สะดวกได้อีก! รีวิว 'Cash machine' ในร้านอาหารที่แรกในไทย
ชวนนักชิมสัมผัสประสบการณ์ใหม่ผ่านเครื่อง Auto Cash Machine จ่ายเงินสะดวกที่โซนอาหาร "Dear Tummy" ไอคอนสยาม
สมัยนี้ใครๆ ก็อยากใช้ชีวิตให้สะดวกสบายมากขึ้น ไม่ว่าจะทำอะไรก็มักจะมองหาเทคโนโลยีที่ช่วยตอบสนอง "ความสะดวก" ในมิติต่างๆ ของชีวิตประจำวัน อย่างเช่นการไปจับจ่ายซื้อของหรือการเข้าร้านอาหารหลายคนคงเริ่มเห็นแล้วว่าเมืองไทยเริ่มมีการนำตู้จ่ายเงินอัตโนมัติเข้ามาบริการกันแล้ว
หนึ่งในนั้น คือ โซนอาหารและสินค้าอุปโภคบริโภครูปใหม่อย่าง Dear Tummy ไลฟ์สไตล์ซูเปอร์มาร์เก็ต และสเปเชียลตี้สโตร์
คอนเซ็ปต์ใหม่ที่ตั้งอยู่บริเวณ ชั้น G ศูนย์การค้าไอคอนสยาม ที่นี่เป็นแหล่งรวมอาหารและของใช้รูปแบบใหม่ที่เพิ่งจะมีขึ่นเป็นครั้งแรกในประเทศไทย และครั้งแรกในเอเชีย! ทุ่มทุนสูง 200 ล้านบาทบนพื้นที่โครงการกว่า 2,000 ตารางเมตร แบ่งเป็นพื้นที่ซูเปอร์มาร์เก็ต และ 7 ร้านสเปเชียลตี้สโตร์ที่ออกแบบพื้นที่ในสไตล์ European Market เรียกว่าลูกค้าสามารถชอปปิงเนื้อสัตว์ ซีฟู้ด ผักและผลไม้สดๆ แล้วนำไปให้เชฟปรุงในครัวกลางให้ได้เลย นั่งรอรับประทานอาหารปรุงสดๆ ใหม่ๆ ได้ทันที
ความโดดเด่นของเดียร์ทัมมี่ ก็คือ การนำเทคโนโลยีการประกอบอาหารและเทคโนโลยีด้านการใช้จ่ายมาให้บริการ ลูกค้าจึงสามารถสัมผัสประสบการณ์ใหม่ๆ ในการรับประทานอาหารหลากหลายที่ครีเอทเมนูได้เอง และการใช้จ่ายได้อย่างสะดวกสบายแบบไม่ต้องรอนานๆ โดยร่วมมือกับพันธมิตรธนาคารกสิกรไทยเปิดตัวเครื่อง Auto Cash Machine หรือเครื่องจ่ายเงินอัตโนมัติเข้ามาให้บริการในร้านอาหารและในร้านค้าทุกร้านในโซน Dear Tummy แห่งนี้
ข้อดีของเจ้าเครื่องนี้ ก็คือ ความสะดวกสบายที่ลูกค้าไม่ต้องรอพนักงานนานๆ แถมยังช่วยเรื่องความคล่องตัวในการทำงานของพนักงาน และเรื่องสุขอนามัยด้วย กล่าวคือ เมื่อพนักงานไม่ต้องมาคอยรับส่งบิลค่าอาหารตามโต๊ะ ก็จะช่วยเพิ่มความคล่องตัวในการทำงานอื่นๆ ได้อย่างรวดเร็วขึ้น เสิร์ฟอาหารได้เร็วขึ้น บริการได้ดีขึ้น เป็นต้น อีกทั้งพนักงานจะไม่ต้องจับเงินซึ่งจะทำให้อาหารภายในร้านไม่ปนเปื้อน สะอาด ปลอดภัย
Auto Cash Machine
