จำปาขาวของ “พ่อขุน”

จำปาขาวของ “พ่อขุน”

ในโลกนี้มีคน สิ่งของ และเรื่องราวแปลกๆ ให้เราประหลาดใจได้เสมอ ต้นไม้ก็เช่นกัน

ที่อำเภอนครไทย จังหวัดพิษณุโลก มีต้นไม้ชนิดหนึ่งซึ่งชาวบ้านเชื่อกันว่าเป็นต้นไม้ที่พ่อขุนบางกลางท่าว หรือพ่อขุนศรีอินทราทิตย์ ทรงปลูกไว้เมื่อครั้งครองเมืองบางยาง(นครไทย) นั่นคือ ต้นจำปา แต่สิ่งที่แปลกก็คือ จำปาต้นนี้ออกดอกมาเป็นสีขาว


อย่างที่รู้ๆ กัน จำปาทั่วไปเมื่อออกดอกมาจะเป็นสีเหลืองทั้งหมด แต่จำปาต้นนี้ออกดอกเป็นสีขาวนวลตา แถมยังส่งกลิ่นหอมฟุ้งไปทั่ว เพราะความแปลกจึงมีคนพยายามจะนำสายพันธุ์นี้ไปปลูกที่อื่น แต่ผลออกมาปรากฏว่าได้ดอกสีเหลืองผิดจากต้นแม่ทุกครั้งไป ใครๆ จึงพากันเชื่อว่านี่คือต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองของชาวนครไทย


สอดคล้องกับตำนานที่เล่าขานผ่านกันมาว่า ต้นไม้ต้นนี้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการกอบกู้บ้านเมือง โดยพ่อขุนบางกลางท่าวทรงปลูกต้นจำปาต้นนี้ไว้ก่อนออกไปสู้รบกับขอมเพื่อตีเมืองสุโขทัยคืนมา พร้อมกันนั้นได้ตั้งสัตยาธิษฐานว่า ถ้าตีเมืองสุโขทัยได้สำเร็จ ขอให้ต้นจำปาเจริญงอกงามดีและออกดอกเป็นสีขาว แต่ถ้าพลาดท่าเสียทีเมื่อไร ขอให้จำปาต้นนี้ค่อยๆ ตายไป ซึ่งก็ปรากฏจริงดังคำของพ่อขุนบางกลางท่าว ปัจจุบันจำปาขาวยังตั้งตระหง่านอยู่ภายใน วัดกลางศรีพุทธาราม อำเภอนครไทย บวกลบตามเงื่อนเวลาแล้วก็น่าจะมีอายุราว 700 ปีเศษ


เรื่องนี้กรมพระยาดำรงราชานุภาพ ได้ทรงบันทึกไว้ว่า "พ่อขุนบางกลางท่าว เจ้าเมืองบางยาง ทรงปลูกไว้เป็นอนุสรณ์ คู่เมืองของเมืองนครบางยาง ซึ่งได้ปลูกไว้ที่วัดๆ หนึ่งทางทิศตะวันตกของพระอุโบสถ วัดดังกล่าวนี้ ปัจจุบันก็คือ "วัดกลางศรีพุทธาราม" ดังนั้น จึงประมาณได้ว่า ต้นจำปาขาว ปลูกก่อนปี พ.ศ. 1806”


ส่วนหม่อมเจ้าหญิงพูนพิสมัย ดิศกุล พระธิดาของสมเด็จกรมพระดำรงราชานุภาพ ก็เสด็จไปอำเภอนครไทย เมื่อเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2499 พร้อมตรัสถามว่า “ต้นจำปาขาวที่อยู่ทางทิศตะวันตกของพระอุโบสถวัดกลาง ห่าง 7 วา นั้นอยู่ไหม” และได้เสด็จทอดพระเนตรต้นจำปาขาวด้วย


ปัจจุบันจำปาขาวต้นนั้นมีขนาดลำต้นวัดโดยรอบประมาณ 3 เมตรเศษ สูงประมาณ 9-10 เมตร มีความเสื่อมโทรมไปตามกาลเวลา ที่โคนลำต้นพบว่ามีโพรงผุกร่อน แต่ก็มีการดูแลรักษาเป็นอย่างดี โดยทางวัดได้ตั้งคณะกรรมการอนุรักษ์ต้นจำปาขาวขึ้นเพื่อดูแลรักษาและเพาะขยายพันธุ์ต้นจำปาต่อไป


ส่วนวัดกลางศรีพุทธาราม หรือที่เรียกสั้นๆ ว่า วัดกลางนครไทย เป็นวัดเก่าแก่ที่มีโบราณวัตถุอยู่มากมาย สันนิษฐานว่าสร้างโดยช่างล้านนาไทยหรือช่างชาวพม่า รอบๆ พระอุโบสถมีพัทธสีมาทำด้วยศิลาทรายสีแดง ด้านหน้าวัดกลางมีอนุสาวรีย์พ่อขุนบางกลางท่าว สร้างโดยช่างชาวนครไทยผู้ศรัทธา และอนุสาวรีย์พ่อขุนบางกลางท่าวองค์ใหญ่ที่สร้างโดยกรมศิลปากร


มาถึงนครไทยแล้วอยากปูพื้นความรู้ด้านประวัติศาสตร์ของเมืองเก่าแห่งนี้ ต้องแวะมาที่วัดกลางนครไทย สักการะอนุสาวรีย์พ่อขุนบางกลางท่าว ศึกษาเรื่องราวในอดีตผ่านต้นจำปาขาว แล้วเราจะรู้จักนครไทยมากขึ้น