อุ่นไอทะเล Loligo Resort

ทะเลยังคงเป็นที่่พักใจของใครหลายๆ คน
แต่หากต้องการพักผ่อนอย่างมีสไตล์ อย่ารอช้าขับรถชิลล์ๆ ไปหัวหิน เมืองที่ไม่เคยสิ้นเสน่ห์ แล้วทิ้งความวุ่นวายไปเบื้องหลังกับที่พักแห่งใหม่...Loligo Resort (โลลิโก้ รีสอร์ท)
แม้จะเปิดตัวต้อนรับนักท่องเที่ยวได้แค่ไม่กี่เดือน แต่รีสอร์ทไอเดียเก๋แห่งนี้ก็พร้อมเสิร์ฟความรื่นรมย์ให้กับคนที่เบื่อความซ้ำซากจำเจ
“เราเปิดที่นี่เพื่อรองรับกลุ่มนักท่องเที่ยวทั่วไปหรือที่เป็นวีคเอนเดอร์เฉยๆ กับนักท่องเที่ยวที่อาจจะเป็น budget travel อะไรแบบนี้ครับ แล้วอยากให้โรงแรมมีไลฟ์สไตล์หน่อย คือถ้าเป็นแบรนด์ก็จะเป็นแพทเทิร์น แต่ของเรามีความแตกต่างที่ไม่ได้เข้าแพทเทิร์น คอนโทรลบัดเจ็ทได้” ศรายุธ เอกะหิตานนท์ ซีอีโอหนุ่ม กล่าว ก่อนจะเล่าถึงที่มาของชื่อรีสอร์ทว่า
โลลิโก้ หรือ “ปลาหมึกกล้วย" เป็นชื่อของปลาหมึกชนิดหนึ่งที่พบมากในเขตทะเลหัวหิน พวกมันหลงใหลแสงจันทร์ และยังเป็นอาหารขึ้นชื่อของหัวหิน “เวลาเรียกมันก็จะสนุกปากด้วย ก็เลยเอามาตั้งเป็นชื่อและเป็นโลโก้ของโรงแรม”
บรรยากาศเรียบง่ายทว่าเต็มไปด้วยกลิ่นอายของท้องทะเล เริ่มตั้งแต่ก้าวแรกสู่ล็อบบี้ต่อเนื่องไปจนถึงห้องอาหาร บาร์ และสระว่ายน้ำ เขาว่าไอเดียการออกแบบมาจากการผสมผสานระหว่างมารีน่าและฟิชเชอร์แมนวิลเลจ
“คนมาเที่ยวทะเลคงอยากได้ฟิลลิ่งทะเล เราก็เลยคิดถึงว่าอะไรบ้างคือการใช้ชีวิตใกล้ทะเล ก็นึกถึงมารีน่าไล่ไปจนถึงฟิชเชอร์แมนวิลเลจ เลยจับเอาสองขั้วมาผสมกัน คือจะเห็นเป็นผ้าใบขึงๆ แล้วก็มีพวกเรือบ้าง แต่ว่าเป็นแบบชาวบ้าน มีไม้ไผ่อะไรแบบนี้ ส่วนโทนสีเราก็ไปถ่ายรูปฟิชเชอร์แมนวิลเลจมา แล้วพยายามมองในรูปนั้นว่ามีสีอะไรบ้าง เอาพวกนี้มาวิเคราะห์สังเคราะห์ให้มันผสมกันโดยที่ไม่ขัดกันไปมา อย่างห้องอาหารชื่อ The captian เราก็ไม่ได้พยายามจะต้องทำให้มันเป็นกลาสีเรือ แต่พยายามจะบอกว่ากัปตัน เวลาเขา off duty ก็อยากทำกับข้าวให้คุณกินตอนอยู่บ้านนะ”
อบอุ่นเหมือนอยู่บ้าน บริการดุจคนพิเศษ เป็นสิ่งที่แขกที่มาพักจะสัมผัสได้ทั้งจากสิ่งอำนวยความสะดวกที่เพียบพร้อมและการบริการอย่างใส่ใจ ศราวุธ เล่าว่า “เรามีการออกแบบมาตรฐานการบริการ ที่นี่ยังจ้างทุกคนที่เป็นคนไทยอยู่ เพราะเรื่องความเป็นไทยอะไรต่างๆ ยังเป็นเสน่ห์ที่เราต้องใช้ โดยมีการทำสัมมนากันว่าบริการของแต่ละแผนกอะไรคือขั้นน้อยที่สุดที่ผู้เข้าพักควรจะคาดหวังได้”