นอกจากนี้ก็มีการนำเข้าเทคโนโลยีการประกอบอาหารมาใช้เป็นแห่งแรกในเอเชีย ยกตัวอย่างหนึ่งในร้านอาหารของเดียร์ทัมมี่อย่างร้าน Klong San Poultry Market ที่นำเข้า "เตาย่างไก่ไฮโซ" แบรนด์โจสเปอร์ (Josper Rotisserie Grill) ซึ่งเป็นเตาย่างได้รับความเชื่อถือระดับโลกมากว่า 50 ปี และมีราคาสูงถึงเครื่องละ 3 ล้านกว่าบาท! ความพิเศษของเตาเครื่องนี้ คือ เป็นเตาที่ใช้ถ่านจริงในการอบและย่างอาหาร มีเทคโนโลยีที่คิดค้นมาเพื่อให้เตาถ่านสามารถนำเข้ามาใช้ในพื้นที่ปิดได้โดยไม่ก่อให้เกิดควันและปลอดภัย ทั้งยังมีการใช้ถ่านจากไม้ที่ดีที่สุดบวกกับเทคโนโลยีขั้นสูงของรอบหมุนในการย่างไก่ ทำให้ได้ไก่ย่างที่มีเนื้อนุ่มและกรอบนอกฉ่ำใน
นอกจากนี้ยังมีเป็นโซนสำหรับนักชิมหัวใจรักษ์โลกอีกด้วย เพราะเดียร์ทัมมี่มีเป้าหมายในการเป็น Food Entertainment Retail ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยเป็นที่แรกในประเทศไทยที่เริ่ม งดใช้ถุงพลาสติกแบบใช้ครั้งเดียว ในการบรรจุสินค้าโดยเด็ดขาด ลูกค้าสามารถนำถุงผ้ามาใส่สินค้าหรือสามารถเลือกซื้อ “ถุงพลาสติกชีวภาพ” (Bio-Compostable Bag) ที่ผลิตจากพืชที่มีคุณสมบัติในการสลายตัวได้ทางชีวภาพนำมาใส่สินค้าก็ได้ โดยถุงพลาสติกชีวภาพนี้มีฉลาก GC Compostable ซึ่งเป็นฉลากยืนยันวัตถุดิบที่บ่งบอกว่าสินค้าหรือบรรจุภัณฑ์ของผู้ประกอบการนั้นๆ ผลิตขึ้นจาก "เม็ดพลาสติกที่สลายตัวได้ทางชีวภาพ" แน่นอน 100%
ลักขณา นะวิโรจน์ ประธานกรรมการของเดียร์ทัมมี่ ยังได้อธิบายถึงความพิเศษเพิ่มเติมว่า เดียร์ทัมมี่ได้นำผู้เชี่ยวชาญด้านอาหารหรือ Food Artisans ที่เป็นเชฟชื่อดังมาเป็นพันธมิตรในการคิดค้นและสร้างสรรค์เมนูอาหารภายใต้คอนเซ็ปต์ “โกรเซอรองต์” (Grocerant) เพื่อให้ได้อาหารที่สดใหม่ อร่อย และดีที่สุดให้กับเหล่านักชิม อีกทั้งได้คัดสรรสินค้าหลากหลายให้ได้สัมผัสถึงประสบการณ์ชอปปิงใน “โกรเซอรี่” (Grocery) ไม่ว่าจะเป็นสินค้าเบ็ดเตล็ดเนื้อสัตว์และยังมีโซนผักผลไม้ทั้งสดจากฟาร์มชุมชนและนำเข้าจากต่างประเทศ รวมสารพัดเมนูสลัดที่ออกแบบรสชาติมาเป็นอย่างดีภายใต้แบรนด์ Green Grocery
