ต้อนรับวันเที่ยว ‘ตรุษจีน’ ชี้เป้า 5 ที่เที่ยวบรรยากาศแดนมังกร

วันตรุษจีนหรือวันขึ้นปีใหม่ของจีนปีนี้ตรงกับวันเสาร์ที่ 25 มกราคม 2563 โดยเรียกวันนี้ว่าเป็น “วันเที่ยว” พี่น้องไทยเชื้อสายจีนนิยมออกไปท่องเที่ยวเฉลิมฉลองเทศกาลปีใหม่ หรือออกไปกินข้าวนอกบ้านกันทั้งครอบครัวกันอย่างพร้อมหน้า ตรุษจีนปีนี้ถ้ายังไม่รู้จะไปเที่ยวไหนดี? ลองหาสถานที่ท่องเที่ยวที่มีบรรยากาศสไตล์จีนๆ แบบไม่ต้องเดินทางไกลไปถึงเมืองนอก แต่สามารถไปง่ายๆ แค่ในกรุงเทพฯ นี่เอง สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวในบรรยากาศเหมือนเมืองจีนที่อยากแนะนำมี 5 แห่งด้วยกัน ได้แก่

1. ล้ง 1919

ที่นี่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาฝั่งตรงข้ามกับตลาดน้อย เป็นที่เที่ยวแนว Heritage ที่น่าสนใจ ด้วยการพลิกฟื้นอดีตท่าเรือ “ฮวย จุ่ง ล้ง” ท่าเรือกลไฟริมแม่น้ำเจ้าพระยาที่มีบทบาทสำคัญของสยาม ในสมัยรัชกาลที่ 4 ให้กลับมามาชีวิตอีกครั้ง และเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ทำให้คนรุ่นใหม่ได้เข้าใจถึงเรื่องราวประวัติศาสตร์ไทย-จีนอีกด้วย

ที่ตั้ง : 248 ถนนเชียงใหม่ แขวงคลองสาน เขตคลองสาน กรุงเทพฯ

พิกัด : https://goo.gl/maps/o3k6gdKPkW6s1SRU7

เปิดให้เข้าชม : 09.00-20.00 น.

โทร : 091 187 1919

ที่มาภาพ : https://www.facebook.com/lhong1919

2. Mimi Dessert Café

ที่นี่เป็นโรงน้ำชาสไตล์ไต้หวันตั้งอยู่ที่ย่านสวนลุมฯ ร้านนี้มีคอนเซ็ปต์คือ The Secret of Sweet ความลับแห่งความหวานที่หลีกเลี่ยงการใช้น้ำตาล แต่ทดแทนความหวานด้วยวัตถุดิบธรรมชาติ แถมยังสูตรลับขนมและเครื่องดื่มอีกมากมายจากไต้หวันแท้ๆ บรรยากาศในร้านเป็นผนังปูนเปลือยเพ้นต์ลายพู่กันจีน พร้อมป้ายไฟอักษรจีน โคมแดง และโต๊ะเก้าอี้สไตล์โมเดิร์นเป็นคาเฟ่ชิคๆ สไตล์จีนที่ทันสมัย

ที่ตั้ง : 187/7 ถ.สารสิน แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ (BTS ราชดำริ, MRT สีลม)

พิกัด : https://goo.gl/maps/GnYdsoZfrEUY4XmH7

เปิดบริการ : 11.30-22.30 (หยุดทุกวันจันทร์)

โทร : 086 669 4453

ที่มาภาพ : https://www.facebook.com/mimidessertcafe

3. Ha Tien Café Bangkok

ร้านนี้เป็นคาเฟ่สไตล์แอนทีค บรรยากาศดี ที่ตั้งอยู่ในซอยประตูนกยูงย่านท่าเตียนที่เป็นชุมชนเก่าแก่และสำคัญบนเกาะรัตนโกสินทร์ โครงสร้างของร้านทำมาจากตึกเก่า โดยเปลี่ยนตึกแถวเก่าย่านท่าเตียนให้ดูเก๋เต็มไปด้วยเสน่ห์แบบจีนผสมเวียดนาม พร้อมตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์ไม้และของแอนทีคที่เจ้าของร้านสะสมมาตลอดสิบปี โดยยังคงไว้ด้วยโครงสร้างเก่าโบราณแบบดั้งเดิมทั้ง ภายในร้านดูโปร่งและเต็มไปด้วยเรื่องราวที่เชื่อมโยงกับท่าเตียนมากยิ่งขึ้น

