เผยต้นทาง 'อาหารสุขภาพ' พร้อมส่องคุณค่า 5 'ผักสลัด' ที่ควรรู้!
แนะนำ "ผักสลัด" ประโยชน์เยอะ 5 ชนิดที่คนอยากมี "สุขภาพดี" ต้องรู้! พร้อมเปิดแหล่งผลิตวัตถุดิบคุณภาพจากเกษตรกรไทย ส่งตรงสู่เมนูอาหารที่สดใหม่ ปลอดสารพิษ เพื่อสนับสนุนให้คนไทยมี "สุขภาพดี" ตามไปด้วย
เชื่อว่าทุกวันนี้คนไทยหลายคนก็ยังกินอาหารไม่ครบ 5 หมู่อยู่ดี! อาจเพราะวิถีชีวิตคนเมืองที่เร่งรีบตลอดเวลา จนไม่มีเวลาไปเดินเลือกซื้อวัตถุดิบมาปรุงอาหารกินเอง ผู้คนส่วนใหญ่เลยเลือกที่จะรับประทานอาหารนอกบ้านหรือฝากท้องไว้กับร้านอาหารตามสั่ง อาหารจานเดียว หรือข้าวราดแกง ที่เน้นเนื้อสัตว์และแป้ง มากกว่าที่จะมีเมนูประเภทผักและผลไม้ ซึ่งการกินแบบนี้เป็นประจำทำให้ห่างไกลจากคำว่า "สุขภาพดี" อยู่มากทีเดียว
ไม่ปฏิเสธว่าการกินอาหารนอกบ้านมีข้อดีคือ ประหยัดเวลา สะดวกสบาย ไม่ต้องเหนื่อยปรุงเหนื่อยเก็บล้าง แต่ขณะเดียวกันก็มีข้อเสียที่ตีคู่มาด้วยกันนั่นคือ ไม่สามารถหลีกเลี่ยงสารพิษตกค้างในผักและผลไม้ได้เลย ทางออกของเรื่องนี้ทำง่ายๆ ก็คือพยายามจัดสรรเวลา หาเวลาว่างไปซื้อวัตถุดิบสดใหม่ ปลอดสารเคมี มาปรุงอาหารกินเอง
แต่ถ้าไม่สะดวกจริงๆ อีกหนึ่งทางออกที่ทำได้คือ กินอาหารนอกบ้านโดยเลือกร้าน "อาหารสุขภาพ" ที่มีเมนูผักผลไม้สดๆ มีประโยชน์ ปลอดสารเคมีมาบริการ ซึ่งในกรุงเทพฯ ก็มีร้านอาหารแนวสุขภาพมากมายโดยส่วนใหญ่มักจะมีเมนูสลัด โดยเมนูสลัดนี่แหละที่จะเป็นตัวช่วยสู่การมี "สุขภาพดี" เพราะจะได้รับวิตามินจากผักเหล่านั้นอย่างเพียงพอในแต่ละวัน
และนี่คือผักสลัด 5 ชนิดที่ควรรับประทานเพื่อเสริมสร้าง "สุขภาพดี" ไม่ว่าจะเป็นการหาซื้อมาทำกินเองหรือไปกินตามร้านอาหารก็ตาม ควรเลือกเมนูที่มีผักเหล่านี้เป็นส่วนประกอบ เพราะเต็มไปด้วยสารอาหาร กากใยไฟเบอร์ และวิตามินครบถ้วน ได้แก่
1. กรีนโอ๊ค
ไฟเบอร์สูงช่วยแก้อาการท้องผูก ช่วยบำรุงสายตา กล้ามเนื้อ และเส้นผมได้เป็นอย่างดี มีทั้งวิตามินบี1 วิตามินบี6 ที่มีส่วนช่วยบำรุงสมองและชะลอความเสื่อมของสมอง มีกรดโฟลิก ช่วยในการผลิตเซลล์เม็ดเลือดแดง มีวิตามินซีช่วยป้องกันโรคหวัด เป็นต้น
2. เรดโอ๊ค
ไฟเบอร์สูงช่วยแก้อาการท้องผูก ช่วยบำรุงสายตา บำรุงกล้ามเนื้อ ป้องกันโรคปากนกกระจอก ช่วยกระตุ้นการทำงานของลำไส้ และยังช่วยกำจัดไขมันที่เกาะตามผนังลำไส้ออกไป มีธาตุเหล็กและวิตามินซีสูง มีเบต้าแคโรทีนซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระช่วยป้องกันมะเร็งและช่วยยับยั้งการก่อตัวของเซลล์มะเร็งได้ด้วย
