The Mummy...ปฐมบทสุดหลอนแห่ง Dark Universe

เชื่อแน่ว่าหลายคนที่ไม่ได้เกาะติดความเคลื่อนไหวในวงการฮอลลีวู้ด แล้วได้ไปดูภาพยนตร์เรื่อง The Mummy จบลง คงอดจะอุทานออกมาไม่ได้ว่า เอ๊ะ นี่มันจงใจสร้างแบบให้มีภาคต่อนี่นา

จะบอกว่าคุณคิดถูกแล้วค่ะ เพราะ The Mummy เวอร์ชั่น 2017 ที่นำแสดงโดย ทอม ครูซ และ โซเฟีย บูเทลลา เป็นหนังเปิดจักรวาลแห่งความดำมืด หรือ Dark Universe ของค่ายยูนิเวอร์แซลนั่นเอง

แล้ว Dark Universe คืออะไร?

Dark Universe คือ จักรวาลภาพยนตร์ที่จะมีเหล่าตัวเอกจากนิยายสยองขวัญอย่าง แดร็กคูลา แฟรงเกนสไตน์ มนุษย์ล่องหน ฯลฯ เป็นตัวเอก โดยทางค่ายยูนิเวอร์แซลเข็นโปรเจคท์นี้ออกมาชนกับจักรวาลหนังซูเปอร์ฮีโร่อย่าง Marvel Cinematic Universe และ DC Extended Universe ที่ฮอตฮิตเสียเหลือเกินนั่นเอง

สำหรับ monster ที่ถูกวางตัวเอาไว้แล้วว่าจะมาปรากฏตัวอยู่ใน Dark Universe ประกอบด้วย

Dr. Henry Jekyll & Mr. Hyde นำแสดงโดย รัสเซล โครว์

Frankenstein นำแสดงโดย ฮาเวียร์ บาร์เด็ม

The Invisible Man นำแสดงโดย จอห์นนี เดปป์

The Mummy นำแสดงโดย โซเฟีย บูเทลลา

Nick Morton นำแสดงโดย ทอม ครูซ

แล้วในภาพยนตร์เรื่อง The Mummy ซึ่งเป็นหนังเปิดจักรวาล Dark Universe เราก็ได้เห็นตัวเอกโผล่มาแล้วถึง 3 คนด้วยกัน คือ Dr. Henry Jekyll & Mr. Hyde ตามมาด้วย The Mummy และ Nick Morton ส่วนเรื่องต่อไปที่มีแผนจะสร้างก็คือ Bride of Frankenstein ที่มีกำหนดออกฉายในวันวาเลนไทน์ปี 2562 โดยข่าวแว่วมาว่าได้มีการติดต่อ แองเจลีนา โจลี่ มารับบทนำ แต่ยังไม่ได้มีการเซ็นสัญญาอย่างเป็นทางการ

แล้วตัวเอกที่ถูกมองว่าเป็นสัตว์ร้ายในร่างมนุษย์มาเชื่อมโยงกันได้อย่างไร?

ถ้าใครได้ไปดู The Mummy มาแล้วคงจะพอเดาคำตอบออกว่าผู้บัญชาการกลาย ๆ ของ Dark Universe ก็คือ Dr. Jeckyll ซึ่งเปิดห้องทดลองลับขึ้นมาเพื่อศึกษาวิจัยผู้ที่มีพลังเหนือธรรมชาติทั่วโลก แล้วจัดตั้งเครือข่ายติดต่อ ให้ความช่วยเหลือขึ้นมาเพราะว่าตัวเขาเองก็เป็นหนึ่งในคนกลุ่มนี้เหมือนกัน

จักรวาลแห่งความสยอง

สำหรับความรู้สึกที่มีต่อ Dark Universe ภายหลังจากที่ได้ไปชม The Mummy มาแล้ว ต้องบอกว่าผิดไปจากที่ตัวเองคิดไว้ เพราะดันไปเอาจักรวาลหนังซูเปอร์ฮีโร่ของค่ายดีซี และมาร์เวลส์เป็นตัวตั้ง เลยอยากให้ออกมาแบบสนุกสนาน ตื่นเต้นเร้าใจแบบนั้น

แต่นั่นเป็นความคิดที่ผิด เพราะนี่คือ Dark Universe นะ มันก็ต้องเน้นความสยดสยอง และความมืดมนหม่นหมองสิ ซึ่งถ้าเป็นตรงจุดนี้ “ยูนิเวอร์แซล” ทำได้ตรงตามคอนเซปท์แล้ว เพราะ The Mummy ทำให้เกิดความรู้สึกสยองขึ้นมาได้ (ทั้งที่ตัวเองตั้งใจไปดูหนังซูเปอร์ฮีโร่ ไม่ได้คิดว่าจะไปดูหนังสยองขวัญเลย)

หนังปฐมบทแห่ง Dark Universe เรื่องนี้ไม่ได้มีแค่ความสยอง แต่ยังเต็มไปด้วยฉากแอ็คชั่นเร้าใจอย่างฉากพายุทรายถล่มเมือง หรือฉากเครื่องบินตกที่ “ทอม ครูซ” และนางเอกลงทุนขอผู้กำกับเล่นเองโดยไม่ใช้สตันท์แมน แม้จะต้องอ้วกแตกอ้วกแตนกันไปหลายรอบกว่าจะถ่ายเสร็จก็ตาม

จุดด้อยอย่างหนึ่งที่คิดว่าอาจจะทำให้แฟรนไชส์หนัง Dark Universal ไม่ฮิตถล่มทลายก็คือเรื่องที่ตัวเอกในจักรวาลนี้เป็นกลุ่มที่ถูกมองว่าเป็นตัวประหลาดของสังคม หน้าตาไม่ได้หล่อเหลาสวยงาม เป็นที่รักใคร่เหมือนกับเหล่าซูเปอร์ฮีโร่ผู้กอบกู้โลกอย่าง แบทแมน ไอรอนแมน กัปตันอเมริกา หรือวันเดอร์ วูแมน เลยอาจจะทำให้ไม่ได้รับเสียงกรี๊ดจากสาว ๆ ไม่ได้ถูกมองว่าเท่ หรือเป็นไอดอลในสายตาของเด็ก และผู้ชายเหมือนกับเหล่าซูเปอร์ฮีโร่พวกนั้น

แต่ถ้าทำหนังออกมาให้ดูสนุกกว่านี้ แล้วเพิ่ม “ความลึก” ให้กับตัวละครเข้าไปอีกก็เชื่อว่าน่าจะทำให้แฟรนส์ไชส์หนัง Dark Universe โดยใจคนได้ไม่ยาก คล้าย ๆ กับ Guardians of the Galaxy ที่บรรดาตัวเอกของเรื่องก็ไม่ได้หน้าตาสวยงามกันเลย แต่กลับเป็นที่รักใคร่ด้วยความกวน เกรียนของพวกเขา

เพราะคนเราไม่ได้คบกันที่เปลือกฉันใด...หลายคนก็ไม่ได้เสพย์หนังเพราะพระเอกหน้าตาดีฉันนั้น