เปิดแล้วตามคำเรียกร้อง! วิ่งดงพญาเย็นเขาใหญ่ ซีซั่น2

เรียกว่าได้กระแสตอบรับที่ดีมากสำหรับงานวิ่ง Dong Phayayen - Khaoyai X6 Series Run Season 1 ที่ได้ปิดฉากลงไปแล้ว ซึ่งนับเป็นการช่วยเปิดประสบการณ์การวิ่งแบบรักษ์ธรรมชาติที่เป็นไปอย่างต่อเนื่อง 6 สนาม โดยใช้เส้นทางรอบเขตผืนป่ามรดกโลกดงพญาเย็น - เขาใหญ่ 6 จังหวัด โดย บริษัท โคอะ-ฉะ มีเดีย (ประเทศไทย) จำกัด และบริษัท Inspire Runners คณะผู้จัดงานเผยที่ผ่านมามีผู้เข้าร่วมวิ่งแสดงพลังรักษ์ป่าทั้งหมดกว่า 14,000 ราย และสามารถกระตุ้นกระแสหวงแหนผืนป่ามรดกโลกได้มากขึ้นในวงกว้าง พร้อมประกาศเดินหน้าไม่ถอย เปิดตัวงานวิ่งดงพญาเย็น-เขาใหญ่ซีรียส์รัน ซีซั่น 2 ตามคำเรียกร้อง รับไม้ต่อหวังสร้างสรรค์นักวิ่งรักษ์ป่าไปสู่ความเป็น "นักวิ่งจิตอนุรักษ์ตัวจริง" พกหัวใจ 3 R คำนึงถึงสิ่งแวดล้อมตลอดเส้นทางวิ่ง

“คุณมาโนช วีระกุล” นายกสมาคมอนุรักษ์ป่ามรดกโลกดงพญาเย็น-เขาใหญ่ กล่าวว่า “หลังจากที่งานวิ่งดงพญาเย็นเขาใหญ่ซีซั่น 1 ได้เสียงตอบรับเป็นอย่างดี มีนักวิ่งเข้าร่วมแสดงพลังรักษ์ป่าอย่างล้นหลาม สิ่งนี้บ่งชี้ให้เห็นถึงความสำเร็จของการสร้างการมีส่วนร่วมในการแสดงพลังรักษ์ป่าฯ ได้เป็นอย่างดี ด้วยเหตุนี้ จึงทำให้มีการจัดงานวิ่งแสดงพลังรักษ์ป่ามรดกโลกดงพญาเย็นเขาใหญ่ซีซั่นที่ 2 เพื่อให้เกิดการสร้างการมีส่วนร่วมอย่างต่อเนื่องเพื่อให้ประชาชนได้ร่วมแสดงพลังรักษ์ผืนป่ามรดกโลก ได้ในวงกว้างมากยิ่งขึ้น โดยเปิดโอกาสให้ทุก ๆ ท่านได้เข้าสัมผัสธรรมชาติของผืนป่ามรดกโลกอย่างใกล้ชิด ในรูปแบบ วิ่งแสดงพลังรักษ์ผืนป่า เพื่อให้นักวิ่งได้เรียนรู้ธรรมชาติและมีจิตสำนึกรักษ์ป่าไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม มาร่วมเป็นนักวิ่งจิตอนุรักษ์ตัวจริง เสียงจริง ไปด้วยกันนะครับ”

คุณขวัญเรือน ถาวรทวีวงษ์ ประธานบริษัท Inspire Runners กล่าวว่า “งานวิ่งดงพญาเย็นเขาใหญ่ซีซั่นที่สองเป็นไม้ต่อของการวิ่งแสดงพลังรักษ์ป่าที่จะต้องวิ่งให้เกิดหลักคิดอย่างมีนัยยะสำคัญ ด้วยหลัก 3 R ดังนี้ 1.REDUCE เป็นการรณรงค์ให้นักวิ่งทุกคนลดปริมาณขยะ ด้วยการขอความร่วมมือให้นักวิ่งทุกคนใช้ขวดน้ำเพียงขวดเดียวตลอดเส้นทาง เติมน้ำแทนการใช้แก้วแล้วทิ้ง 2.REUSE หลักการใช้ทรัพยากรให้คุ้มค่า รณรงค์ให้นักวิ่งทุกคนใช้จานเดิมในการตักอาหาร เพื่อลดการใช้แม้จะเติมอาหารหลายครั้ง และข้อสุดท้าย 3. RESPECT เคารพกติกาของอุทยานแห่งชาติ ไม่ใช้โฟม ไม่ดื่มสุรา ไม่ส่งเสียงดัง ไม่เพิ่มขยะ ทั้งหมดก็เพื่อเป็นการเติมเต็มให้นักวิ่งได้คิดคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมด้วยการเริ่มต้นจากสิ่งเล็กๆที่สามารถนำไปปฎิบัติใช้ได้กับทุก ๆ สนามวิ่ง

