บ้านดุสิตธานี คิดถึงจึงมาหา

เพราะช่วงเวลาแห่งการรอคอยวันที่จะกลับมาอีกครั้งนั้น กลุ่มดุสิตธานีได้นำบรรยากาศแห่งความทรงจำมาสานต่อไว้ในบ้านดุสิตธานี กลางซอยศาลาแดง

จากบ้านโบราณอายุกว่าร้อยปีที่รู้จักกันในนามบ้านศาลาแดง ของ สวัสดิ์ โอสถานุเคราะห์ ซึ่งถูกปิดไว้นาน 40 ปี ทางกลุ่มดุสิตธานีได้เข้ามาเช่าพื้นที่ทั้งหมด 4.5 ไร่ โดยมอบหมายให้ PIA Interior บริษัทออกแบบตกแต่งชั้นนำ ทำการออกแบบตกแต่งภายในและแลนด์สเคป โดยปรับปรุงและรักษาสถาปัตยกรรมดั้งเดิมในยุคก่อนสงครามโลกเอาไว้ให้ได้มากที่สุด

ในขณะเดียวกันก็นำมนต์เสน่ห์ของความเป็นดุสิตธานีเข้ามาผสมผสานอย่างกลมกลืน ไม่ว่าจะเป็นเฟอร์นิเจอร์ ของประดับตกแต่ง และที่เป็นหัวใจสำคัญคือ ทีมงานดั้งเดิมที่สร้างสรรค์อาหารและบริการตามแบบฉบับดุสิตไม่มีผิดเพี้ยน เพิ่มเติมคือ บรรยากาศที่ดูผ่อนคลายแต่ให้ความรู้สึกใกล้ชิดมากขึ้น

บ้านหลังใหญ่ เป็นที่ตั้งของห้องอาหารไทยเบญรงค์ คิดถึงเสากลมขนาดใหญ่ผลงาน “ท่านกูฎ” ไพบูลย์ สุวรรณกูฎ ที่เป็นเหมือนสัญลักษณ์ของเบญจรงค์ ภายในห้องอาหารนี้นำภาพจิตรกรรมมาประดับเป็นผนังให้เห็นเต็มตา พร้อมด้วยเฟอร์นิเจอร์ และภาพวาดจากศิลปินชั้นนำที่ถ่ายทอดบรรยากาศของห้องอาหารเบญจรงค์เอาไว้ กล่าวได้ว่าเต็มไปด้วยความทรงจำเต็มเปี่ยม

เมนูอาหารคัดมาเฉพาะเมนูเด่นๆคุณภาพเหมือนเดิมแต่ราคาลดลง 30 เปอร์เซนต์ อาทิเช่น ต้มยำกุ้ง (410 บาท) ที่เสิร์ฟด้วยการรินซุปร้อนๆลงไปบนเนื้อกุ้ง(ที่นำไปจี่ไฟจนทำให้ได้กลิ่นคล้ายกุ้งเผา) ที่บีบน้ำมะนาวลงไปก่อน น้ำซุปร้อนๆจะทำให้กลิ่นหอมของมะนาวโชยขึ้นมา และทำให้ได้ความเปรี้ยวของมะนาวที่ผสานกับน้ำซุปเท่ากับว่าเป็นการปรุงรสสดใหม่

มัสมั่นขาแกะ (790 บาท) ก็นำเนื้อซี่โครงไปตุ๋น 72 ชั่วโมงจนเปื่อยก่อนมาปรุงเป็นแกงมันมั่นรสกลมกล่อม

ส่วนใครที่ชอบรับประทานกุ้งแม่น้ำ ขอแนะนำเมนูกุ้งแม่น้ำข้าวเม่ากรอบซอสมะขาม (690 บาท) นอกจากจะได้ลิ้มรสหวานของกุ้งแม่น้ำที่เข้ากันกับซอสมะขามแล้ว ข้าวเม่าที่เสิร์ฟมายังหอมกลิ่นมะกรูดเมื่อเคี้ยวเข้าไปกับซอสมะขามด้วยแล้ว แทบไม่อยากจะหยุดกันเลย

สำหรับห้องอาหารเวียดนามเธียนดอง เรียกได้ว่าพลิกโฉมไฉไลด้วยความโมเดิร์น ใครจะคิดว่าเดิมสถานที่นี้เคยใช้เป็นโกดังเก็บของมาก่อน นอกจากด้านนอกที่สะดุดตาแล้วภายในยังมีบาร์เก๋ๆ และห้องอาหารที่ตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์คลาสสิกและภาพเขียนสมัยๆ ให้ความรู้สึกชวนถ่ายรูปมากๆ

เมนูอาหารจานโปรดมาครบ ไม่ว่าจะเป็นข้าวเกรียบปากหม้อ (190 บาท) กุ้งพันอ้อย (290 บาท) ที่มาพร้อมผักสดสารพัด

เดินย้อนกลับมาที่บ้านหลังเล็กที่อยู่ชิดกับประตูทางเข้า จากเดิมที่เป็นบ้านหนุ่มโสดวันนี้กลายเป็นดุสิตกูร์เมต์ คาเฟ่อารมณ์อบอุ่นที่หอมกรุ่นไปด้วยขนมอบนานาชนิด รวมทั้งเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ ชา กาแฟ และชุดน้ำชายามบ่ายที่พรั่งพร้อมด้วยขนมที่เป็นไฮไลท์ ประเภทแซนด์วิช ขนมเค้ก มาการอง รวม 10 ชนิด ( ชุดสำหรับ 1 คน 390 บาท)

  ดุสิต กูร์เมต์ เป็นร้านเดียวในบ้านดุสิตที่ไม่รับจองที่นั่งล่วงหน้า ในขณะที่ห้องอาหารเบญจรงค์ และเธียนดอง จำเป็นต้องจองล่วงหน้าโทร.0 2200 9009 FB : Baan Dusit Thani

  คิดถึงดุสิตธานียามนี้ แวะเวียนไปได้ที่บ้านดุสิต กลางซอยศาลาแดง มีที่จอดรถครบครัน