5. กรีนคอส
มีสารอาหารต่างๆ มากมาย เช่น วิตามินเอ วิตามินซี โฟเลต โพแทสเซียม แคลเซียม และธาตุเหล็ก อีกทั้งช่วยในเรื่องการขับถ่ายเพราะมีปริมาณไฟเบอร์สูง นอกจากนี้ยังช่วยแก้ไอ แก้ไข้ ขับเสมหะ รักษาอาการเจ็บคอ บำรุงสายตา ผักคอสปริมาณ 100 กรัม มีสารลูทีนและซีแซนทีนถึง 2,312 ไมโครกรัม ซึ่งจะช่วยบำรุงสายตา ชะลอปัญหาจอประสาทตาเสื่อม และยังมีสารต้านอนุมูลอิสระอย่าง เบต้า-แคโรทีนสูง ซึ่งจะช่วยป้องกันเซลล์ประสาทตาถูกทำลาย และช่วยบำรุงสายตาจากอาการเมื่อยล้าและบำรุงดวงตาให้สดใสแข็งแรง และยังช่วยลดความดันโลหิตสูงได้ด้วย
4. ฟิลเลย์ไอซ์เบิร์ก
มีวิตามินหลากหลายชนิด ได้แก่ แคลเซียม วิตามินซี โพแทสเซียม วิตามินเอ วิตามินอี ฟอสฟอรัส ธาตุเหล็ก วิตามินบี1 บี2 บี3 บี5 บี6 บี9 มีเบตาแคโรทีน แมกนีเซียม แมงกานีส เป็นต้น โดยสารอาหารทั้งหมดนี้มีส่วนช่วยให้ร่างกายแข็งแรง สร้างภูมิคุ้มกัน ช่วยบำรุงตับ แก้กระหายน้ำ ช่วยป้องกันโรคโลหิตจาง เพราะช่วยสร้างเม็ดเลือดแดงให้แข็งแรง อีกทั้งช่วยป้องกันโรคมะเร็ง ป้องกันโรคเบาหวาน ช่วยแก้หวัด แก้ไอ แก้ไข้ ช่วยขับเสมหะ ช่วยรักษาเจ็บคอ ช่วยขับเหงื่อ แก้ท้องผูก ช่วยรักษาริดสีดวงทวาร ช่วยบำรุงสายตา แก้ท้องอืดท้องเฟ้อ ช่วยลดความดันโลหิตสูง
5. เรดโครอล
มีแร่ธาตุและวิตามินหลายชนิด เช่น วิตามินบี วิตามินซี วิตามินเอ วิตามินเค โพแทสเซียม และกรดโฟลิกสูง ใบสีแดงของผักสลัดชนิดนี้ซึ่งมีสารแอนโทไซยานิน เป็นสารต้านอนุมูลอิสระซึ่งมีประโยชน์ต่อร่างกายในแง่ของการช่วยชลอความแก่ ช่วยป้องกันเซลล์ไม่ให้ผิดปกติ ป้องกันมะเร็ง อีกทั้งยังมีไฟเบอร์สูงแถมแคลอรีต่ำ กินแล้วไม่อ้วน
ส่วนใครที่ยังคิดไม่ออกว่าจะไปรับประทานอาหารสุขภาพที่ร้านไหนดี? แนะนำให้ลองไปชิมอาหารสุขภาพที่มีเมนูผักสดผลไม้สดให้เลือกมามายหลายเมนูอย่างร้าน “สลัดแฟคทอรี่ (Salad Factory)” ซึ่งมีอยู่ 7 สาขาทั่วกรุงเทพฯ โดยความโดดเด่นของร้านนี้คือ ทางร้านนำผักสดปลอดสารพิษมาจากฟาร์มของเกษตรไทยหลายแห่งจากทางภาคเหนือ ส่งตรงมาสู่ร้านอาหารทุกสาขาในกรุงเทพฯ ซึ่งฟาร์มผักสลัดแต่ละแห่งการันตีได้ว่ามีการผลิตที่ปลอดสารพิษ 100%
โดยการผลิต "อาหารสุขภาพ" ตั้งแต่ต้นทางในฟาร์มผัก ก่อนจะมาถึงร้านอาหาร และปรุงลงจานเสิร์ฟให้กับผู้บริโภคได้นั้นต้องผ่านขั้นตอนและวิธีดูแลผักให้ปลอดสารพิษอย่างไรบ้าง? วันนี้เรามีเรื่องราวเกษตรกรผู้ใส่ใจต่อสุขภาพของคนไทยมาบอกต่อให้ทราบกัน
