สีแดง...แห่งแอร์เมส

สีแดง...แห่งแอร์เมส

แบรนด์แฟชั่นจากประเทศฝรั่งเศส แอร์เมส (Hermès) เผยโฉมช็อปใหม่ให้ชมเป็นครั้งแรก พร้อมเปิดนิทรรศการ Rouges Hermès บอกเล่าถึงประวัติความเป็นมากว่า 180 ปี

แอร์เมส (Hermès) เผยโฉมช็อปใหม่ให้ชมเป็นครั้งแรก ที่สยามพารากอน เพื่อต้อนรับฤดูกาลใหม่ในเฉดสีอบอุ่น ดูนวลตาและผ่อนคลาย ในงานตกแต่งที่บอกเล่าถึงเสน่ห์ของงานหัตถกรรมไทย

ตั้งแต่แนวกระจกบริเวณหน้าร้านออกแบบให้รับกับฉากกั้นไม้ฉลุลาย แรงบันดาลใจจากบ้านเรือนไทย จากเทคนิคการฉลุลายที่มีความโปร่งและทึบ สร้างบรรยากาศพื้นที่ให้มีความเป็นส่วนตัว ในขณะที่ผนังด้านในกรุด้วย “ย่านลิเภา” หัตถกรรมไทยที่เป็นมรดกภูมิปัญญาไทยสืบทอดมายาวนานกว่า 150 ปี สีเข้มของเครื่องจักสานย่านลิเภาตกแต่งอย่างกลมกลืนกับผนังและพื้นไม้ไผ่ปาร์เก้สีคาราเมล ในขณะที่เฟอร์นิเจอร์เป็นสีอ่อนทำจากไม้เชอร์รี่ และพรมสีเหลืองหญ้าฝรั่นที่ตัดกับสีส้มมะขามและสีแดงทับทิม เพิ่มความรู้สึกสดใสและสร้างความสมดุลของโทนสีให้ดูอบอุ่น กลมกลืน

IMG_3854-Panorere

เมื่อก้าวย่างสู่ช็อปรูปโฉมใหม่ ขอแนะนำให้ไปยืนตรงโลโก้ ex-libris (รถม้าและตัวอักษร H) ที่รอต้อนรับอยู่บริเวณทางเข้าซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของร้าน Hermès ทั่วโลก หนึ่งในความพิเศษคือโลโก้นี้ทำจากสเตนเลส สตีล และฝังลงไปอย่างประณีตบนพื้นไม้ไผ่สีคาราเมลเข้ม ด้านบนประดับด้วยโคมไฟ Grecques ที่ออกแบบโดยเฉพาะสำหรับร้าน Hermès มาตั้งแต่ปี 1925 ร้านแห่งนี้ได้แรงบันดาลใจจากงานฝีมือของไทย ซึ่งโดดเด่นในการใช้วัสดุที่ทำด้วยมือ และคัดสรรมาจากแหล่งผลิตงานฝีมืออันเก่าแก่ อาทิ ไหมไทย ไม้ฉลุ และเครื่องจักสานย่านลิเภา

IMG_3969-Pano

ที่จุดนี้ เมื่อกวาดสายตาเข้าสู่พื้นที่ในโซนแรก จะพบกับพื้นที่จัดแสดงผ้าพันคอ น้ำหอม เครื่องประดับจิวเวลรี่ รวมไปถึงสินค้าในกลุ่ม Equestrian ที่เกี่ยวข้องกับม้าอันเป็นต้นกำเนิดของแบรนด์ และคอลเลคชั่นของตกแต่งบ้านและเทเบิ้ลแวร์ บริเวณสุดผนังที่กรุด้วยย่านลิเภา จัดแสดงเสื้อผ้าบุรุษ เข็มขัด และรองเท้าสุภาพสตรี ถัดเข้ามายังพื้นที่ส่วนกลางที่ตกแต่งด้วยพื้นโมเสคอันเป็นเอกลักษณ์ของร้าน คือโซนเครื่องหนัง เมื่อกวาดสายตาสู่ด้านในที่ให้ความเป็นส่วนตัว   คือพื้นที่จัดแสดงเครื่องแต่งกายของบุรุษและสตรี    รวมทั้งคอลเลคชั่นนาฬิกาและจิวเวลรี่

