วันนี้-พรุ่งนี้ 10 ปี TK park

TK park ห้องสมุดมีชีวิต
เป็นแหล่งเพาะเมล็ดพันธุ์ปัญญา
ตลอดเวลา 10 ปีที่ผ่านมา
ได้มีเมล็ดพันธุ์เหล่านั้นงอกงามมากมาย
จากวันเวลาที่เริ่มก่อตั้ง TK park หรือสำนักงานอุทยานการเรียนรู้เมื่อวันที่ 18 มิถุนายน 2547 จนกระทั่งถึงทุกวันนี้ นับเป็นเวลา 10 ปีแล้วที่องค์กรนี้เปิดให้บริการกับประชาชนทั่วไป และได้รับการกล่าวถึงอย่างมากในฐานะที่เป็นแหล่งความรู้แห่งใหม่ใจกลางกรุงเทพฯ มีรูปแบบการบริหารยุคใหม่ และเพียบพร้อมด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย
จุดมุ่งหมายในการก่อตั้ง เคที พาร์ค ขึ้นมานั้น ก็เพื่อต้องการให้เป็นศูนย์กลางแห่งการเรียนรู้เพื่ออนาคต เพื่อให้เป็นสถานที่สำหรับการสร้างวัฒนธรรมให้รักการอ่าน และเป็นศูนย์ความรู้ที่ทันสมัยที่สามารถรวบรวมองค์ความรู้ด้านต่างๆ โดยประชาชนสามารถจะเข้าถึงหรือรับรู้ข้อมูลได้ง่าย นอกจากนี้แล้ว ยังเป็นต้นแบบของศูนย์การเรียนรู้ที่สามารถจะเชื่อมโยงกับเครือข่ายอื่นๆ ในการกระจายความรู้ไปสู่วงกว้างทั่วทั้งประเทศ เพื่อเป็นส่วนร่วมในการขับเคลื่อนประเทศไปสู่การพัฒนาอย่างสร้างสรรค์
TK Park อุทยานการเรียนรู้ต้นแบบ มีพื้นที่รวมกันทั้งหมด 3,700 ตารางเมตร ตั้งอยู่บริเวณชั้น 8 ของอาคารศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ชั้น 8 มีพื้นที่บริการทั้งสิ้น โดยเริ่มเปิดให้บริการแก่ประชาชนอย่างเป็นทางการเมื่อเดือนมกราคม 2548 ซึ่งความโดดเด่นของทีเค พาร์ค ก็คือห้องสมุดของที่นี่ ซึ่งเป็นห้องสมุดยุคใหม่ถือเป็น"ห้องสมุดที่มีชีวิต"ที่สมบูรณ์แบบ โดยมีหนังสือที่ดีจำนวนมาก รวมทั้งอุปกรณ์ไอทีต่างๆในการเข้าถึงข้อมูล และโดยเฉพาะโซนสำหรับเด็กๆและครอบครัวที่พาลูกหลานเข้ามาแสวงหาความรู้นั้น ถือเป็นห้องสมุดต้นแบบที่ดีที่สุดก็ว่าได้
นอกจากนี้แล้ว ยังมีการจัดพื้นที่เป็นห้องสมุดแต่ละประเภทอย่างเป็นสัดส่วน เช่นห้องสมุดดนตรี ซึ่งจะมีทั้งหนังสือที่เกี่ยวกับดนตรีรวมทั้งเครื่องดนตรีต่างๆ ด้วย เช่นเดียวกับห้องสมุดไอทีก็จะมีคอมพิวเตอร์โปรแกรมต่างๆ และอีบุ๊คที่มีเนื้อหาหลากหลาย นอกเหนือจากพื้นที่ห้องสมุดแล้ว ทีเค พาร์คยังมีพื้นที่ที่จัดเป็นมินิเธียร์ และพื้นที่สำหรับทำกิจกรรมสำหรับเยาวชน รวมทั้งนักศึกษาจากสถาบันต่างๆ อีกด้วย
จากความสำเร็จในฐานะที่เป็นศูนย์การเรียนรู้ต้นแบบ แน่นอนที่สุดช่วงเวลา 10 ปีที่ผ่านมาจนกระทั่งถึงทุกวันนี้ ทีเค พาร์คย่อมมีทิศทางที่จะก้าวเดินไปในอนาคต ซึ่งเป็นไปตามการเปลี่ยนแปลงของสังคม และกระแสโลก
และเนื่องในวาระ 10 ปีนี่เอง ดร.อารยะ มาอินทร์ ผู้อำนวยการสำนักงานอุทยานการเรียนรู้ สำนักงานบริหารและพัฒนาองค์ความรู้ คนใหม่ในฐานะที่ต้องเข้ามาสานงานเพื่อวันพรุ่งนี้และต่อๆ ไปในอนาคต น่าจะสะท้อนให้เห็นแนวความคิดและทิศทางการขับเคลื่อนองค์กรแห่งนี้ได้เป็นอย่างดี
จากความสำเร็จ 10 ปีที่ผ่านมา ถึงวันนี้ทางทีเค พาร์ค มีการวางนโยบายอะไรบ้างในอนาคต?