สำหรับห้องพักของโลลิโก้ รีสอร์ท มีทั้งหมด 47 ห้อง 3 แบบ ทุกห้องค่อนข้างกว้างขวางและมาพร้อมกับระเบียงขนาดใหญ่ (40-58 ตารางเมตร) ภายในห้องออกแบบให้มีความทันสมัยผ่อนคลาย ทว่าไม่ทิ้งกลิ่นอายและเรื่องราวของหมู่บ้านชาวประมง ห้องพักสามารถรองรับผู้เข้าพักได้ตั้งแต่ 1-5 คน ห้องที่มีเตียงใหญ่จะมีหนึ่งเตียงขนาด 6 ฟุต(คิงเบด) หรือ 10 ฟุต(ซุปเปอร์คิงเบด) ขึ้นอยู่กับชนิดของห้อง ส่วนห้องที่มีสองเตียง แต่ละเตียงจะใหญ่ถึง 5 ฟุต (ควีนเบด 2เตียง) และเตียงเสริมแบบโซฟาเบดสำหรับบางห้องพัก ข้าวของเครื่องใช้สิ่งอำนวยความสะดวกครบถ้วนตามมาตรฐานโรงแรมชั้นนำ นอกจากนี้ยังมีห้องประชุมที่จุได้ถึง 80 คน
หากนอนมองทะเลจากห้องพักยังไม่เต็มอารมณ์ เดินจากรีสอร์ทไปเพียง 100 เมตรบนถนนส่วนตัว คุณก็จะได้ย่ำทรายไปบนชายหาดที่ทอดยาว หรือจะลงเล่นน้ำทะเลโต้คลื่นก็ไม่ผิดกติกา แต่เชื่อเถอะว่าการได้มาพักที่นี่อาจทำให้คุณอ้อยอิ่งอยู่ในห้องพักหรือตามมุมต่างๆ จนไม่อยากออกไปไหน
โดยเฉพาะห้องอาหารที่ไม่ลืมเติมสไตล์ไปในทุกรายละเอียด “ข้าวของถ้วยชามหม้อไหกระทะ เราพยายามเลียนแบบของที่ชาวประมงเขามีในครัว ผมว่ามันน่าเบื่อที่จะต้องใช้อุปกรณ์โรงแรม ซึ่งมีขายอยู่แล้ว ถ้าที่ไหนไปซื้อของพวกนี้มามันก็เหมือนกันหมด แล้วเราก็คิดว่าจะทำอย่างไรให้ของมันอุ่นอยู่ได้ แต่เป็นอีกมู้ดนึงที่ดูรีแลกซ์ขึ้นหน่อย ให้มันเป็นการใช้ชีวิตริมทะเล” ศรายุธ บอกถึงความตั้งใจ
จิบกาแฟ ละเลียดอาหารเช้าที่มีให้เลือกทั้งอเมริกันเบรคฟาสต์ สลัด และข้าวต้ม ปาท่องโก๋แบบไทยๆ ใครที่อยากออกกำลังเบาๆ จะเข้าฟิตเนส ว่ายน้ำ หรือแช่ตัวจากุซซี่ก็ได้ บ่ายๆ อาจมานอนนวดผ่อนคลายที่
บลู คอรัล สปา ก่อนจะออกไปเที่ยวเล่นใกล้ๆ อย่างเขาตะเกียบ ตัวเมืองหัวหิน หรือสวนน้ำนาวาวานา เย็นๆ หากต้องการดินเนอร์ริมทะเลในบรรยากาศสุดโรแมนติก ก็สามารถไปทานอาหารเย็นที่ Let's sea ซึ่งอยู่ติดกันได้ในราคาลด 10 %
“กลางคืนสามารถเดินหรือใช้บริการรถของโรงแรมไปซิคาด้าได้ ถ้าไม่ออกไปไหนเรามีบาร์เครื่องดื่มเปิดบริการถึงห้าทุ่ม มีเดลี่ชอปที่มีสลัด ซุป แซนด์วิช บริการ 24 ชม.ใครหิวก็ซื้อได้ราคาไม่แพง คือไม่ต้องเดินออกไปข้างนอกเลย”
พักตรงนี้...นอกจากเปลี่ยนโหมดให้เป็นสโลว์ไลฟ์แล้ว ยังเติมความสดใสด้วยบรรยากาศที่ไม่ซ้ำซากจำเจ ดื่มด่ำกับความงามที่ไม่เคยจางหายของทะเลหัวหิน
..................
ที่ตั้ง : ซอยหัวถนน 23 เขาตะเกียบ หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์
จุดเด่น : ห้องพักสะดวกสบาย บริการอบอุ่นเป็นกันเอง ใกล้ทะเล
ราคา : ไม่ถึง 3,000 -8,500 บาท (ราคาดีที่สุดสามารถจองผ่านเว็บไซต์ของโรงแรม)
ติดต่อ : 0 3253 6777, เว็บไซต์ loligoresort.com