7 เมนูเด็ดสไตล์ฟิวชั่น จากการเดินทางสู่ไอเดียบนจานอาหาร
รีวิวเมนูเด็ดแนวฟิวชั่นฟู้ดในร้านอาหาร The Map ที่ตั้งอยู่ในโรงแรม MeStyle Museum Hotel ย่านรัชดา-ห้วยขวาง ท่ามกลางบรรยากาศที่โอบล้อมไปด้วยศิลปะจัดวางของนักสะสมในสไตล์พิพิธภัณฑ์
เอาใจนักชิมสายฮิปสเตอร์ แนะนำให้ลองแวะเช็กอินที่ “The Map” ร้านอาหารอร่อยย่านรัชดา-ห้วยขวาง ที่มีคอนเซ็ปท์สุดเท่ โดยแต่ละเมนูที่รังสรรค์ขึ้นมานั้นล้วนได้รับแรงบันดาลใจมากจากการเดินทางและความทรงจำดีๆ ของ “เชฟเนตร-อำไพ สาระโกเศศ” เชฟใหญ่ผู้ดูแลห้องอาหารแห่งนี้
นอกจากจะได้รับประทานเมนูอร่อยที่ไม่ซ้ำใครแล้ว ภายในร้านอาหารก็บรรยากาศดี ต้นไม้เยอะใกล้ชิดธรรมชาติ ทำให้รู้สึกผ่อนคลายและเป็นกันเอง บริเวณเอาท์ดอร์ตกแต่งด้วยต้นไม้จำนวนมาก มีการใช้แสงธรรมชาติทำให้รู้สึกโปร่ง โล่ง สบาย
มาถึงเมนูแนะนำของทางร้านกันบ้าง เชฟเนตรเล่าให้ฟังว่าแต่ละเมนูถูกคิดค้น ผสมผสาน และนำมาประยุกต์เป็นอาหารไทยสไตล์ฟิวชั่น และมีไอเดียการคิดเมนูใหม่ๆ มาจากการเดินทางไปสัมผัสอาหารดั้งเดิมในแต่ละพื้นที่ในประเทศไทย และในแต่ละย่านของกรุงเทพมหานคร
“ในวัยเด็กชีวิตของเราเริ่มต้นที่ฝั่งธน จากบุคคโล สำเหร่ ไปถึงวงเวียนใหญ่ บางครั้งก็ไปเสาะหาของอร่อยย่านบางลำภูและพาหุรัดบ้างเป็นครั้งคราว พอโตมาก็ใช้ชีวิตอยู่แถวๆ สีลม สยาม สนามหลวง และสุขุมวิท อาหารที่เคยลิ้มลองจากสถานที่เหล่านั้น กลายมาเป็นความทรงจำและแผนที่อันแจ่มชัด เวลาใครถามถึงสถานที่ไหน เป็นไปได้มากที่จะได้รับคำตอบที่อ้างอิงกับอาหาร เช่น อ๋อ...ร้านนั้นอยู่ถัดจากร้านขายข้าวแขกที่พาหุรัดไปแค่ป้ายรถเมล์นึง อย่างนี้เป็นต้น ซึ่งก็เป็นจุดเริ่มต้นของการนำความทรงจำและการเดินทางเหล่านั้นมาออกแบบเมนูอาหารให้กับที่นี่” เชฟเนตรบอก
สำหรับเมนูแนะนำทั้ง 7 อย่างนี้ เชฟบอกว่าเป็นอาหารที่ชวนให้นึกถึงย่านของกินสตรีทฟู้ดอร่อยๆ ในแต่ละแห่ง แต่ถูกนำมาจัดหน้าตาใหม่ให้ดูโมเดิร์นทันสมัยและตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของนักชิมยุคใหม่
1. ข้าวโพดทอดคลุกน้ำมันทรัฟเฟิล
