รีวิวไอเท็มน่าซื้อ ‘โครงการหลวง วังแดง’ สดจากดอยสู่มือคุณ!
เปิดต้อนรับนักชิมสายเฮลตี้อีกหนึ่งสาขาแล้ว สำหรับ ‘มูลนิธิโครงการหลวง สาขาวังแดง’ แหล่งจำหน่ายสินค้าทางการเกษตรของไทยที่สดใหม่หลากหลายชนิด การันตีคุณภาพ มาตรฐานการผลิต และความปลอดภัย คนรักสุขภาพตัวจริงไม่ควรพลาด
หากพูดถึงสินค้าจาก “โครงการหลวง” หลายคนอาจเคยซื้อหาผักและผลไม้สดๆ มารับประทานกันอยู่แล้ว โดยเฉพาะคนรักสุขภาพก็คงซื้อหามากินได้อย่างสบายใจ เพราะแค่รู้ว่าผักเหล่านั้นมาจากโครงการหลวงก็มั่นใจได้ในเรื่องคุณภาพและความปลอดภัย เนื่องจากมีการผลิตที่ได้มาตรฐานตั้งแต่ขั้นตอนการปลูก การดูแล การเก็บเกี่ยว ไปจนถึงกระบวนการแพ็กสินค้าที่รักษาความสดสะอาด ส่งตรงถึงมือผู้บริโภคได้อย่างรวดเร็ว โดยมีแหล่งจำหน่ายอยู่หลากหลายสาขาเลยทีเดียว
ล่าสุด...มูลนิธิโครงการหลวงได้เปิดร้านค้าสาขาใหม่นั่นคือ สาขาวังแดง ที่ตั้งอยู่บนถนนพิษณุโลก เขตดุสิต บริเวณฝั่งตรงข้ามสำนักงานทรัพสินย์พระมหากษัตริย์ เป็นอีกหนึ่งช่องทางกระจายสินค้าและต้นแบบร้านค้าโครงการหลวงที่พิเศษและทันสมัยกว่าสาขาอื่นๆ กล่าวคือมีการนำระบบเทคโนโลยีด้านการค้าปลีก เข้ามาจัดระบบคลังสินค้าและระบบการจัดการภายในร้านทั้งหมดในร้านโครงการหลวง ที่เรียกกันว่า WMS (WarehouseManagement System) โดยข้อดีของระบบนี้ก็คือ สามารถเชื่อมต่อข้อมูลของร้านค้าออฟไลน์และร้านค้าออนไลน์เข้าด้วยกัน ทำให้ลูกค้าเห็นราคาสินค้าชนิดเดียวกันได้ตรงกัน จึงสามารถเช็กราคาก่อนซื้อได้
ความพิเศษยังไม่หมดเพียงเท่านี้ ยังมีเทคโนโลยีอีกอย่างหนึ่งที่จะเข้ามาช่วยพนักงานในร้านให้ทำงานได้สะดวกกว่าเดิม นั่นคือ “ป้ายราคาดิจิตอล (Smart Tag)” เมื่อก่อนหากพนักงานจะสต็อกสินค้าจำนวนเยอะๆ ก็คงต้องเหนื่อยกับการเปลี่ยนป้ายราคา แต่ระบบนี้จะมาช่วยให้การสต็อกสินค้าจำนวนมากนั้น ทำได้ง่ายขึ้น แค่สแกนบาร์โค้ดด้านซ้ายของป้าย ป้ายก็จะเปลี่ยนราคาให้ตรงกับสินค้าที่จะวาง และที่สำคัญยังช่วยลดการใช้กระดาษอีกด้วย ซึ่งทางโครงการหลวงกำลังจะขยายระบบนี้เหล่านี้ไปยังร้านค้าสาขาอื่นๆ ทั่วประเทศ เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคยุคใหม่ที่มีไลฟ์สไตล์การจับจ่ายที่เน้นความสะดวกสบายมากขึ้น
คราวนี้ลองมาดูสินค้าโครงการหลวงภายในร้านใหม่ป้ายแดงแห่งนี้กันบ้าง หลักๆ แล้วก็มีสินค้าคุณภาพดีให้เลือกช้อปมากมายเหมือนสาขาอื่น แต่เราจะพาไปเจาะรายละเอียดกันว่าสินค้าตัวไหนที่มาแรงและน่าซื้อกลับบ้านมากที่สุด? และนี่คือ 5 สินค้าคุณภาพดีจากโครงการหลวง สาขาวังแดง ที่เป็นไอเท็มฮอตฮิตสุดๆ จนต้องบอกต่อ
