม รีสอร์ท ให้บริการมากมาย
ลา ทอสคานา (La Toscana) อาจไม่ใช่ตัวเลือกใหม่เอี่ยม เพราะเปิดให้บริการมาจะครบ 5 ปีในวันที่ 1 ธันวาคม 2557 แล้ว แต่เชื่อว่า ลา ทอสคานา เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งในสวนผึ้งที่คนรักความโรแมนติกชื่นชอบ
อาคารที่ก่อด้วยอิฐสีแดงเหล่านั้นตั้งซ้อนแทรกอยู่กับหมู่ต้นไม้มองแล้วสบายตา ใกล้ๆ กันมีรูปปั้นเหล่าบรรดาทวยเทพแห่งความรักอย่าง "คิวปิด" เพิ่มความโรแมนติกให้กับผู้มาเยี่ยมมาเยือนได้เป็นอย่างดี และเมื่อใครก็ตามที่มายืนอยู่ท่ามกลางลา ทอสคานา แห่งนี้ จะรู้สึกได้ทันทีว่าที่นี่คือ "อิตาลี" ชัดๆ
"ลา ทอสคานา เป็นภาษาอิตาเลียน แปลว่า เดอะ ทัสคานี เป็นชื่อแคว้นๆ หนึ่งในอิตาลี เจ้าของที่นี่ค่อนข้างโรแมนติกค่ะ คือเขามาดูทำเลที่ตั้งแล้วรู้สึกว่าถ้าสร้างออกมาจะต้องคล้ายคลึงกับทัสคานีมากแน่ๆ ซึ่งเขาชอบสไตล์นี้อยู่แล้ว ก็เลยสร้างที่นี่ขึ้นมา" ศุภรัตน์ พันธุ์พงศ์ ผู้จัดการ ลา ทอสคานา เล่า
การดำเนินงานเริ่มต้นราวปี 2551 จนมาเปิดให้บริการวันที่ 1 ธันวาคม 2552 และแน่นอนว่า ได้รับการตอบรับอย่างดีจากนักท่องเที่ยว เพราะรูปแบบที่แตกต่าง รวมถึงจุดเด่นที่เป็นสถาปัตยกรรมแบบอิตาลีด้วย โดยเจ้าของกิจการได้ปรึกษากับสถาปนิกชั้นนำจนได้แบบแปลนที่สวยงามเป็นเอกลักษณ์ตามแบบฉบับทัสคานี คือสร้างโดยใช้อิฐหรือหินก่อตัวขึ้นไปเป็นบ้าน ไม่มีเสาหรือไม้คาน มีจั่วสั้นๆ และเพิ่มฟังก์ชั่นดาดฟ้าเข้าไป เพื่อให้ซึมซับความงามจากท้องฟ้าในยามค่ำคืนที่เต็มไปด้วยดวงดาว มีเนินดินขึ้นมาโอบล้อมตัวบ้านไว้แล้วจัดเป็นสวนสวยๆ มองเผินๆ เหมือนกับบ้านที่ซ่อนอยู่ตามเทือกเขา และให้ความเป็นส่วนตัว
"เราได้รางวัลสถาปัตยกรรมดีเด่นด้วย" ศุภรัตน์ บอก ก่อนจะเพิ่มเติมว่า อาคารต่างๆ ในลา ทอสคานา เป็นสถาปัตยกรรมแบบทัสคานี โดยที่เจ้าของเลือกที่จะซื้อเครื่องมาผลิตก้อนอิฐเองเพื่อลดปริมาณการใช้ปูนซีเมนต์ และเลือกใช้ดินในหมู่บ้านแทนเพื่อให้ความรู้สึกแบบธรรมชาติ ส่วนงานไม้ต่างๆ นั้น ก็เป็นไม้เก่าจากบ้านเก่าของชาวบ้าน แล้วนำแบบไปให้ช่างไม้ในหมู่บ้านเป็นคนทำ
ในหมู่บ้านแถบนี้ไม่มีช่างเหล็ก แต่ลา ทอสคานา มีเหล็กเข้ามาเป็นส่วนประกอบ เจ้าของลา ทอสคานา จึงพยายามฝึกงานชาวบ้าน และลองผิดลองถูกร่วมกันจนได้ผลงานที่งดงามออกมา นอกจากนี้ยังมีผ้าม่านที่แม่บ้านในพื้นที่ช่วยกันเย็บ หรือพื้นหินขัดแบบเทอราวโซ่ที่ต้องอาศัยผู้เชี่ยวชาญ ก็เป็นฝีมือของชาวบ้านที่ฝึกฝนจนชำนาญ เรียกว่า ลา ทอสคานา เป็นทั้งโรงเรียนที่กระจายความรู้ และเป็นธนาคารที่มอบรายได้สู่ชุมชนเลยทีเดียว