IMG_3930-Pano

แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของงานศิลปหัตถกรรมไทยที่จะไม่เหมือนในงานตกแต่งภายในของช็อป Hermes ในประเทศอื่น และยังสะท้อนถึงความเชื่อมั่นในศักยภาพของประเทศไทยและมิตรภาพที่มีมาอย่างยาวนานระหว่าง Hermès กับผู้มาเยือนทั้งในประเทศและต่างประเทศ

ร้าน Hermès สาขาสยามพารากอน เปิดบริการมานับตั้งแต่ปี 2006 ตั้งอยู่ ณ ใจกลางกรุงเทพฯ ร้านโฉมใหม่นี้งดงามด้วยรายละเอียดของการออกแบบสถาปัตยกรรมโดย RDAI ซึ่งเป็นบริษัทออกแบบจากปารีส ตั้งอยู่บริเวณทางเข้าของสยามพารากอน บนที่พื้นที่กว่า 277 ตร.ม. ช่วงปลายปี 2018 ที่ผ่านมา Hermès ได้เปิดร้านใหม่ที่ไอคอนสยามและอีกหนึ่งร้านใหม่ในช่วงต้นปีนี้ที่เซ็นทรัลภูเก็ต ฟอเรสต้า ตามมาด้วยการปรับปรุงร้านที่สยามพารากอน และในเดือนนี้ Hermès ทุกร้านพร้อมต้อนรับทุกท่านด้วยคอลเลคชั่นต่าง ๆ ที่ยึดมั่นในอิสรภาพของการสร้างสรรค์ ผสานด้วยความเป็นเลิศของงานฝีมือ นวัตกรรมและการเลือกสรรองค์ประกอบอันล้ำค่า

Hermès ก่อตั้งเมื่อปี ค.ศ.1837 โดย Thierry Hermès ผู้มีศรัทธาในการสร้างสรรค์งานหัตถศิลป์ และการเสาะแสวงหาวัตถุดิบชั้นเลิศ แรกเริ่มเพื่อผลิตอานม้า และอุปกรณ์เครื่องหนังที่ใช้กับกีฬาขี่ม้า จากวันก่อตั้งถึงวันนี้เป็นเวลายาวนาน 185 ปี เป็นแบรนด์แฟชั่นที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน

ปัจจุบัน Hermès เป็นบริษัทของครอบครัวที่อยู่ภายใต้การนำของ Axel Dumas ผู้สืบทอดรุ่นที่หก ซึ่งบริหารงานในฐานะ CEO มาตั้งแต่ปี 2013 และยังอุทิศตนให้กับการอนุรักษ์ผลงานหัตกรรมของฝรั่งเศสผ่านเวิร์คช็อปของแบรนด์ทั้ง 42 แห่ง และร้านกว่า 310 แห่งใน 49 ประเทศทั่วโลก นอกจากนี้มูลนิธิ Fondation d’entreprise Hermès ก่อตั้งขึ้นในปี 2008 ซึ่งเป็นโครงการที่ให้การสนับสนุนการสร้างสรรค์ผลงานของช่างฝีมือ การถ่ายทอดความรู้ความเชี่ยวชาญ รวมไปถึงให้การสนับสนุนในความหลากหลายทางชีวภาพ และส่งเสริมการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม

IMG_3427-Pano

  • นิทรรศการ Hermès Heritage 

Hermès เปิดตัวนิทรรศการ Rouges Hermès ที่ลานพาร์คพารากอน บอกเล่าถึงประวัติความเป็นมาของ Hermès ตั้งแต่ ค.ศ. 1837 ซึ่งก่อตั้งโดย Thierry Hermès โดยผลงานที่นำมาจัดแสดงนั้นมีความโดดเด่นอันเป็นเอกลักษณ์ ทั้งในด้านการใช้สี รูปแบบ และลวดลาย ที่สืบทอดมายังดีไซเนอร์และช่างฝีมือจากรุ่นสู่รุ่น อีกทั้งยังจัดแสดงผลงานหัตถศิลป์ชั้นเลิศของช่างฝีมือ ที่ถ่ายทอดมาจากช่างทำอานม้าอันเป็นต้นกำเนิดของ Hermès สร้างสรรค์เป็นผลงานการออกแบบร่วมสมัยอยู่เหนือกาลเวลา และทรงคุณค่าตั้งแต่อดีตมาจนถึงปัจจุบัน