จริงๆ แล้วนับตั้งแต่ปี พศ. 2548 ที่อุทยานการเรียนรู้ หรือทีเค พาร์ค ได้ก่อตั้งขึ้นมาในฐานะ "ต้นแบบ" ของแหล่งการเรียนรู้ โดยเรามุ่งหมายจะตอบสนองความต้องการในการแสวงหาความรู้อย่างไม่มีขีดจำกัดของเยาวชนและประชาชนที่รักการอ่านทุกคน ในรูปแบบของ “ห้องสมุดมีชีวิต” ซึ่งถือเป็นจุดเริ่มต้นของการสร้างปรากฏการณ์ใหม่ๆ ในหมู่เยาวชน และผู้ที่รักการอ่านทุกคนด้วย ด้วยรูปแบบของหนังสือและสื่อครบครัน มีความทันสมัยด้วย จึงทำให้ที่นี่เป็นที่รู้จักของสังคมมากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มคนหนุ่มสาว นักศึกษาและเยาวชน
จากจุดเริ่มต้นนี้เอง ที่นี่จึงกลายเป็นห้องสมุดต้นแบบ ทำให้หลายคนหันมาเข้าใจว่าบรรยากาศที่เอื้อต่อการเรียนรู้คืออะไร มีลักษณะอย่างไร หนังสือและกิจกรรมสนุกๆ นอกห้องเรียนเชื่อมโยงกันได้อย่างไร และแนวทางการปลูกฝังและส่งเสริมอุปนิสัยรักการอ่านให้แก่เด็กทำได้อย่างไรบ้าง รวมทั้งเข้าใจด้วยว่ากระบวนการส่งเสริมนิสัยรักการอ่านและการเรียนรู้นี้สามารถบูรณาการ กับการศึกษาในระบบของเด็กและเยาวชนคนรุ่นใหม่ได้อย่างไรบ้าง
คิดว่าจุดเด่นของที่นี่คืออะไร?
คิดว่า TK parkมีจุดเด่นตรงที่ มันเป็นแหล่งจุดประกายให้เกิดความเปลี่ยนแปลงที่ดีต่อการอ่าน การเรียนรู้ ในทุกภาคส่วนของประเทศ โดยสนับสนุนแนวคิดการสร้างสรรค์ ห้องสมุดมีชีวิต อันเป็นแหล่งรวบรวมและนำเสนอทั้งหนังสือ สื่ออิเล็กทรอนิกส์และกิจกรรมหลากหลายรูปแบบ ร่วมสร้างแรงบันดาลใจและนำเสนอประสบการณ์ใหม่ๆ แก่เด็กและเยาวชน ภายใต้แนวคิด "หนังสือ+ดนตรี+กิจกรรม+มัลติมีเดีย=จินตนาการไม่รู้จบ"
TK park มุ่งมั่นในการทำงานอย่างไม่หยุดนิ่ง เพราะการเรียนรู้นั้นไม่เคยหยุดนิ่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการพัฒนาต้นแบบ โดยการแสวงหา รวบรวมและบริหารจัดการองค์ความรู้ด้านการส่งเสริมการอ่าน การเรียนรู้ รวมทั้งการสร้างสรรค์แนวทางและกระบวนการถ่ายทอดสู่กลุ่มเป้าหมาย ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบของหนังสือและสื่อดิจิทัล ตลอดจนแนวการสร้างสรรค์กิจกรรมสู่เด็กและเยาวชน รวมถึงการนำมาทดลองปฏิบัติจริงในพื้นที่ต้นแบบก่อนที่จะนำไปขยายผลสู่ท้องถิ่นต่อไป
ในฐานะที่เป็นผู้อำนวยการคนใหม่มีการวางเป้าหมายอะไรบ้าง?
