เมื่อ 'หนังซุปเปอร์ฮีโร่' ครองอันดับหนังทำเงินบ็อกซ์ออฟฟิศ

ด้วยความที่หนังซุปเปอร์ฮีโร่ยุคใหม่ในรอบ 10 กว่าปีที่ผ่านมามีเนื้อหาที่จริงจังขึ้น สนุกขึ้น และชมได้ทุกเพศทุกวัย ทำให้ในวันนี้ หนังในตระกูลซุปเปอร์ฮีโร่กลายเป็นหนังทำเงินที่พอเข้าฉายที เจ้าของโรงหนังต่างเทโรงให้เพราะรู้แน่นอนว่าหนังเรื่องนี้ทำเงินได้แน่นอน

จนกลายเป็นว่า ในตอนนี้ นิยามของคำว่าหนังทำเงิน คือหนังซุปเปอร์ฮีโร่ ไปแล้ว โดยหากดูจากข้อมูลล่าสุดในปีนี้ของหนังซุปเปอร์ฮีโร่ที่เข้าโรงมาแล้วทั้ง 3 เรื่อง ได้แก่ Deadpool, Batman v Superman : Dawn of Justice และ Captain America : Civil War ล้วนแล้วแต่เป็นหนังทำเงินทั่วโลกติดอันดับท็อปไฟว์ โดยข้อมูลจากบ็อกซ์ออฟฟิศ อันดับหนังทำเงินอันดับหนึ่งของปี 2016 ก็คือเรื่อง Captain America : Civil War ทำรายได้ไป 1,054 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 36,890 ล้านบาท อันดับ 3 เป็นของ Batman v Superman ทำรายได้ไป 870 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ 30,450 ล้านบาท และอันดับ 5 คือ Deadpool ทำรายได้ไป 763 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ 26,700 ล้านบาท นี่ยังไม่รวมถึงซุปเปอร์ฮีโร่มนุษย์กลายพันธุ์ X-Men : Apocalypse ที่เพิ่งเข้าโรงฉาย ล่าสุดก็ขึ้นอันดับหนึ่งของบ็อกซ์ออฟฟิศในหลายประเทศที่เข้าฉายถ้ามองในภาพรวม ภาพยนตร์ทำเงินสูงสุดตลอดกาล ก็มีหนังแนวซุปเปอร์ฮีโร่ ติดอันดับหนังทำเงินสูงสุด 10 อันดับแรกถึง 3 เรื่อง ได้แก่ Marvel's The Avengers ติดอันดับที่ 4 Avengers: Age of Ultron ติดอันดับที่ 7 และ Iron Man ภาคสาม ติดอันดับที่ 10 ซึ่งทั้งสามเรื่องล้วนแล้วแต่สร้างมาจากสตูดิโอของมาร์เวลที่ปูพื้นฐานภาพยนตร์ซุปเปอร์ฮีโร่มาตั้งแต่ปี 2008 เมื่อ 8 ปีที่แล้วที่ปล่อยภาพยนตร์ Iron Man ภาคแรกออกมาแล้วประสบความสำเร็จอย่างสูง จนถูกต่อยอดมาถึงปัจจุบัน ซึ่งเมื่อดูจากไลน์อัพของภาพยนตร์ซุปเปอร์ฮีโร่ เราจะได้เห็นหนังแนวนี้อีกพักใหญ่ในช่วงหลายปีข้างหน้า อะไรคือปัจจัยความสำเร็จของภาพยนตร์ซุปเปอร์ฮีโร่ ธิดา ผลิตผลการพิมพ์ ผู้ก่อตั้งนิตยสารภาพยนตร์ดังไบโอสโคปได้อธิบายว่า นั่นเพราะวัฒนธรรมการดูหนังของซุปเปอร์ฮีโร่นั้นแข็งแรง เนื้อหาสนุกซับซ้อน ดูได้ทุกเพศทุกวัย ตราบใดที่คนยังชอบหนังซุปเปอร์ฮีโร่อยู่ คงไม่หายไปจากจอและสร้างปรากฏการณ์ทำรายได้ใหม่ ๆ ขึ้นมาแน่นอน