"เดียร์ทัมมี่เกิดจากความหลงใหลในการเสาะแสวงหาอาหารที่สร้างสรรค์อย่างไม่มีที่สิ้นสุด ยุคนี้ผู้บริโภคมีความต้องการที่เปลี่ยนไป ต้องการอาหารที่เรียล มาจากแหล่งผลิตที่เชื่อถือได้มากขึ้น อาหารไม่ใช่แค่เรื่องของรสชาติเท่านั้น แต่ยังมีเรื่องของสุขภาพ แหล่งที่มา และผู้บริโภคก็มีความชื่นชอบในอาหารและรสชาติในหลากหลายแง่มุมมากขึ้น เราอยากให้อาหารมีคุณภาพดีต่อผู้บริโภค ในราคาที่เข้าถึงได้ มาพร้อมกับคอนเซ็ปต์ที่แตกต่างไม่เหมือนใคร คัดสรรวัตถุดิบและสินค้าที่ดีที่สุดมารวมกันไว้ในที่เดียว"
สำหรับ 7 ร้านค้าและร้านอาหารในรูปแบบ Specialty Store ที่ถูกนำมาออกแบบสไตล์ European Market ในโซนเดียร์ทัมมี่นั้น ประกอบไปด้วย
- Grocery และ Green Grocer
“โกรเซอรี่” เป็นไลฟ์สไตล์ซูเปอร์มาร์เก็ตที่มีสินค้ามากกว่า 10,000 รายการ ที่จะตอบโจทย์ความต้องการทั้งสินค้าอุปโภคบริโภคในชีวิตประจำวัน จุดเด่นคือมีสินค้าออร์แกนิคและสินค้าเพื่อสุขภาพมากมายที่จะมาเติมเต็มความต้องการของหนุ่มสาวยุคใหม่ที่ใส่ใจดูแลสุขภาพมากขึ้น โดยเฉพาะสินค้าภายใต้แบรนด์ Green Grocer ถือเป็นอาณาจักรของคนรักสุขภาพก็ว่าได้ เพราะรวบรวมเอาความ Healthy ไว้ในที่เดียว ไม่ว่าจะเป็นผักผลไม้สดใหม่ทุกวัน ส่งตรงมาจากเกษตรกรไทยอย่าง "ฟาร์มฟ้าประทาน" ซึ่งเป็นผลผลิตจากเกษตรกรในพื้นที่จากวังน้ำเขียว, โครงการหลวงจากภาคเหนือของไทย, ฟาร์มอื่นๆ จากเกษตรกรชุมชน รวมทั้งหมดเป็นผลผลิตจากเกษตรกรไทยมากถึง 80% และยังมีผักผลไม้นำเข้าจากต่างประเทศอีกประมาณ 20%
นอกจากนั้นยังมีสารพัดเมนูสลัดที่ได้รับการออกแบบรสชาติมาเป็นอย่างดี มีให้เลือกทั้งธัญพืช เห็ดย่าง น้ำผึ้ง และวัตถุดิบจากธรรมชาติอีกมากมาย อีกทั้งมีมุมจำหน่ายอาหารประเภท “Vegan” เอาใจคนรักสุขภาพและชาวมังสวิรัติโดยเฉพาะ รวมไปถึงมุม “Juicery” จำหน่ายน้ำผลไม้คั้นสดและน้ำผักผลไม้แบบสกัดเย็นก็มีให้เลือกดื่มอย่างจุใจ
- Fiskebar ร้านอาหารซีฟู้ดสดๆ
ร้านนี้คัดสรรวัตถุดิบเกรดพรีเมี่ยมจากท้องทะเลทั่วทุกมุมโลก ไม่ว่าจะเป็นหอยนางรมหลากสายพันธุ์, หอยแมลงภู่, หมึก, ปลาทะเล ที่สามารถเลือกปรุงเป็น Fish & Chip หรือทอดทั้งตัวก็ได้ และยังมีเมนู Calamari มาพร้อมกับมันฝรั่งทอด, Grilled Lobster และเมนูอาหารทะเลอื่นๆ เพื่อตอบโจทย์เหล่านักชิมซีฟู้ดเลิฟเวอร์โดยเฉพาะ
