เชิญดูนกหนีหนาวจากไซบีเรียที่ 'เกาะลิบง'

วันนี้(21 พ.ย) นายชัยพฤกษ์ วีระวงศ์ หัวหน้าเขตห้ามล่าสัตว์ป่าหมู่เกาะลิบง อ.กันตัง จ.ตรังนำเจ้าหน้าที่ฯ ออกสำรวจฝูงนกหนีหนาวที่อพยพมาจากประเทศไซบีเรียจำนวนหลายหมื่นตัว โดยพบมากที่หาดตูบ แหลมจูโหย บ้านพร้าวและชายฝั่งพื้นที่อื่น ๆ ในตำบลเกาะลิบง เนื่องจากเป็นพื้นที่ชุ่มน้ำโลก ทำให้มีความอุดมสมบูรณ์ของอาหารและมีปริมาณเพียงพอสำหรับนกหนีหนาว ซึ่งอพยพมาเป็นประจำทุกปีตั้งแต่ต้นเดือนพฤศจิกายน- เดือนเมษายนปีหน้า

ซึ่งปีนี้มีนกหนีหนาวมาเร็วกว่าปีที่ผ่านมา คือพบตั้งแต่กลางเดือนตุลาคม 2559 ในกลุ่มนกหัวโตทราย นกอีก๋อยเล็ก อีก๋อยใหญ่ นกน็อตใหญ่และอื่น ๆ หลายสิบชนิด จำนวนหลายหมื่นตัว และทยอยบินมาเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อเข้าสู่ฤดูหนาวเต็มตัว ซึ่งทุกปีจะมีนักปักษีวิทยาและนักวิจัยจาหลายภาคส่วน มายิงตาข่ายเพื่อติดห่วงขา ติดตามพฤติกรรมและตรวจสอบหาโรคอุบัติใหม่ที่อาจจะมากับนก เพื่อเฝ้าระวัง

ซึ่งทำให้ทราบว่านกหนีหนาวดังกล่าว ใช้เส้นทางบินมาจากไซบีเรียผ่านประเทศเวียดนาม พม่า ลาวและไทย ก่อนจะบินไปประเทศมาเลเซีย และใช้เส้นทางเดิมบินกลับไป โดยที่ตำบลเกาะลิบง อ.กันตัง จ.ตรัง พบนกหนีหนาวมากที่สุดในประเทศไทย และเป็นกลุ่มนกเดิม ๆ ที่เคยบินมาแล้ว โดยพบห่วงขาซึ่งเป็นสัญลักษณ์ที่ชัดเจน และมีนักดูนกทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ นิยมเดินทางมาดูนกหนีนาวที่ตำบลเกาะลิบงกันเป็นจำนวนมาก

นายชัยพฤกษ์ วีระวงศ์ หัวหน้าเขตห้ามล่าสัตว์ป่าหมู่เกาะลิบง อ.กันตัง จ.ตรัง กล่าวว่า นกหนีหนาวที่พบมีทั้งนกในตระกูลอีก๋อย นกน็อตใหญ่ นกหัวโตเล็กหัวโตใหญ่และอื่น ๆ โดยเฉพาะมักจะมีนกหายากบินมาเพิ่มเป็นประจำทุกปี เช่น นกตระกูลเหยี่ยว เป็นต้น ซึ่งจะมาอยู่ประมาณ 5-6 เดือนหรือจนถึงปลายเดือนเมษายนปีนี้จึงจะบินกลับ จึงขอเชิญชวนนักท่องเที่ยวเดินทางมาเที่ยวชมธรรมชาติที่สวยงามทางทะเลตรัง ซึ่งมีความหลากหลาย และเป็นแหล่งอาศัยของพะยูนฝูงใหญ่ที่สุดในประเทศไทยด้วย

สำหรับนกดังกล่าวหนีหนาวมาจากไซบีเรียผ่านเวียดนาม พม่า ลาวและไทยและพบที่จ.ตรังมากที่สุดในประเทศไทย เนื่องจากที่ตำบลเกาะลิบงเป็นพื้นที่ชุ่มน้ำโลกหรือ แรมซ่าไซด์ ทำให้กลายเป็นแหล่งรวมนกหลากชนิดเพราะมีความอุดมสมบูรณ์ของแหล่งอาหาร ทำให้นกหนีหนาวได้สะสมพลังงาน เพื่อให้ร่างกายอบอุ่นก่อนที่จะบินกลับไปยังประเทศไซบีเรียราวปลายเดือนเมษายนปีหน้า

อย่างไรก็ตามแรมซาร์ไซต์ หมายถึง พื้นที่ชุ่มน้ำที่มีความสำคัญระหว่างประเทศและของโลก ปัจจุบันประเทศไทยมีพื้นที่ชุ่มน้ำที่อยู่ในทะเบียนรายนามพื้นที่ชุ่มน้ำโลกที่มีความสำคัญระหว่างประเทศ หรือแรมซาร์ไซต์ ของอนุสัญญา ว่าด้วยพื้นที่ชุ่มน้ำรวมทั้งสิ้น 12 แห่ง โดยอยู่ในพื้นที่อนุรักษ์ เช่น อุทยานแห่งชาติ เขตห้ามล่าสัตว์ป่า จำนวน 9 แห่ง และอยู่ในพื้นที่ชุมชนและ/หรือ ที่สาธารณะ รวม 3 แห่ง

โดยประเทศไทยได้เข้าเป็นภาคีอนุสัญญาแรมซาร์เป็นลำดับที่ 110 ทั้งนี้ อุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม - เขตห้ามล่าสัตว์ป่าหมู่เกาะลิบง - ปากน้ำตรัง จังหวัดตรัง ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นแรมซาร์ไซต์ (Ramsar Site) ลำดับที่ 7 ของประเทศไทย และลำดับที่ 1182 ในทะเบียนพื้นที่ชุ่มน้ำที่มีความสำคัญระหว่างประเทศ