ที่ตั้ง : ซอยประตูนกยูง ถนนมหาราช เขตพระนคร (ตรงข้ามที่จอดรถวัดโพธิ์) กรุงเทพฯ

เปิดบริการ : เวลา 09.00-20.00 น. (หยุดวันจันทร์)

โทร : 081 302 0651

ที่มาภาพ : https://www.facebook.com/hatiencafebkk/

4. Heijii Bangkok Café

ร้านคาเฟ่แห่งนี้อยู่ภายในซอยเจริญกรุง 43 ซึ่งเป็นย่านที่ยังคงมีสถาปัตยกรรมเก่าแก่และวิถีชีวิตแบบดั้งเดิมของคนไทยเชื้อสายจีนให้ได้เที่ยวชม ซึ่งร้านนี้ก็มีการออกแบบตกแต่งที่สอดคล้องกับพื้นที่ในชุมชนด้วย ภายในร้านให้บรรยากาศที่มีกลิ่นอายชุมชนเก่าแก่ของคนไทยเชื้อสายจีน ตกแต่งร้านเป็นสไตล์จีนประยุกต์แบบคลาสสิก ไม่ว่าจะเป็นหลังคาจีนโบราณ ประตูบานเฟี้ยมแบบห้องแถวชุมชนจีน ฟอร์นิเจอร์แนววินเทจ งานไม้ ผนังอิฐปูนเปลือยที่คงเอกลักษณ์โครงสร้างดั้งเดิมของตัวอาคารไว้

รวมถึงทาสีเพดานสีเขียวไทยโทนที่คนสมัยก่อนนิยมใช้ ให้อารมณ์ความเป็นชุมชนจีนในประเทศไทยสมัยก่อนได้ชัดเจน ส่วนเมนูอาหารและเครื่องดื่มก็คิดค้นขึ้นมาใหม่เป็นสูตรของทางร้านโดยเฉพาะเพื่อให้มีความคลาสสิกในแบบจีนร่วมสมัยกลมกลืนไปกับชุมชนเก่าแก่ในย่านนี้

ที่ตั้ง : 415 ถนน เจริญกรุง แขวง สี่พระยา เขตบางรัก กรุงเทพมหานคร (BTS สะพานตากสิน)

เปิดบริการ : 9.00-18.00 น. (ปิดวันจันทร์)

ที่มาภาพ : https://www.facebook.com/H%C4%92IJ%C4%ABi-Bangkok-544155406029047/

5. บ้านอากงอาม่า

ร้านนี้ก็เป็นคาเฟ่สไตล์จีนอีกแห่งหนึ่งที่น่าสนใจ ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาย่านคลองสาน ตัวโครงสร้างของร้านเป็นบ้านไม้เรือนไทยทรงปั้นหยาผสมผสานสไตล์จีน มีอายุเก่าแก่อายุเกือบๆ ร้อยปี เพราะสร้างขึ้นตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 7 เจ้าของบ้านเป็นตระกูลคนจีนเก่าแก่นั่นคือต้นตระกูล ‘ทังสมบัติ’ ภายในร้านสงบร่มรื่น เติมเต็มบรรยากาศแบบจีนๆ ด้วยศาลเจ้ากวนอู แถมมีระเบียงยื่นออกไปให้ได้รับลมริมแม่น้ำเจ้าพระยาได้ด้วย ส่วนเมนูอาหารกับเครื่องดื่มก็เป็นอาหารโบราณ เช่น ชากาแฟโบราณ ขนมจีบ หมูสะเต๊ะ ปั้นสิบไส้ปลา กระทงทอง เป็นต้น

ที่ตั้ง : ซอยสมเด็จเจ้าพระยา 3 เขตคลองสาน กรุงเทพมหานคร

เปิดบริการ : ทุกวัน เวลา 10.00 - 18.00 น.

โทร : 02 437 5183

ที่มาภาพ : https://www.facebook.com/mygpshouse/