1. ชาและกาแฟโครงการหลวง
เริ่มจากผลิตภัณฑ์ที่ถือเป็นซิกเนเจอร์ของร้าน (และขายดีที่สุดตลอดกาล) หนีไม่พ้นชาและกาแฟโครงการหลวงที่ปลูกบนดอยสูงทางภาคเหนือของไทย สำหรับกาแฟนั้นเป็นกาแฟอราบิก้า 100 % เมล็ดกาแฟแต่ละถุงจะถูกคัดสรรคุณภาพมาอย่างดี ผ่านการคั่วที่ได้มาตรฐาน ส่วนใบชาอบแห้งก็มีทั้งชาอู่หลง ชาเขียว ชาหอมหมื่นลี้ รวมถึงชาที่หลายคนอาจไม่เคยได้ยินมาก่อนอย่าง “ชาปู่เฒ่าทิ้งไม้เท้า” ก็มีด้วย นอกจากชาและกาแฟหอมๆ แล้ว ยังมีมุมอาหารและเครื่องดื่มจากวัตถุดิบโครงการหลวง เมนูเครื่องดื่มแนะนำ ได้แก่ ชาแพชชั่นพีช และ กาแฟ Single Origin ซึ่งใช้เมล็ดกาแฟบ้านหลวงที่ผ่านกระบวนการ wet process ส่งตรงมาจากสถานีเกษตรหลวงอ่างขางเลยทีเดียว
2. ผักและผลไม้สด
มาจับจ่ายในร้านโครงการหลวงทั้งที จะไม่ให้พูดถึงผักและผลไม้สดก็คงไม่ได้ เพราะสินค้าทางการเกษตรเหล่านี้ถือเป็นไอเทมเด็ดลำดับที่สองที่ผู้บริโภคให้การตอบรับดีอย่างเสมอมา เพราะผักผลไม้ที่นี่สดจริงอร่อยจริงจากการคัดสรรมาเป็นอย่างดี ปลอดภัยจากสารเคมี ปลูกโดยกลุ่มเกษตรกรที่ได้รับการส่งเสริมการสร้างรายได้และพัฒนาชุมชนบนพื้นที่สูง เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจระดับท้องถิ่น ถือเป็นอีกตัวเลือกหนึ่งให้ผู้บริโภคได้กินอาหารที่ปลอดสารพิษ
ทั้งนี้ภายในร้านมีผักผลไม้ให้ได้เลือกหลากหลายชนิด แต่ผักและธัญพืชบางชนิดก็มีจำหน่ายเฉพาะร้านโครงการหลวงเท่านั้น เช่น ซุกินีเหลือง ฟักคอหงส์ ร็อกเก็ตสลัด ข้าวโพดหวานสีม่วง และเคปกูสเบอร์รี่ อีกทั้งยังมีผลิตภัณฑ์อาหารแบบพร้อมรับประทานมากมายหลายอย่างที่ทำมาจากผักและผลไม้ของโครงการหลวงเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นซุปเห็ดสามอย่าง น้ำพริกเผาธัญพืชสูตรเผ็ดมาก สูตรเผ็ดน้อย และสูตรสำหรับมังสวิรัติ รวมถึงกิมจิผักกาดขาว
3. ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง
สำหรับเครื่องสำอางจากโครงการหลวง บางคนอาจจะไม่กล้าใช้เพราะไม่มั่นใจว่าจะปลอดภัยกับผิว แต่หายห่วงได้เลยเพราะทางโครงการหลวงมีการผลิตสินค้าประเภทนี้ด้วยขั้นตอนที่มีประสิทธิภาพสูงที่ผ่านการวิจัยทางเภสัชวิทยา มุ่งเน้นถึงความปลอดภัยตามมาตรฐาน อย. และ GMP ที่ผ่านการทดสอบแล้วว่าไม่มีสารเคมีแล้ว และผู้ทดลองใช้เกิดความพึงพอใจ เรียกว่ามีคุณภาพเทียบเท่าเครื่องสำอางจากเคาท์เตอร์แบรนด์เลยทีเดียว แถมราคาก็ไม่แพงจนเกินไปด้วย