ในปีนี้ เราวางเป้าหมายจะทำให้พื้นที่ต้นแบบที่เซ็นทรัลเวิลด์มีความแข็งแกร่งยิ่งขึ้น ในฐานะต้นทางขององค์ความรู้ในด้านการบริหารจัดการและการบริการห้องสมุดมีชีวิตรูปแบบอุทยานการเรียนรู้ โดยจะมีการนำเอาเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ามาเสริมการบริการให้เกิดความสะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้น เช่น การใช้เครื่องยืมและคืนหนังสืออัตโนมัติที่ทันสมัย สามารถยืมหนังสือได้พร้อมกันทีเดียว 6 เล่มตามสิทธิ เป็นต้น และการใช้พื้นที่เพื่อการแลกเปลี่ยนความรู้และความสนใจเฉพาะให้กับกลุ่มเป้าหมายให้มากยิ่งขึ้น ด้วยกิจกรรมอย่างเช่น “Reading Club” “Read and Learn Program for Family” และการบรรยายทางวิชาการหรือกิจกรรมสาธิตที่น่าสนใจจากนักวิชาการทั้งในและต่างประเทศ เป็นต้น
สังคมเมืองในกรุงเทพฯมีการขยายตัวอย่างรวดเร็ว ทางทีเค พาร์ค จะมีแผนรองรับอย่างไร?
ใช่แล้วครับทุกวันนี้กรุงเทพฯของเราเป็นเมืองที่ขยายตัวรวดเร็วมาก ซึ่งตรงนี้เราได้เตรียมแผนเอาไว้แล้วสำหรับการขยาย โดยจะกระจายไปตามเครือข่ายต่างๆ ซึ่งเราได้ร่วมมือกับเครือข่ายนั้น อย่างหมู่บ้านจัดสรรแต่ละแห่ง รวมทั้งห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ที่อยู่ตามชานเมือง ซึ่งทุกวันนี้สถานที่เหล่านี้จะแข่งขันกันในการจัดพื้นที่สำหรับการสันทนาการมากขึ้น เหมือนกับที่เซ็นทรัลเวิลด์นี่แหละที่จัดเป็นพื้นที่สาธารณะที่ให้ความรู้จนกลายเป็นจุดเด่นขึ้นมา ในอนาคตสถานที่ก่อสร้างต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นห้าง คอนโดมิเนียม หรือหมู่บ้านจัดสรร จะขาดสิ่งนี้ไม่ได้เลย เพราะถือเป็นการทำ CSR อย่างหนึ่งที่มอบให้กับชุมชนนั้น และเราในฐานะที่เป็นต้นแบบก็จะเข้าไปช่วยวางแผนงาน รวมทั้งส่งบุคลากรไปแนะนำและฝึกอบรมให้กับเครือข่ายเหล่านี้ ซึ่งมันจะเป็นการกระจายแหล่งเรียนรู้ไปในตัว โดยที่ยึดเอา เคที พาร์ค ที่เซ็นทรัลเวิลด์เป็นแบบอย่าง
ทุกวันนี้ ทีเค พาร์ค มีสมาชิกเท่าไหร่และคนกลุ่มใดมากที่สุด?
ปัจจุบัน ทีเค พาร์คมีสมาชิกประมาณ 48,861 คน เป็นการสำรวจเมื่อวันที่ 30 เมษายน 58 ที่ผ่านมา ส่วนกลุ่มที่เป็นสมาชิกกลุ่มใหญ่ที่สุด คือ กลุ่มช่วงอายุ 19-24 ปี รองลงมาคือ กลุ่มช่วงอายุ 13-18 ปี และ กลุ่ม 31-40 ปี ซึ่งจะเป็นกลุ่มของคุณพ่อคุณแม่รุ่นใหม่ ตามลำดับ ดังนั้น พื้นที่ต้นแบบที่เซ็นทรัลเวิลด์แห่งนี้ ก็ต้องมีการพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้ง เพื่อให้ทันต่อความต้องการของกลุ่มสมาชิกในปัจจุบัน รวมถึงผู้ใช้บริการแบบ one day pass และเพื่อรองรับสมาชิกในอนาคตอีกด้วย
แล้วต่างจังหวัด ทีเค พาร์ค มีแผนกระจายไปมากน้อยขนาดไหน?
ตอนนี้เราพร้อมแล้วสำหรับการขยายแนวคิดห้องสมุดมีชีวิตให้กระจายออกไปสู่ท้องถิ่นทั่วทุกภูมิภาคของประเทศ หากดูจากผลงานในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา ซึ่งมีห้องสมุดหรือแหล่งเรียนรู้เครือข่ายเข้าร่วมกับทีเคพาร์คในการพัฒนาแหล่งเรียนรู้ในท้องถิ่นมีจำนวนถึง 29 แห่ง ในพื้นที่ 24 จังหวัดด้วยกัน สำหรับในปีนี้เรามีแผนจะขยายพื้นที่ใหม่อีก 6 แห่ง คือ เทศบาลนครลำปาง เทศบาลเมืองบ้านพรุ และเทศบาลนครสงขลา -ในพื้นที่โรงสีแดง อ.เมือง จ. สงขลา อบจ.ร้อยเอ็ด เทศบาลนครภูเก็ต และจังหวัดกระบี่ ทั้งนี้เราเชื่อว่าแนวทางและทิศทางดังกล่าวจะเป็นอีกกลไกหนึ่งซึ่งช่วยลดความเหลื่อมล้ำและขยายโอกาสในการเข้าถึงหนังสือและองค์ความรู้ให้กับผู้คนทุกเพศทุกวัยในทุกจังหวัดทั่วประเทศ เพื่อนำมาสู่การพัฒนาคนให้มีคุณภาพที่พร้อมสำหรับสังคมฐานความรู้ ซึ่งเป็นเป้าหมายการพัฒนาตามยุทธศาสตร์ของประเทศ
ในต่างจังหวัดมีที่ไหนบ้างที่ถือเป็นต้นแบบเหมือนกับในกรุงเทพฯ?