นิทรรศการครั้งนี้ Bruno Gaudichon รับหน้าที่ภัณฑรักษ์ผู้จัดแสดงนิทรรศการในพิพิธภัณฑ์ศิลปะและอุตสาหกรรมในเมือง Roubaix (ประเทศฝรั่งเศส) ซึ่งเป็นภัณฑรักษ์ของนิทรรศการ Rouges Hermès ร่วมกับดีไซเนอร์ผู้ออกแบบนิทรรศการ Laurence Fontaine  ส่วนในประเทศไทยนำชมโดยภัณฑรักษ์ มาดาม มานูด์ เดอ บาโซแลร์

Menehould Hermes-V Archeno--V Archeno 2017-0208 v2
(บน) ภัณฑรักษ์ มานูด์ เดอ บาโซแลร์

คนทั่วไปมักเข้าใจว่า “สี” สัญลักษณ์ของ Hermes คือสีส้ม ทว่าในงานนิทรรศการครั้งนี้จะพบว่า สีแดง หรือ Rouges ในภาษาฝรั่งเศสนั้นมีความผูกพันกับ Hermès มายาวนาน มาดามมานูด์ บอกว่า สีแดงนี้มีหลากหลายเฉด ตั้งแต่สีแดงเลือดนก (vermilion) ไปจนถึงสีแดงอมม่วง (magenta) และสีแดงสดไปจนถึงเฉดสีแดงที่มีความนุ่มนวลเป็นอมตะ สีแดงนั้นแสดงออกถึงความทรงพลังและยังเข้ามามีอิทธิพลต่อ Hermès ในยุคที่ Émile Hermès เข้ามาสืบทอดกิจการต่อจากบรรพบุรุษ และได้ร่วมงานกับช่างฟอกสีหนังมากฝีมือหลายท่าน เพื่อพัฒนากรรมวิธีการฟอกสีหนังวัว box calf  ที่ย้อมผืนหนังคุณภาพเยี่ยมให้มีสีแดงงามสง่าและทนทาน จึงเป็นที่มาของการออกแบบตกแต่งผลงานด้วยสีแดงในเฉดสีต่าง ๆ นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

IMG_4108

ชมประวัติศาสตร์ของแบรนด์แฟชั่นเก่าแก่ แบ่งเป็น 5 โซน เริ่มต้นที่โซน 1 The Original Crimson ที่บอกเล่าเรื่องสีแดง ที่ใช้ตกแต่งช็อปแรกในปารีส โซนนี้โดดเด่นด้วยแจกันคริสตัลสีแดงตกแต่งลายทอง โดย Saint-Louis ปี ค.ศ.1991 ที่ผนังจัดแสดงภาพทิวทัศน์ของบ้านเลขที่ 24 ราวปี ค.ศ.1860 ก่อนที่จะมาที่ตั้งของร้าน Hermes, ชุดเครื่องเขียนสำหรับเดินทางจากศตวรรษที่ 18 ทำจากหนังโมร็อกโก โลหะเงิน และผ้าไหม และอานม้าทหารจากศตวรรษที่ 19 ทำจากหนังโมร็อกโก ทองเหลือง และผ้าไหมกำมะหยี่สีแดง จากคอลเลคชั่นส่วนตัวของ Emile Hermes