นอกจากนี้ในแต่ละสนามวิ่งในซีซั่น 2 นี้ ได้นำพืชพรรณไม้ที่หาชมได้ยาก และอาจเสี่ยงต่อการสูญพรรณในป่าธรรมชาติ มาเป็นสัญลักษณ์ประจำในแต่ละสนามSERIES1 ชะอม ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 4 สิงหาคม 2562 ณ หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติ ขญ.15 ชะอม จ.สระบุรี นักวิ่งทุกคนจะได้พบกับเส้นทางที่แนบชิดธรรมชาติ สัมผัสวิถีชีวิตพื้นบ้านและสร้างสุขก่อนงานวิ่งไปกับชุมชนที่น่ารัก เราเปิดโอกาสให้นักวิ่งทุกคนได้รู้จักต้นไม้หายากเพิ่มมากขึ้นและแนะนำให้ทุกคนได้รู้จักต้นไม้ในผืนป่ามรดกโลกสัญลักษณ์ของสนาม คือ ต้นสมพง ต้นไม้สูงใหญ่ที่มีรากเป็นพูพอนช่วยค้ำยัน

SERIES 2 คลองปลากั้ง จัดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 20 ตุลาคม 2562 ณ หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติขญ.4 คลองปลากั้ง จ.นครราชสีมา ลักษณะของสนามจะอุดมไปด้วยเนินและร่มไม้ มีเซอร์ไพร์อยู่ตลอดเส้นทาง ส่วนต้นไม้สัญลักษณ์คือ “โมลีสยาม” เป็นพรรณไม้ที่หาดูได้ยากมาก ดอกสวย มีกลิ่นหอมทั้งวัน

SERIES 3 ปางสีดา กับรูปแบบสนาม Cross Country ในระยะ 5 KM และสนามวิ่ง Trail

ระยะ 10 KM, 21 KM จัดขึ้นในวันเสาร์-อาทิตย์ที่ 11-12 มกราคม 2563 ณ อุทยานแห่งชาติปางสีดา จ.สระแก้ว สนามนี้มุ่งเน้นให้นักวิ่งได้สัมผัสธรรมชาติแบบใกล้ชิดมากยิ่งขึ้นกว่าสนามอื่น ๆ ลักษณะของเส้นทางมีความท้าทายตั้งแต่เริ่มวิ่งปล่อยตัว และ “กระเช้าสีดา” ไม้เถาล้มลุก ที่ทอดเลื้อยไปตามพื้นดินและเกี่ยวพันต้นไม้อื่น ผลมีเอกลักษณ์ คือเป็นลักษณะเป็นกระเช้า รูปไข่ ผลแห้งแตกได้ ไม้ในวรรณคดีที่นางสีดาให้ไว้เป็นที่ระลึกแก่มนุษย์ เป็นต้นไม้อีกชนิดที่ควรอนุรักษ์ไว้ ปลูกเป็นไม้ประดับก็สวยงามแปลกตา

ด้านคุณพชรพร พนมเขต กรรมการผู้จัดการ บริษัท โคอะ-ฉะ มีเดีย (ประเทศไทย) จำกัด ได้กล่าวปิดท้ายว่า สำหรับนักวิ่งที่วิ่งได้ครบถึง 3 สนาม 3 เส้นทางจะได้รับกล่องดีไซน์สวยเพื่อเก็บเหรียญแห่งความสำเร็จ พร้อมด้วยตุ๊กตา “เสือยิ้ม” ซิกเนเจอร์ของงานวิ่งแสดงพลังรักษ์ป่าฯ นอกจากนี้รายได้ 100 บาท จากค่าสมัครของนักวิ่งทุกท่าน ยังมอบให้สมาคมอนุรักษ์ป่ามรดกโลกดงพญาเย็น-เขาใหญ่ เพื่อใช้ในการขับเคลื่อนกิจกรรมการอนุรักษ์ป่ามรดกโลกดงพญาเย็น-เขาใหญ่ด้วย

ฉะนั้นจึงขอเรียนเชิญทุกท่านมาร่วมใจกันเป็นนักวิ่งจิตอนุรักษ์อย่างพร้อมเพรียงกันนะคะ โดยสามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Facebook: Dok-WHA หรือ https://www.facebook.com/DoKWHA/  แล้วพบกันค่ะ”