นอกจาก ทีเคพาร์ค ที่กรุงเทพฯ แล้ว เมื่อ 8 ปีที่ผ่านมา นั่นคือ ในปี พ.ศ. 2549 เราร่วมกับเทศบาลนครยะลา ดำเนินการจัดตั้ง “อุทยานการเรียนรู้ภูมิภาคต้นแบบ” แห่งแรก ในรูปแบบของห้องสมุดมีชีวิต เพื่อช่วยแบ่งปันและกระจายโอกาสในการเข้าถึงการอ่าน และการเรียนรู้อย่างมีความสุขสำหรับเด็กและเยาวชนในจังหวัดยะลา และพื้นที่ใกล้เคียง นอกจากบทบาทเป็นผู้ให้คำปรึกษา อำนวยความสะดวก สนับสนุนด้านวิชาการและการฝึกอบรม TK park ยังเป็นผู้ร่วมลงทุนทางกายภาพด้วย หมายถึงแนวคิดทางสถาปัตยกรรม การตกแต่งภายใน ระบบ AV IT พร้อมอุปกรณ์ ครุภัณฑ์ หนังสือและสื่อสาระการเรียนรู้ กิจกรรมนำร่อง และเชิงสาธิต เพื่อขยายแนวคิดห้องสมุดมีชีวิตให้เป็นที่ประจักษ์ ด้วยเหตุนี้ ทีเคพาร์คยะลาจึงมีรูปแบบใกล้เคียงกรุงเทพฯ และในครั้งนั้น สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณเสด็จพระราชดำเนินทรงประกอบพิธีเปิดอุทยานการเรียนรู้ยะลา เป็นทางการ เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2550
จากความหมายที่ว่า "ห้องสมุดมีชีวิต"ของที่นี่ ณ วันนี้ความหมายเปลี่ยนไปหรือยังคงอยู่?
เกี่ยวกับเรื่องนี้เราสามารถจะมองได้หลายองค์ประกอบด้วยกัน....คืออย่างนี้ครับ...ตลอด 10 ปีที่ผ่านมา ทีเค พาร์ค เราสื่อสารแนวคิด “ห้องสมุดมีชีวิต” สู่ประชาชนทั่วประเทศ โดยเฉพาะผู้นำองค์กรและท้องถิ่นต่างๆ ให้เข้าใจว่าห้องสมุด ไม่ใช่เป็นเพียงที่อยู่ของหนังสือ หากแต่เป็นพื้นที่สำหรับให้คนได้เข้ามาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ และก่อเกิดเป็นสังคมแห่งการเรียนรู้ เมื่อหนังสือได้รับการเชื่อมโยงด้วยกระบวนการและกิจกรรมต่างๆ หนังสือนั้นก็จะมีคุณค่าแก่ผู้คน แม้แต่หนังสือเพียงหนึ่งเล่มก็เป็นห้องสมุดมีชีวิตได้ถ้าใช้เป็น อยู่ที่เราจะมองและหยิบมันด้วยแนวคิดอย่างไร จนถึงทุกวันนี้เราเชื่อว่าเมื่อเอ่ยถึงคำว่า “ห้องสมุดมีชีวิต” ทุกคนจะนึกถึงภาพของทีเคพาร์คเป็นลำดับแรก
นอกจากจะให้บริการในพื้นที่ชั้น 8 นี้แล้ว TK park ยังมีการจัดกิจกรรมเพื่อส่งเสริมปัจจัยการอ่านอื่นๆ อาทิ โครงการพัฒนาศักยภาพบรรณารักษ์ โครงการประกวดห้องสมุดมีชีวิต โครงการลับสมองประลองปัญญาสรรหาหนูน้อยนักเล่านิทาน การจัดทำสื่อและหนังสือสำหรับเด็ก และเก็บรวบรวมพัฒนาองค์ความรู้ที่หลากหลาย รวมไปถึงบทบาทสนับสนุนการรวบรวมความรู้ แนวคิดและแนวปฏิบัติในการส่งเสริมการอ่านอีกเป็นจำนวนมาก
ในส่วนรูปแบบทางกายภาพของ TK park “ห้องสมุดมีชีวิต” ที่ทันสมัยสวยงาม ภารกิจการร่วมผลักดันและพัฒนาสังคมไทยให้ก้าวสู่สังคมแห่งการเรียนรู้ ตามที่ทุกๆฝ่ายมุ่งหวังนั้น TK park มุ่งส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิตและสร้างนิสัยรักการอ่านให้แก่ประชาชน โดยมุ่งเน้นวิสัยทัศน์การพัฒนามนุษย์เป็นหลัก โดยส่งเสริมวัฒนธรรมการอ่าน ผ่านทางกิจกรรมร่วมกับกลุ่มเป้าหมายในชุมชน การทำงานลักษณะนี้เป็นการส่งเสริมห้องสมุดมีชีวิต ในมิติที่ยั่งยืนที่สุด
จริงๆ แล้วความหมายหรือปรัชญาดั้งเดิมของที่นี่ไม่ได้เปลี่ยนไป จะเปลี่ยนก็เฉพาะสิ่งที่พัฒนาเข้ามาในรูปแบบใหม่ๆ เท่านั้น
มีการร่วมมือหรือเชื่อมโยงการทำกิจกรรมกับหน่วยงานอื่นๆ หรือไม่?