- Flying Pig Sausage Haus
ร้านนี้เป็นร้านผลิต Craft Sausages หรือไส้กรอกหมูทำสดใหม่ทุกวัน ไม่ใส่สารกันบูด ไม่ใส่ผงชูรส ไม่แต่งสี สามารถเลือกทานแบบย่างเตาถ่าน หรือเลือกเมนู “ฮ็อตด็อกซอสมาโยไข่เค็ม” รสชาติเข้มข้น ที่ไส้กรอกและขนมปังผ่านการย่างในเตา Josper Grill ทำให้ได้ความหอมควันจากถ่านไม้ อีกทั้งยังสามารถซื้อไส้กรอกเป็นแพ็คกลับไปสร้างสรรค์เมนูที่บ้านได้เองด้วย สำหรับไส้กรอกทำสดสามารถเก็บได้ 1 สัปดาห์ หรือจะเลือกไส้กรอกย่างแบบแช่แข็งที่เก็บได้นานถึง 1 เดือน
- M•M (Marble Marvellous)
ร้านนี้เหมาะสำหรับคนรักเนื้อ เพราะมีเนื้อคุณภาพดีจากหลากหลายประเทศนำมาจำหน่ายและปรุงให้แบบสดใหม่ทันที ไม่ว่าจะเป็น US Prime, Australian Wagyu, Tomahawk หรือจะเป็นเนื้อแกะ และเชฟยังได้บ่มเนื้อดรายเอจที่ร้านเองอีกด้วย โดยลูกค้าสามารถเลือกเนื้อแบบที่ชอบจากตู้ให้เชฟปรุงเป็นเมนูสเต็ก เมนูเบอร์เกอร์ หรือเมนูอื่นๆ ที่ทางร้านแนะนำก็ได้
- Shrimp Shack
ส่วนร้านนี้เอาใจสาวๆ ที่รักการกินกุ้ง ทางร้านเลือกใช้เฉพาะกุ้งใหญ่ไซส์คัดพิเศษ ต้มสุกพอดีจนได้สีส้มสวย เสิร์ฟพร้อมน้ำจิ้มหรือซอสสูตรพิเศษที่มีให้เลือกมากกว่า 10 ชนิด ที่คิดค้นโดย Food Artisans ไม่ว่าจะเป็นซอสกระเทียม ซอสเผ้ดรสชาติจัดจ้าน ซอสบาร์บีคิว ซอสมัสตาร์ด ฯลฯ ที่รับรองว่าอร่อยถูกใจนักชิมสายกุ้งแน่นอน
- Klongsan Poultry Market
ไก่เบญจา Charcoal Grilled รสละมุน ย่างด้วยเตา Josper เครื่องแรกในเอเชียและเครื่องที่ 7 ของโลก เพื่อเสิร์ฟเฉพาะไก่ย่างเนื้อนุ่ม กรอบนอก ฉ่ำใน
- Taberna
ปิดท้ายกับการร้านอาหารอิตาเลียน นำเสนอเอกลักษณ์อาหารยุโรปสไตล์เมดิเตอร์เรเนียน เช่น พาสต้า โคลด์คัทอย่างแฮมสเปนเกรดพรีเมี่ยม ซาลามี่ และชีส รวมกว่า 20 ชนิดที่นำเข้าจากหลากหลายประเทศ และห้ามพลาดกับ “พิซซ่าเตาถ่าน” ซึ่งถือว่าเป็นร้านแรกในไทยที่สามารถนำเตาถ่านจริงๆ ที่ใช้อบพิซซ่ามาใช้ในศูนย์การค้า เพราะการใช้เตาถ่านต้องมีการดูแลเรื่องความปลอดภัยในการใช้งานสูง จึงต้องตรวจเช็คทุกๆ 2 ชั่วโมง ลูกค้าจึงมั่นใจได้ว่าจะได้รับประทานพิซซ่าที่อร่อย สด ใหม่ และปลอดภัยแน่นอน