"เราเน้นเป็นคนในชุมชน เราอยากให้คนในชุมชนมีงานทำ ชาวบ้านแถวนี้เวลาเรียนจบเขาจะไปทำงานกรุงเทพฯ แต่เราอยากให้ชาวบ้านมีงานทำ ก็ให้ชาวบ้านทำในส่วนนี้ด้วย"
พื้นที่ 10 ไร่นั้นถูกจัดสรรอย่างดีเยี่ยม โดยแบ่งเป็นส่วนของล็อบบี้ และห้องอาหารคูซีน่า (Cucina) บริเวณด้านหน้า ถัดเข้าไปเป็นสวนขนาดใหญ่ ไล่เลียงไปเรื่อยๆ คืออาคารที่พักแบบต่างๆ และมีสระว่ายน้ำอยู่กลางบริเวณ พร้อมพูลบาร์ขนาดน่ารัก ส่วนอาคารที่เด่นที่สุดจะอยู่ทางด้านขวามือ 2 อาคารใกล้ๆ กัน โดยมีลานน้ำพุอยู่ตรงกลาง
ห้องพักที่นี่แบ่งเป็น 2 โซน คือโซน ลา ทอสคานา ประกอบด้วยห้องพักแบบปาร์ตี้สวีท, การ์เดนท์สวีท, เพนท์เฮาส์สวีท, ฮันนีมูนสวีท และจากุซซี่สวีท ส่วนโซนพาลาซโซ่ ประกอบด้วยห้องพักแบบซีนิกซ์สวีท, ดูเพล็กซ์สวีท, พูลเทอเรสสวัท, ดีลักซ์สวีท และบาธสวีท โดยแต่ละรูปแบบจะมีชื่อบ้านที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งชื่อบ้านก็นำมาจากอาชีพในชุมชนหมู่บ้าน ไม่ว่าจะเป็นคนปลูกดอกไม้ (ฟิออเร่), ทำไวน์ (วีโน่), จิตรกรวาดภาพ (อาร์ทติสต้า), ปลูกผัก (เวจจี้), ปลูกผลไม้ (ซิตรัส), ทำฟาร์ม (แฟตโตเรีย), ทำเครื่องปั้นดินเผา (เซรามิก้า), ทำเครื่องหอม (เซ้นต์), กวี (โพเอ็ตต้า), เครื่องแก้ว (มูลาโน่), ทำขนม (เบเกอรี่), เย็บปัก (คิวท์), ถักร้อย (โครเชต์)
"ทาร์เก็ตของเราเป็นคนไทย จริงๆ ก็ได้หมดทุกรูปแบบนะ อย่างคู่รักเราก็มีห้องฮันนีมูนรองรับ ถ้าครอบครัวหรือเพื่อนก็จะมีห้องปาร์ตี้ แต่ที่มาเยอะที่สุดคือฮันนีมูนกับปาร์ตี้ คือที่นี่จะเป็นสไตล์อิตาลี ซึ่งแตกต่างกับที่อื่น นักท่องเที่ยวมาเขาได้มาเจอพนักงาน เห็นความเป็นมิตร พนักงานเป็นคนซื่อๆ มีน้ำใจ นักท่องเที่ยวก็จะชอบ เวลาเขามาครั้งหนึ่งเขาก็จะกลับมาอีก เพราะเขาประทับใจ" ศุภรัตน์ ทิ้งท้าย
เพราะเป้าหมายของรีสอร์ทไม่ได้หยุดอยู่ที่ผลกำไร แต่ต้องการสร้างรายได้ให้เกิดขึ้นกับคนในชุมชน ทั้งยังมอบความประทับใจให้กับผู้เข้าพัก เพื่อให้ได้รับความผ่อนคลายที่เรียบง่ายและงดงาม ที่นี่จึงถือเป็นอีกหนึ่งสถานที่ในฝันของนักเดินทางผู้มีความโรแมนติกอยู่ในหัวใจ
...........
ที่ตั้ง : บ้านผาปก อำเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี
ราคา : เริ่มต้นที่ 3,200 บาท
จุดเด่น : สถาปัตยกรรมที่สวยงามท่ามกลางธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์
ติดต่อ : โทร. 08 4456 2008, 08 1753 7500 หรือ www.latoscana-resort.com