เริ่มต้นที่เมนู “ข้าวโพดทอด” เชฟได้แรงบันดาลใจมาจากร้านส้มตำ หนึ่งในอาหารสตรีตฟู้ดเจ้าดังที่เชฟชอบไปทานบ่อยๆ ในสมัยที่เป็นนักศึกษาเรียนที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ โดยเชฟบอกว่าเป็นร้านส้มตำที่มีเมนูเคียงเป็นข้าวโพดที่อร่อยมาก ถือว่าเป็นเมนูประจำถิ่นของย่านท่าพระจันทร์ก็ว่าได้ จึงเป็นที่มาของไอเดียในการคิดค้นเมนูข้าวโพดทอดกรอบอร่อย สำหรับเสิร์ฟในร้านเดอะแมพแห่งนี้ แต่เพิ่มความหรูหราและโมเดิร์นด้วยการเหยาะน้ำมันทรัฟเฟิลเพิ่มกลิ่นหอมชวนลิ้มลอง ราคา 120 บาท
2. สลัดส้มโอปลาหมึกฉีก
ไอเดียของเมนูนี้มาจากเมนูอาหารไทยโบราณอย่าง “ยำส้มโอ” ซึ่งหาทานได้ตามร้านอาหารชาววังเจ้าเก่าในย่านพระนคร (เมืองกรุงเทพชั้นใน) เชฟเนตรนำเมนูนี้มาเล่าเรื่องใหม่โดยการแปลงร่างยำให้เป็นสลัด เพิ่มผักกาดแก้วสดๆ กรอบๆ เข้าไปให้กินง่ายๆ เบาๆ
พร้อมกับใส่วัตถุดิบพิเศษอย่าง “ปลาหมึกฉีก” ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากพื้นที่ย่านสนามหลวง ซึ่งจะมีงานแข่งขันว่าวจัดขึ้นทุกปี ภายในงานจะมีของว่างโบราณตามรถเข็นมาขายให้นักท่องเที่ยว หนึ่งในนั้นก็คือ ปลาหมึกย่างบดมาหอมๆ เป็นของกินสุดอร่อยที่ลืมไม่ลง เชฟจึงได้นำปลาหมึกแห้งฉีกมาใส่ในสลัดด้วย เข้ากันได้ดีกับยำสลัดส้มโออย่างไม่น่าเชื่อ รสชาติอร่อยกลมกล่อมทีเดียว ราคา 240 บาท
3. เนื้อย่าง
เมนูถัดมาเชฟพาเดินทางไปยังรสชาติแห่งดินแดนอีสานกับเมนู เนื้อโคขุนโพนยางคำย่าง เสิร์ฟมาพร้อมน้ำจิ้มแจ่วสไตล์อีสาน ผักสด และข้าวเหนียวนึ่งน้ำใบเตย เป็นรสชาติไทยอีสานแท้ๆ แต่ถุกตกแต่งหน้าตาใหม่ให้ทันสมัยมากขึ้น ราคา 320 บาท
4. บุรียานีไก่
เมนูถัดมาคือ “ข้าวบุรียานีไก่ทันดูริ” รสชาติเข้มข้นสไตล์อินเดีย เสิร์ฟมากับน้ำจิ้มหมกไก่สไตล์ไทยมุสลิม โดยเมนูนี้เชฟเนตรเล่าให้ฟังว่า ข้าวบุหรี่ (ข้าวบุรียานี) เป็นของโปรดของคุณย่า หากินได้ง่ายๆ แถวตลาดแขกพาหุรัด ถือเป็นอีกหนึ่งเมนูในความทรงจำของเชฟที่เกี่ยวข้องกับพื้นที่อยู่อาศัยในช่วงหนึ่งของชีวิต เชฟจึงนำไอเดียของเมนูนี้มาประยุกต์ใหม่จนกลายเป็นข้าวบุรียานีไก่ทันดูริที่เสิร์ฟในร้านเดอะแมพ รสชาตินั้นหอมอร่อยเข้มข้น ยิ่งกินคู่กับน้ำจิ้มก็ยิ่งอร่อยมากขึ้นไปอีก รับรองว่าถ้าได้ชิมเป็นต้องประทับใจ ราคา 200 บาท