ที่ผ่านมาและในอนาคตข้างหน้า เรายังคงมุ่งสร้างสรรค์ และรวบรวมเนื้อหาสาระที่เป็นองค์ความรู้ ในรูปแบบต่างๆ ขึ้น โดยนำมาร้อยเรียง และนำเสนอด้วยรูปแบบสื่อที่หลากหลาย ให้เหมาะสมและสอดคล้องกับความสนใจของเด็กและ เยาวชนคนรุ่นใหม่ ตลอดจนสร้างสรรค์กระบวนการในการเรียนรู้มาประกอบกัน เพื่อก่อให้เกิดอุปนิสัยรักการอ่าน การใฝ่รู้ ที่สามารถนำไปขยายผลต่อยอดได้มากมาย ตัวอย่างที่ผ่านมา เราได้ดำเนินการร่วมกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชน สร้างสรรค์เนื้อหาใหม่ๆ ในรูปแบบที่หลากหมาย อาทิ การร่วมมือกับสำนักหอสมุดแห่งชาติ และหอจดหมายเหตุแห่งชาติ กรมศิลปากร จัดทำ e-book ชุด ขุมทรัพย์ของแผ่นดิน จากหนังสือและเอกสารเก่าแก่หายาก รวม 23 เรื่อง อาทิ กระบวนพยุหยาตราทางชลมารค แบบเรียนศัพท์กรมศึกษาธิการ ศัพท์โบราณคำแผลง พระราชบัญญัติว่าด้วยแบบอย่างธงสยาม ฉลากน้ำหอม และ Twenty Century impression of Siam รวมทั้งจัดพิมพ์หนังสือชุดวัตถุเล่าเรื่อง ซึ่งเป็นองค์ความรู้จากพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ประกอบด้วย “คนก่อนประวัติศาสตร์บนดินแดนไทย” “กิน อยู่ อย่างไทย” และ “ปัจจัย 4 ของชีวิต” เป็นต้น
ทีเค พาร์ค ให้ความสำคัญกับการศึกษาท้องถิ่นในรูปแบบใด?
TK park ให้ความสนใจเช่นเดียวกับในเมือง โดยทางเรายังสนใจในการผลิตสื่อการเรียนรู้ท้องถิ่นอย่างต่อเนื่อง โดยเน้นการร่วมสร้างสรรค์กับนักวิชาการและนักเขียนในท้องถิ่น เพื่อให้เด็ก เยาวชนและประชาชนทั่วไปในพื้นที่ ได้รับความรู้ไปพร้อมๆ กับความภาคภูมิใจในวัฒนธรรมและท้องถิ่นของตน รวมถึงพัฒนาการทางด้านภาษา เพราะสื่อการเรียนรู้ท้องถิ่นถูกจัดทำขึ้น 2 ภาษา เพื่อให้เด็ก เยาวชน และประชาชนได้เรียนรู้เรื่องราวต่าง ๆ และภาษาอังกฤษไปพร้อม ๆ กัน ที่สำคัญคือเยาวชนจะได้อ่านอย่างมีความสุข สนุกสนาน และก่อให้เกิดความตระหนักในคุณค่าของท้องถิ่นได้อย่างแท้จริงผ่านทางการอ่าน และการผลักดันคนไทยให้รักการอ่านอย่างจริงจัง เป็นส่วนหนึ่งของการปฏิรูปการศึกษา และการอ่านคือกุญแจสำคัญของเป้าหมายของการพัฒนาประเทศที่ยั่งยืน ด้วย
ในส่วนของงบประมาณ?
