อารมณ์สำราญ ณ 'บ้านวังหลัง'

อารมณ์สำราญ ณ 'บ้านวังหลัง'

แทบจะเป็นจุดหมายปลายทางอันดับต้นๆ ของคนกรุงเทพฯ เลยทีเดียว สำหรับ "วังหลัง"

ย่านการค้าและชุมชนที่มีประวัติความเป็นมายาวนาน โดยในอดีตเป็นพระราชวังของสมเด็จเจ้าฟ้ากรมพระอนุรักษ์เทเวศร์กรมพระราชวังบวรสถานภิมุข ในสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก ทว่าปัจจุบัน เป็นที่ตั้งของโรงพยาบาลศิริราช และมีตรอกเล็กๆ ที่มีการค้าขายคึกคัก เปิดเป็นตลาดที่มีทั้งของอร่อย สินค้าทันสมัย และของมือสองสภาพใหม่ ให้เหล่านักช้อปได้เพลิดเพลินกันทุกวัน


เพราะเป็นย่านการค้าที่ค่อนข้างจอแจ และอยู่ติดกับแม่น้ำเจ้าพระยา การเดินทางมาแบบสะดวกที่สุดคงเป็นการโดยสารเรือเมล์ หรือเรือข้ามฟาก โดยมีจุดขึ้นเรือที่ "ท่าวังหลัง" หรือ "ท่าศิริราช" จากนั้นก็สามารถเดินไปจับจ่ายสินค้า หรือว่าจะตรงเข้าไปลงชื่อถวายพระพรพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ในโรงพยาบาลศิริราช ก็สามารถทำได้อย่างสะดวก


หลายคนมาถึงย่านนี้แล้วอยากจะหาร้านกาแฟนั่งเล่นชิลๆ หรือบ้างก็อยากได้ที่พักค้างคืนไปเลย แนะนำ บ้านวังหลัง ริเวอร์ไซด์ ที่พักแนวบูติคที่ทันสมัย ตั้งอยู่ติดกับแม่น้ำเจ้าพระยา แถมเดินจากท่าเรือไม่ถึง 10 นาทีก็ถึง ที่นี่มีทั้งกาแฟรสดีและที่พักสุดอบอุ่นให้บริการ


กวีวัฒน์ ศิริกุล ผู้ช่วยผู้จัดการแผนกบริการส่วนหน้า บ้านวังหลัง ริเวอร์ไซด์ บอกว่า โรงแรมแห่งนี้เปิดให้บริการมาได้ 2 ปี แต่เสียงตอบรับดีเกินคาด


"จุดเริ่มต้นคือ คุณนวเทพ เชาวน์แหลม ซีอีโอของบ้านวังหลัง ท่านมีโอกาสมาเที่ยวแถวนี้ ซึ่งจริงๆ เราเริ่มต้นจากที่ว่า ที่ตรงนี้ได้เปรียบที่อื่นๆ ในเรื่องของวิวโค้งน้ำ จะเห็นว่า โค้งน้ำของเราจะเห็นทั้งโค้งน้ำฝั่งสะพานพระราม 8 และโค้งน้ำฝั่งวัดพระเแก้ว และวัดอรุณ ซึ่งถ้าลองเปรียบเทียบกับโรงแรมอื่นๆ ริมน้ำ จะเห็นแค่โค้งน้ำฝั่งเดียว บางที่อาจจะเห็นแค่วัดอรุณ แต่เราจะได้เปรียบตรงนี้ ทางซีอีโอก็เห็นว่าน่าทำ เลยทำเป็นโรงแรม"


หลังจากปิ๊งไอเดียก็เริ่มปฏิบัติการ และปรับรูปโฉมจากอพาร์ทเม้นท์เดิมให้กลายมาเป็นโรงแรมบูติคอย่างงดงาม โดยบ้านวังหลัง ริเวอร์ไซด์ เป็นอาคารทรงตึกขนาด 5 ชั้น ชั้นแรกจัดแบ่งเป็นส่วนต้อนรับ มีภาพศิลปะลายไทยเขียนไว้ที่ผนัง ส่วนด้านหน้าที่ติดกับแม่น้ำ เป็นส่วนของร้านกาแฟ N10 มีระเบียงนั่งรับลมและชื่นชมบรรยากาศของเกาะรัตนโกสินทร์ที่อยู่ฝั่งตรงข้ามได้อย่างสบาย