5. มะตะบะผักโขมอบชีส
จานนี้เอาของโปรดสองอย่างของเชฟมารวมกัน นั่นคือ “มะตะบะ” กับ “ผักโขมอบชีส” จุดเด่นอยู่ที่แป้งมะตะบะบางๆ ห่อผักนุ่มๆ อร่อยไปกับชีสและซอสขาว ราคา 180 บาท
6. แกงเหลืองเปลือกแตงโม กับแตงโมปลาแห้ง
ส่วนเมนูนี้จะพาคนกินไปสัมผัสกับเสน่ห์ของอาหารปักษ์ใต้แท้ๆ นั่นคือ แกงเหลืองปักษ์ใต้ใส่เปลือกแตงโมเนื้ออ่อนๆ กับเนื้อปลาแซลมอนเนื้อแน่น พร้อมน้ำแกงปักษ์ใต้ที่เข้มข้นเผ็ดร้อน แต่ไม่เผ็ดจนเกินไป จานนี้แอบมีแตงโมปลาแห้งเสิร์ฟเคียงคู่มาด้วย ช่วยดับความเผ็ดร้อนได้อย่างดี แถมยังช่วยให้สดชื่นมากขึ้นในช่วงหน้าร้อนด้วย ราคา 240 บาท
7. ไอศกรีมข้าวเหนียวมูน เสิร์ฟคู่กับมะม่วงสุก
อิ่มอร่อยกับอาหารคาวกันไปแล้ว ก็ต้องจบด้วยของหวานแบบไทยๆ อย่าง ไอศครีมข้าวเหนียวมูลที่ทางร้านทำเอง เสิร์ฟคู่กับมะม่วงสุกและซอสมะม่วงรสเปรี้ยวหวาน พอตักไอสกรีมเข้าปากก็ได้รสสัมผัสของเม็ดข้าวเหนียวหนุบหนับด้วย ทั้งเคี้ยวเพลินและอร่อยหอมมันสุดๆ พอกินคู่กับมะม่วงสุกก้ยิ่งเข้ากันได้ดี ราคา 240 บาท
หรือใครจะลองสั่งเป็น “คอบเบลอร์แอปเปิ้ลเสาวรส” ก็ได้ เมนูนี้ต่อยอดมาจากเมนูไอศกรีมข้าวเหนียวมูนและมะม่วงสุก โดยใช้เนื้อมะม่วงสุกมาทำเป็นไอศกรีมแล้วเสิร์ฟคู่กับขนมอบร้อนๆ อย่างแอปเปิ้ลคอบเบลอร์ ทานคู่กันยิ่งอร่อยคูณสอง! 220 บาท
เอาเป็นว่าใครที่กำลังมองหาร้านอาหารอร่อยในสไตล์ "อาหารไทยฟิวชั่น" ลองแวะไปชิมที่ร้านนี้กันได้ เป็นร้านอาหารน้องใหม่ที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2562 ที่ผ่านมา เมนูแต่ละจานที่เชฟตั้งใจครีเอทมาในรูปแบบสุดเก๋ น่าจะถูกใจนักชิมคนรุ่นใหม่ไม่มากก็น้อย
-------------
พิกัด : The Map ตั้งอยู่ที่ชั้น 2 ของโรงแรม MeStyle Museum Hotel ซอยประชาราษฎร์บำเพ็ญ 18 แขวงสามเสนนอก เขตห้วยขวาง กรุงเทพฯ
เวลาเปิด-ปิด : เปิดบริการทุกวัน เวลา 11.00 - 24.00 น.
โปรโมชั่น: รับส่วนลดค่าอาหาร 10% เมื่อถ่ายรูปและกดเช็กอินที่ร้าน หรือกดไลค์ กดแชร์ เพจของทางร้าน