ส่วนสินค้าแนะนำ ได้แก่ แชมพู ครีมนวดผม ทรีตเม้นท์ และเซรั่มบำรุงผมจากสมุนไพรไทย มีคุณสมบัติทำให้ผมเงางาม แก้ปัญหาผมร่วง ผมหงอก ผมแห้งเสีย ปัญหารังแค ด้วยส่วนผสมจากสมุนไพรอย่างหญ้าถอดปล้องที่ช่วยเพิ่มความแข็งแรงให้เส้นผม และน้ำมันขิงก็ช่วยกระตุ้นการนำส่งสารอาหารมาหล่อเลี้ยงเส้นผม เป็นต้น
นอกจากนี้ก็ยังมีผลิตภัณฑ์ดูแลผิวหน้า เช่น สบู่ล้างหน้าจากฟักข้าวที่มีหลายสูตรให้เลือกตามสภาพปัญหาของผิว, ครีมขัดหน้าชาเขียว ช่วยลดปัญหาความหมองคล้ำ, ผลิตภัณฑ์จากใบชาเมี่ยง เช่น เซรั่ม ครีมบำรุงผิว รองพื้นผสมสารกันแดด, ผลิตภัณฑ์เพื่อผิวกาย เช่น เจลอาบน้ำที่ผลิตจากสมุนไพร มีทั้งกลิ่นเจอราเนียม กลิ่นมะแขว่น กลิ่นกาแฟ และกลิ่นโรสแมรี่-ตะไคร้หอม เจลล้างมือขนาดพกพา สเปรย์ระงับกลิ่นเท้า ครีมทาหัวเข่าและข้อศอก ฯลฯ
4. ผลิตภัณฑ์จากดอยคำ
สินค้าจากดอยคำก็เป็นอีกอย่างที่มาแรงในร้านโครงการหลวง โดยเฉพาะ “น้ำมะเขือเทศ 100%” ที่เคยสร้างปรากฏการณ์สินค้าขาดตลาดมาแล้ว เนื่องจากเป็นไอเทมยอดฮิตที่หนุ่มสาวสายเฮลตี้หันมาดื่มกันเยอะมากในช่วงหนึ่ง แต่ดอยคำไม่ได้มีดีแค่น้ำมะเขือเทศเท่านั้น ยังมีสินค้าคุณภาพอื่นๆ อีก ได้แก่ นมอัดเม็ด น้ำผลไม้ ผลไม้อบแห้ง ผลไม้กระป๋อง น้ำผึ้ง แยมผลไม้หลากชนิด สมุนไพรผง และเห็ดเผาะในน้ำเกลือบรรจุในกระป๋อง ฯลฯ
5. ดอกไม้ ไม้ประดับ และอาหารแปรรูป
ปิดท้ายกันที่สินค้าประเภทตกแต่งอย่างดอกไม้สด ไม้ประดับ ไม้ตัดใบ ไปจนถึงดอกไม้กินได้ ก็มีจำหน่ายที่ร้านค้ามูลนิธิโครงการหลวงเช่นกัน แต่ละอย่างถูกคัดสรร วิจัย และพัฒนามาอย่างดีก่อนจะวางจัดจำหน่าย ทำให้ผู้บริโภคมั่นใจในสินค้าคุณภาพดีได้แน่นอน นอกจากนี้ก็มีอาหารแปรรูปและขนมกินเล่นอีกมากมายหลายเมนู เช่น ขนมปังฟักทองมินิ ขนมปังปวยเหล็ง คุกกี้กาแฟอราบิก้า ซีเรียลบาร์ มะม่วงกรอบ ส่วนเมนูที่เป็นไฮไลต์ของสาขาวังแดงเลย ก็คือ “ข้าวเกรียบ” มีให้เลือกหลากหลายรสชาติ ได้แก่ เห็ดหอม แครอท และฟักทอง (มีจำหน่ายทั้งแบบดิบและแบบทอด)
แถมอีกหนึ่งรายละเอียดเล็กๆ น่ารักๆ ของทางร้าน นั่นก็คือการตกแต่งบรรยากาศภายในร้านโดยฝีมือของนักศึกษาครุศาสตร์สถาปัตยกรรมและการออกแบบคณะครุศาสตร์อุตสาหกรรมและเทคโนโลยีพระจอมเกล้าลาดกระบัง ซึ่งนำศิลปะร่วมสมัยมาผสมผสานกับการออกแบบร้าน ทำให้นักช้อปได้เดินชมศิลปะและเลือกซื้อสินค้าอย่างเพลิดเพลินควบคู่กันไป ใครอยากมาชม ชิม ช็อปในมูลนิธิโครงการหลวงโฉมใหม่ สาขาวังแดง ก็มาใช้บริการได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป โดยเปิดให้บริการในวันจันทร์ - วันเสาร์ ตั้งแต่เวลา 07.00 - 19.00 น.