ปัจจุบันนี้ก็สามารถจะอยู่ได้ คือเป็นองค์กรที่อยู่ตัวแล้ว เว้นเสียแต่ว่าจะมีการจัดตั้งให้เป็นศูนย์การเรียนรู้แห่งชาติระดับใหญ่อย่างจริงๆ จังๆ เหมือนกับญี่ปุ่น สิงคโปร์ เกาหลี ซึ่งเขาถือเป็นหัวใจสำคัญในการพัฒนาคนพัฒนาชาติ เพราะฉะนั้นเขาจึงลงทุนอย่างมากในเรื่องเหล่านี้ แต่ถ้า เคที พาร์ค จะทำอย่างนั้น แน่นอนเรื่องงบประมาณก็เป็นสิ่งที่จำเป็น เพราะถือเป็นการลงทุนทางปัญญานั่นเอง
ทุกวันนี้เป็นสังคมยุคดิจิทัล มีกิจกรรมเกี่ยวกับเรื่องเหล่านี้หรือไม่?
ที่ผ่านมา TK park ได้ร่วมมือด้านการพัฒนาเนื้อหาดิจิทัล กับภาคส่วนต่างๆ อาทิ มูลนิธิอินเทอร์เน็ตร่วมพัฒนาไทย จัดฝึกอบรมและประกวดการสร้างสื่อดิจิทัลประเภท Stop Motion ให้กับเยาวชนคนรุ่นใหม่เพื่อพัฒนาทักษะการสร้างสื่อการเรียนรู้อิเล็กทรอนิกส์ และส่งเสริมองค์ความรู้ที่มีความเป็นไทย ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเทพฯ นอกจากนั้น TK park ยังร่วมมือกับเอกชน คือ บริษัท เอเซอร์ คอมพิวเตอร์ จำกัดและบริษัท อิเมจิแมกซ์ จำกัด จัดทำโครงการ “สร้างเกม สร้างคน สร้างงาน” เพื่อพัฒนาต่อยอดการเรียนรู้จากการเล่นสู่การเป็นผู้สร้างทางด้าน 3D Animation สำหรับงานเกม อันเป็นหนึ่งในปัจจัยส่งเสริมให้ Digital Content ของประเทศไทยสามารถก้าวเข้าสู่การแข่งขันในระดับนานาชาติต่อไป
อย่างล่าสุด TK park ก็ร่วมกับ สมาคมผู้ประกอบการแอนิเมชันและคอมพิวเตอร์กราฟิกส์ไทย (TACGA) และ สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) พร้อมจับมือกับ 15 สตูดิโอชั้นนำของประเทศ เปิดโครงการ TACGA Apprentice Program สำหรับนักศึกษาที่กำลังจะจบการศึกษาในปีนี้และผู้ที่สนใจที่จะประกอบอาชีพในวงการแอนิเมชันและ VFX อย่างจริงจัง โครงการที่จะให้คุณได้ฝึกฝนความเป็นมืออาชีพ ด้าน Animation ซึ่งเป็นงานอีกอย่างหนึ่งที่เป็นที่ต้องการสูงสุดของอุตสาหกรรม พร้อมรับประกันการได้รับเข้าทำงานจากสตูดิโอชั้นนำของประเทศเมื่อจบหลักสูตรนี่แล้ว
เทคโนโลยีกับบทบาทการอ่านที่ ทีเค พาร์ค?