ชั้น 2 เป็นห้องอาหาร Olive Tree ให้บริการอาหารทั้งเช้า กลางวัน เย็น โดยเชฟฝีมือดี ส่วนชั้น 3-5 จัดเป็นโซนของห้องพักที่ค่อนข้างสงบ เงียบ และเป็นส่วนตัว โดยมีชั้นดาดฟ้าเป็น 324 บาร์ ให้บริการเครื่องดื่มเย็นๆ แต่เน้นให้มานั่งทอดอารมณ์อย่างสำราญในยามค่ำคืนมากกว่า


"โรงแรมของเราเป็นสไตล์บูติค มีทั้งหมด 32 ห้อง แบ่งเป็น 2 รูปแบบ คือห้องสวีท กับห้องสแตนดาร์ด อย่างห้องสวีทจะแบ่งย่อยเป็น 3 แบบ คือ พาโนรามิก คอนเนอร์สวีท และริเวอร์ฟร้อนท์ ส่วนห้องสแตนดาร์ดของเราจะเป็นซูพีเรีย ตรงนี้ขนาดห้องจะต่างกัน เรื่องของวิวก็จะต่างกัน การตกแต่งก็จะผสมผสานระหว่างความเป็นไทยเข้าไปด้วย ให้ลูกค้ารู้สึกว่าได้กลับบ้าน เหมือนชื่อโรงแรม "บ้านวังหลัง" นี่คือคอนเซ็ปต์ของเรา คืออยากให้ลูกค้าที่ไปเที่ยว หรือเดินทางมาเหนื่อยๆ กลับมาพักผ่อนที่บ้าน"


สิ่งอำนวยความสะดวกของที่นี่มีให้บริการอย่างครบครัน รวมถึงบริการอินเตอร์เน็ตไวไฟในห้องพักฟรีทุกห้อง และทุกพื้นที่ภายในบริเวณโรงแรม นอกจากนี้ยังมีบริการรถตุ๊กตุ๊กรับ-ส่งลูกค้าที่ต้องการเดินทางเข้า-อกโรงแรมโดยทางรถด้วย


"จุดอ่อนของเราจะเป็นเรื่องของทางเข้า เราจึงมีรถตุ๊กตุ๊กคอยรับส่งลูกค้าตลอดเวลา ไม่ต้องรอเต็ม จะไปส่งปากซอยวัดระฆัง แล้วเรียกแท็กซี่ให้ด้วย ไม่ต้องให้ลูกค้าเรียกเอง ขจัดปัญหาเรื่องโจรแท็กซี่ หรือแท็กซี่ไม่เปิดมิเตอร์ เราก็จะเรียกให้ เพื่อความปลอดภัยและความสบายใจของลูกค้า ถ้าลูกค้าสนใจเรื่องท่องเที่ว เราก็จะประสานจองให้ ซึ่งส่วนมากลูกค้าที่มาพักจะเป็นลูกค้าฝั่งยุโรป ส่วนลูกค้าจีนก็ค่อยๆ เพิ่มขึ้นมาจากปีที่แล้ว ลูกค้าชาวไทยก็มีบ้าง ถ้าคิดเป็นเปอร์เซ็นต์ 10 เปอร์เซ็นต์จะเป็นแบบคู่รัก อยากเปลี่ยนโลเคชั่น มานั่งชิลริมน้ำ มาดูวิวสวยๆ และอีก 90 เปอร์เซ็นต์จะเป็นลูกค้าที่มาเฝ้าคนไข้ มาเยี่ยมคนไข้ เพราะเราอยู่ใกล้ศิริราช ลักษณะจะเป็นแบบนั้น"


นอกจากจะอยู่แล้วสบายใจ ไปไหนมาไหนได้อย่างสะดวกแล้ว บ้านวังหลัง ริเวอร์ไซด์ ยังอยู่ใกล้กับแหล่งท่องเที่ยวสำคัญๆ ของกรุงเทพฯ อีกหลายแห่ง ไม่ว่าจะเป็นวัดพระแก้วและพระบรมมหาราชวัง, พิพิธภัณฑ์แห่งชาติพระนคร, วัดโพธิ์, มิวเซียมสยาม ฯลฯ


มาถึงแล้วจะไม่พักไม่ค้างนับว่าเป็นเรื่องน่าเสียดายอย่างยิ่ง


................

ที่ตั้ง : ซอยวัดระฆัง(อรุณอัมรินทร์ ซอย 18) ถนนพรานนก เขตบางกอกน้อย กรุงเทพฯ
จุดเด่น : เป็นจุดที่สามารถชมวิวแม่น้ำเจ้าพระยาที่สวยที่สุดจุดหนึ่งของกรุงเทพฯ
ราคา : เริ่มต้นที่ 2,450 บาท(ซูพีเรีย) และ 5,250 บาท(สวีท)
ติดต่อ : โทรศัพท์ 0 2412 7234 หรือ www.baanwanglang.com