IMG_4088

          โซนที่ 2 The Invention of A Deep Red เรื่องราวความเป็นมาของสีแดง ในช่วงต้นปี ค.ศ.1920 โดยเริ่มสร้างสรรค์เครื่องหนังสีแดงเข้มที่แตกต่างไปจากกระเป๋าเดินทางรูปแบบเดิมที่ใช้หนังสีธรรมชาติ โซนนี้มีถุงกอล์ฟสีแดง (ค.ศ.1920) ตกแต่งด้วยซิปที่ใช้งานเอนกประสงค์ แสดงถึงความก้าวหน้าของแบรนด์ที่นำเทคโนโลยีซิปมาใช้และเริ่มผลิตเครื่องหนังสำหรับกีฬา นอกจากนี้ยังจัดแสดงภาพวาดและภาพถ่ายจากแคตตาล็อกเครื่องหนัง อุปกรณ์การเดินทางและกีฬา กระเป๋ารูปแบบต่าง ๆ ตั้งแต่กระเป๋าถือใบเล็กของสุภาพสตรี กระเป๋าเดินทาง ถุงมือ และกระเป๋าใส่เครื่องสำอางที่เปิดออกมามีกระจกเงา และช่องสำหรับใส่ผลิตภัณฑ์เสริมความงามต่าง ๆ

แจกันคริสตัล

กระเป๋าเครื่องสำอาง

    รูปแคตตาล็อกเครื่องหนังและอุปกรณ์กีฬา      

  • โซนที่ 3 Over the Shoulder, the Arm, or in the Hand 

กระเป๋าหนังชิ้นเด่นของแบรนด์จัดแสดงเรียงรายในตู้กระจก ตั้งแต่กระเป๋าใบใหญ่มากรุ่น Birkin ที่ผลิตให้กับนักแสดง Jane Birkin ที่เพิ่งมีลูกน้อยและเธอบ่นว่ากระเป๋าที่มีนั้นไม่พอใส่สัมภาระต่าง ๆ ทั้งของใช้สำหรับเด็ก ขวดนม ของใช้ส่วนตัว ฯลฯ, กระเป๋าทรงสี่เหลี่ยม Kellerman (ค.ศ.1936) ทำจากหนังแกะและตะขอโลหะเงิน, กระเป๋า Sumo ทำจากหนังลูกวัว ใช้สะพายหลัง แรงบันดาลใจจากห่อของสะพายหลังของชาวญี่ปุ่น, กระเป๋าเดินทางทรงกลมหรือบาแก็ตต์ (ค.ศ.1930) ทำจากหนังแกะและผ้าฝ้ายกำมะหยี่สีแดงเข้ม ฯลฯ

IMG_4082

  IMG_4095           IMG_4096

  • โซนที่ 4 Custom Takes Up Reds 

จากรองเท้าบู๊ทจนถึงถุงมือ หมวกขี่ม้า แจ็คเก็ต บังเหียนและอานม้า เครื่องแต่งกายสีแดงเข้มคือสัญลักษณ์สำหรับนักขี่ม้าของ Hermes ยังมีเครื่องหนังใช้เก็บมีด, สายนาฬิกา, ซองใส่หมากฝรั่ง, ที่ครอบหูม้ากันหนาว, เนคไทหลากสีหลายดีไซน์ในเนื้อผ้าต่างชนิด, เดรสสีแดงผ้าไหมซาตินสำหรับสุภาพสตรีชั้นสูง, ขวดน้ำหอมสีแดง โดย Akiko Kamei และผ้าพันคอหน้าหมี Grrrrr!

IMG_4100

IMG_4092   IMG_3986-Pano

  • โซนที่ 5 To Grace the Everyday จัดแสดงตู้ใส่เครื่องประดับกับช่องลับเก็บของ, วอลล์เปเปอร์ และผ้าทอใช้ตกแต่งบ้าน ซึ่งโดดเด่นด้วยสีแดง

ผลงานที่จัดแสดงมาจากคอลเลคชั่นของสะสมของ Émile Hermès และจากคลังสะสมผลงานของ Hermès รวมถึงผลงานร่วมสมัยของ Hermès เสมือนห้องเก็บห้วงเวลาแห่งความทรงจำภายใต้สีแดง  Rouges Hermès

IMG_4035-Pano

เปิดให้เข้าชมทุกวัน ณ ลานพาร์ค พารากอน สยามพารากอน วันนี้ถึง 13 ตุลาคม เวลา 11.00 น. – 20.00 น. โดยไม่มีค่าใช้จ่าย

(หมายเหตุภาพ: Hermes)