เรามองว่าเทคโนโลยีกำลังจะกลายมาเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในวัฒนธรรมของการอ่านและการเรียนรู้ โดยมีผู้เรียนเป็นตัวขับเคลื่อน ท่ามกลางความก้าวหน้าของเทคโนโลยี นวัตกรรมใหม่ๆ เกิดขึ้น เราต้องการนวัตกรรมที่มีมาตรฐาน ไม่ว่าจะเป็นสินค้าหรือบริการเพื่อการพัฒนาของแหล่งเรียนรู้หรือห้องสมุดอย่างมีคุณภาพ ตัวอย่างจากห้องสมุดทั่วโลกสะท้อนให้เห็นการพัฒนาเหล่านี้ ทำให้แหล่งเรียนรู้มีแนวทางพันธกิจใหม่เกิดขึ้น พร้อมๆ กับการออกแบบพื้นที่ที่ล้ำหน้าและแตกต่าง การให้บริการที่ฉีกแนวไปจากกฎเกณฑ์แบบเดิมๆ อันจะเป็นการสร้างสรรค์ประสบการณ์ใหม่ๆ ให้แก่ผู้ใช้บริการห้องสมุดในยุคแห่งการเปลี่ยนแปลงเช่นนี้ รวมไปถึงการสร้าง Platform ใหม่ที่สามารถให้ผู้ใช้บริการเข้าถึงข้อมูลที่ต้องการได้ทุกที่ ทุกเวลา ทั้งมีศักยภาพในการส่งเสริมอุตสาหกรรมการสร้างสรรค์ด้านวัฒนธรรมของประเทศได้อย่างดีผ่านการบริหารจัดการที่ยั่งยืน
การใช้เทคโนโลยีในการเรียนรู้ ไม่ได้หมายความถึงแค่เนื้อหาใหม่ ๆ แต่หมายถึงแหล่งข้อมูลที่ทุกๆ คนสามารถใช้ในการเรียนการสอนในรูปแบบที่แตกต่างออกไปจากที่เคย เราไม่ได้มองการพัฒนาเนื้อหาอิเล็กทรอนิกส์ แค่การแปลงหนังสือให้เป็นไฟล์ PDF แต่หมายถึงประสบการณ์การอ่านและการเรียนรู้ที่เปลี่ยนไป ไม่ยึดติดกับหนังสือเท่านั้น เพราะผนวกกิจกรรมทดลองใหม่ๆ ก็เป็นสิ่งสำคัญ และเทคโนโลยีสามารถเข้ามาช่วยเยาวชนให้เข้าถึงวิธีการเรียนรู้แบบใหม่ๆ ได้แน่นอน นี่คือประเด็นที่เราอยากจะพัฒนาในอนาคต
ในช่วงที่ผ่านมามีกิจกรรมที่โดดเด่นอะไรบ้าง?
กิจกรรมเด่น ๆ ของทีเค พาร์คมีมากมาย เรามุ่งเน้นที่จะส่งเสริมการเรียนรู้ของเยาวชน ผ่านกระบวนการเรียนรู้อันหลากหลาย เชื่อมโยงระหว่างหนังสือ กิจกรรม ดนตรีและสื่อมัลติมีเดีย เพื่อให้เยาวชนได้เรียนรู้จากการลงมือปฏิบัติจริง สามารถค้นหาความถนัดและความสนใจเฉพาะทาง ซึ่งนำไปสู่การใฝ่รู้ การแสวงหาความรู้ด้วยตนเอง และกระตุ้นให้เกิดความคิดสร้างสรรค์ ผ่านกิจกรรมการเรียนรู้ 4 ด้าน ได้แก่
กิจกรรมส่งเสริมการอ่านการเรียนรู้ อาทิ นิทรรศการและกิจกรรมที่บูรณาการเนื้อหาความรู้ในหลากหลายมิติเข้าด้วยกัน ทั้งวิทยาศาสตร์ สังคมศาสตร์และศิลปวัฒนธรรม, Inspired by Idol พูดคุยกับนักคิด นักเขียน, TK Reading Club จุดนัดพบแลกเปลี่ยนเรื่องราวสำหรับนักอ่าน
กิจกรรมส่งเสริมการเรียนรู้ด้านศิลปวัฒนธรรม ดูเป็น คิดเป็น ทำเป็น เรียนรู้ผ่านภาพยนตร์ ดนตรี และศิลปะการแสดง เพื่อสร้างแรงบันดาลใจและสนับสนุนให้เกิดการสร้างสรรค์ผลงานใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่อง
กิจกรรมส่งเสริมทักษะเทคโนโลยีสารสนเทศ เสริมความรู้และสร้างความเข้าใจ เพื่อก้าวทันโลกเทคโนโลยีกับหลักสูตรอบรมตั้งแต่ขั้นพื้นฐานจนถึงการต่อยอดแบบมืออาชีพ กิจกรรมส่งเสริมทักษะชีวิต กล้าคิด กล้าทำ กล้าแสดงออก ให้เยาวชนได้แสดงออกอย่างสร้างสรรค์ เพื่อค้นพบความถนัด และเป็นเวทีในการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกัน
นอกจากนี้เรามีกิจกรรมสำหรับเยาวชนทุกช่วงวัย สำหรับกิจกรรมปฐมวัย “Read & Learn" ที่จัดขึ้นเป็นประจำ เพราะมองว่าช่วงระยะเวลาที่สำคัญที่สุดสำหรับการเรียนรู้ของมนุษย์คือ ช่วยปฐมวัย ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมอย่างยิ่งกับการส่งเสริมและกระตุ้นให้สมองเกิดการพัฒนาและเรียนรู้อย่างเต็มที่ เราเล็งเห็นความสำคัญของการจัดการเรียนรู้ให้เหมาะสมกับเด็กวัยนี้ โดยส่งเสริมให้เด็กได้เรียนรู้ผ่านการเล่น และเรียนรู้อย่างมีความสุขในสภาพแวดล้อมที่ผ่อนคลาย เพื่อช่วยให้เด็กพัฒนาศักยภาพสมองได้อย่างเต็มความสามารถ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเรียนรู้แบบองค์รวมโดยมีครอบครัวเป็นผู้ร่วมกระตุ้นและสนับสนุนกระบวนการนี้ นอกจากนั้นในเดือนกรกฎาคมนี้ เรายังมีกิจกรรมประกวดหนูน้อยนักเล่านิทาน ซึ่งจัดขึ้นมาอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 10 แล้ว
ส่วนกิจกรรมสำหรับเด็กวัยรุ่นนั้น ปีนี้ เราทำโครงการต่อเนื่องเพื่อบ่มเพาะเยาวชนคนรุ่นใหม่ภายใต้ชื่อโครงการ TK แจ้งเกิด ที่ TK park ทำมาอย่างต่อเนื่องเป็นเวลา 5 ปี โดยมุ่งมั่นผลักดันให้โครงการนี้มีส่วนในการพัฒนาทักษะของเยาวชนในด้านต่างๆ ผ่านรูปแบบของอาชีพและกิจกรรมที่วัยรุ่นชื่นชอบ โดยในปีนี้ได้เปิดอบรม 4 สาขาอาชีพด้วยกัน ได้แก้ นักเขียน ดนตรี มัลติมีเดีย และการตลาด โดยมีการจัดประกวดเพื่อจุดประกายสร้างแรงบันดาลใจและเปิดให้มีการเรียนรู้จากคนที่เป็นมืออาชีพจริงอย่างต่อเนื่อง โดยทุกปีกิจกรรมดังกล่าวต่างได้รับเสียงตอบรับเป็นอย่างดี สิ่งนี้ไม่เพียงมีค่ากับตัวเยาวชนเองเท่านั้น แต่มีประโยชน์กับชุมชนอีกด้วย
กระแสอาเซียนที่ทีเค พาร์ค มีกิจกรรมใดบ้าง?
ในอาทิตย์หน้า วันที่ 20 พค. ทีเคพาร์คจะจัด นิทรรศการพิพิธอาเซียน A journey through ASEAN - The Final Call… โดยปีนี้จัดเป็นครั้งที่ 5 งานนี้จะมีการนำเสนอแง่มุมเกี่ยวกับประเทศในกลุ่มอาเซียนทั้ง 10 ประเทศ ภายในงานจะประกอบด้วยนิทรรศการสร้างสรรค์การเรียนรู้เรื่องราวหลากมิติที่เกี่ยวกับประชาคม เชื่อมโยงให้เกิดการเรียนรู้ความเป็น “ตนเอง” เข้ากับการรู้จัก “เพื่อนบ้าน” ผ่านกิจกรรมส่งเสริมการเรียนรู้ เพื่อสร้างการเตรียมความพร้อมกับการเป็น “ประชากรอาเซียน” อย่างเต็มศักยภาพ ในวันที่ 20 พค.-14 มิ.ย. นี้
เวลา 10 ปีที่ผ่านมาจนถึงวันนี้ คิดว่าอะไรที่เป็นปัญหาสำหรับ ทีเค ปาร์ค ?
ปัญหาที่สำคัญตอนนี้ก็คือเรายังขาดแคลนบุคลากรทางด้านไอที เพราะเครื่องมือไอทีเดี๋ยวนี้มันพัฒนาเร็วมาก และคนที่เชี่ยวชาญในด้านนี้ที่เกี่ยวกับการจัดเนื้อหาสาระเพื่องานในห้องสมุดของเรามีน้อย ตรงนี้ก็เป็นปัญหาหนึ่ง
อีกปัญหาหนึ่งก็คือเรายังขาดบุคลากรสำหรับการออกไปแนะนำและฝึกสอนเครือข่ายต่างๆ เรายังไม่เพียงพอ เพราะตอนนี้มีหลายแห่งที่เข้ามาหาเราในฐานะที่เป็นต้นแบบ โดยเฉพาะตามต่างจังหวัด มีหลายแห่งที่เราต้องจัดคนเข้าไปช่วยฝึกอบรมและให้คำแนะนำในด้านต่างๆ
...............................
หากจะบอกว่า ทีเค พาร์ค -ห้องสมุดที่มีชีวิต เปรียบเสมือนเป็นแหล่งเพาะเมล็ดพันธุ์ทางปัญญาก็ไม่ผิดไปจากความเป็นจริงเท่าใดนัก
และ 10 ปีที่ผ่านมาเมล็ดพันธุ์อันเป็นผลพวงจากที่นี่ได้งอกงามอย่างมีคุณค่าขึ้นในแผ่นดินมากมายแล้ว