เริ่มจาก “กลุ่มม่วนใจ๋” กลุ่มเกษตรอินทรีย์วิถีธรรมชาติเชียงดาว ตั้งอยู่อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ สมาชิกของกลุ่มเป็นคนกรุงเทพฯ มาก่อน ทำให้ไม่ค่อยมีความรู้เรื่องการเกษตรมากนัก ทุกคนจึงต้องเรียนรู้ด้านการเกษตรจากคนในชุมชน และเอาเทคนิคที่ได้เรียนรู้มาทั้งในประเทศและต่างประเทศนำมาปรับใช้ ซึ่งกลุ่มม่วนใจ๋มีสมาชิกทั้งหมด 17 คน เริ่มรวมตัวกันตั้งแต่ปี พ.ศ. 2558 จนถึงวันนี้ก็เป็นระยะเวลาถึง 5 ปีมาแล้ว
การเกษตรของกลุ่มม่วนใจ๋ ทำเกษตรอินทรีย์เพื่อผลิตผักปลอดสารพิษมาตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ เมื่อผลิตแล้วจะขายตรงสู่ร้านอาหารหรือผู้บริโภคโดยตรง ไม่ขายผ่านพ่อค้าคนกลาง เพราะอยากช่วยส่งเสริมการผลิตให้กับชุมชน ขณะเดียวกันมีความตั้งใจที่จะขับเคลื่อนให้อำเภอเชียงดาว เมืองต้นกำเนิดแห่งแม่น้ำปิง เป็นเมืองอาหารปลอดภัยที่เกื้อกูลกับวิถีพื้นถิ่น และตั้งใจผลิตพืชผักอินทรีย์เพื่อการมี "สุขภาพดี" ของชุมชนเกษตรบนดอยสูงและผู้บริโภคในเมืองกรุงด้วย สำหรับผักไฮไลต์ของกลุ่มม่วนใจ๋ ได้แก่ ผักเชียงดา อโวคาโด และเสาวรส
ถัดมาเป็นเกษตรกรรุ่นใหม่ กลุ่ม “ล้อมรักฟาร์ม ผักสลัดออร์แกนิค” ของ ชชธร โพธิญาณ เกษตรกรผู้ที่เคยทำงานในกรุงเทพมาเช่นกัน แต่หันมาทำฟาร์มผัดสลัดอินทรีย์ ตั้งอยู่ที่อำเภอจุน จังหวัดพะเยา ล้อมรักฟาร์มมีจุดเด่นในเรื่องผักแปลกใหม่ไม่ซ้ำใครในท้องตลาด เช่น ผักเคล ผักซอเรล ผักสวิสชาร์ด มะเขือเทศโลลี่ป๊อป เป็นต้น นอกจากนี้ก็ยังมีผักสลัดชนิดอื่นๆ ที่เป็นผักสลัดยอดนิยมของนักชิมสายสุขภาพและหาทานง่ายด้วย ไม่ว่าจะเป็น กรีนโอ๊ค เรดโอ๊ค กรีนคอส ฟิลเลย์ไอซ์เบิร์ก เรดโครอล เป็นต้น
โดยวัตถุดิบที่เป็นผักสลัดจากฟาร์มผักปลอดสารพิษทั้ง 2 แห่งดังกล่าว ถูกนำมาส่งที่ร้าน “สลัดแฟคทอรี่ ” ร้านอาหารเพื่อ "สุขภาพดี" ที่ตอบโจทย์ผู้บริโภคได้ทุกเพศทุกวัย โดย กอล์ฟ - ปิยะ ดั่นคุ้ม เจ้าของร้านบอกมีแนวคิดอยากทำ "อาหารสุขภาพ" ออกมาให้คนไทยได้รับประทานกัน โดยเฉพาะในภาคเหนือของไทยที่มาสามารถปลูกผักปลอดสารพิษได้คุณภาพสูง จึงได้คิดค้นเมนูสุขภาพต่างๆ ออกมาให้บริการ ซึ่งก็ได้รับการตอบรับจากนักชิมสายสุขภาพเป็นอย่างดี
ร้านสลัดแฟคทอรี่ ไม่เพียงแต่ทำ "อาหารสุขภาพ" เสิร์ฟให้ผู้บริโภคได้อิ่มท้องเท่านั้น แต่สลัดแฟคทอรี่ยังยึดมั่นที่จะสนับสนุนธุรกิจชุมชน และสร้างรายได้ให้แก่เกษตรกรไทยอีกด้วย