'เชื้อดื้อยา' ผลพวงยาปฏิชีวนะ ภัยร้ายคร่าชีวิตคนไทย

'เชื้อดื้อยา' ผลพวงยาปฏิชีวนะ ภัยร้ายคร่าชีวิตคนไทย

เรื่องไม่เล็กของการกินยาปฏิชีวนะไม่ถูกกับโรค เพราะไม่เพียงแต่ทำให้อาการไม่ดีขึ้นแล้ว สิ่งที่ตามมาอาจเป็นอาการเชื้อดื้อยา ภัยร้ายที่ไม่อาจเลี่ยงได้

เคยสงสัยไหมว่า ทำไมกินยาเท่าไหร่ก็ไม่หายสักที? สังเกตพฤติกรรมตัวเองก่อนเลยว่าเวลาเป็นหวัด ท้องเสีย หรือเป็นแผล แล้วกินยาปฏิชีวนะหรือไม่ เช่น ยาฆ่าเชื้อ ยาแก้อักเสบ ถ้าทำแบบนี้ต้องหยุดก่อน นั่นแปลว่าเราอาจมี "เชื้อดื้อยา" อยู่

แล้วการดื้อยาเกิดจากอะไร? มองภาพง่ายๆ ร่างกายของเรามีแบคทีเรียที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายอยู่จำนวนมาก แล้วมาวันหนึ่ง เรากลับได้รับแบคทีเรียตัวร้ายจากภายนอกเข้ามาในร่างกาย ที่ทำให้เกิดโรค

หลังจากนั้นเราก็เริ่มกินยาต้านแบคทีเรีย เหล่าตัวยาก็เข้าไปกำจัดแบคทีเรียทั้งที่เป็นประโยชน์และเป็นโทษต่อร่างกาย แต่ยังไม่มียาที่สามารถกำจัดได้จนหมดสิ้น

ดังนั้นแบคทีเรียที่รอดมาได้ ก็สร้างตัวเองให้แข็งแกร่งขึ้นกลายเป็นเชื้อดื้อยา แถมยังเพิ่มจำนวนมากขึ้น และแพร่ไปสู่แบคทีเรียสายพันธุ์อื่นได้ และเมื่อพัฒนาไปเรื่อยๆ จากการได้รับยาปฏิชีวนะที่ไม่จำเป็นหรือในขนาดที่ไม่เหมาะสม ท้ายที่สุดแบคทีเรียก็อัพเกรดเป็น Superbug หรือเชื้อแบคทีเรียดื้อยาที่รักษาได้ยาก หรืออาจไม่มียารักษาได้เลย

157560571223

ซึ่งขณะนี้ทั่วโลกต่างก็กำลังให้ความสำคัญกับเรื่องนี้อย่างมาก เพราะมีประชาชนเสียชีวิตจำนวนมาก และก่อให้เกิดความเสียหายทางเศรษฐกิจ โดยมีการคาดการณ์ว่า อีก 34 ปีข้างหน้า หรือในปี 2593 ทั่วโลกจะมีคนเสียชีวิตจากเชื้อดื้อยาถึง 10 ล้านคน สร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจราวๆ 3.5 พันล้านล้านบาท

ขณะที่ประเทศไทยนั้น ที่มีประชากรน้อยกว่าสหรัฐและประเทศในกลุ่มสหภาพยุโรป กลับพบอัตราผู้เสียชีวิตจากเชื้อแบคทีเรียดื้อยามากกว่า โดยเฉลี่ยพบปีละ 2-3.8 หมื่นคน มากกว่าการเสียชีวิตจากโรคหัวใจและอุบัติเหตุอีก และยังทำให้ผู้ป่วยต้องนอนอยู่โรงพยาบาลนานกว่าปกติ สร้างความสูญเสียทางเศรษฐกิจกว่า 4.6 หมื่นล้านบาท

157561099481

นี่ไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป เพราะทุกๆ 15 นาที จะมีคนไทยเสียชีวิต 1 คน ดังนั้นเรื่องเหล่านี้เริ่มจากตัวเราก่อนได้ในการป้องกันการเกิดเชื้อดื้อยา หากใครมี 10 พฤติกรรมดังนี้ ขอให้หยุดทันที

1.
ซื้อยาปฏิชีวนะกินตามคนอื่น

2.หยุดกินยาปฏิชีวนะ เมื่ออาการดีขึ้น

3.ซื้อยาปฏิชีวนะตามที่เคยได้รับจากแพทย์ครั้งก่อนๆ

4.อมยาอมที่ผสมยาปฏิชีวนะฆ่าเชื้อโรค

5.แกะแคปซูลยาปฏิชีวนะโรยแผล

6.ใช้ยาปฏิชีวนะผสมในอาหารสัตว์

7.เปลี่ยนไปซื้อยาปฏิชีวนะที่แรงกว่ากินเอง

8.ไม่สนใจคำแนะนำการใช้ยาปฏิชีวนะที่ถูกต้อง

9.ซื้อยาแก้อักเสบกินตามความเข้าใจของตัวเอง

10.ใช้ยาปฏิชีวนะโดยไม่รู้ชื่อสามัญของยา

มาถึงวันนี้คงไม่มีใครดูแลตัวเราได้ดีกว่าเราเอง การกินยาไม่ใช่เรื่องน่ากลัว แต่ก็ไม่ควรประมาท ทางที่ดีควรปรึกษาแพทย์จะดีที่สุด