รู้จัก ‘พระฌอน ชิเวอร์ตัน ชยสาโร’ พระฝรั่งผู้ศรัทธาในศาสนาพุทธ

พระพุทธศาสนาเป็นศาสนาที่ประชาชนชาวไทยส่วนใหญ่นับถือมาช้านาน นับตั้งแต่สมัยสุโขทัยมาจนถึงปัจจุบัน โดยคนไทยนับถือศาสนาพุทธ 94.6% ซึ่งมากที่สุดในประเทศ ส่วนใหญ่คนไทยคุ้นเคยกับพระสงฆ์ชาวไทยกันอยู่แล้ว แต่ในยุคสมัยนี้มีชาวต่างชาติหันมาสนใจศึกษาพระพุทธศาสนามากขึ้น จนเกิดมี "พระฝรั่ง" ผู้เลื่อมใสศรัทธาในศาสนาพุทธเพิ่มขึ้นมาหลายรูป หนึ่งในพระฝรั่งที่คนไทยให้ความเคารพนับถือกันมากก็คือ "พระฌอน ชิเวอร์ตัน ชยสาโร" หรือ พระราชพัชรมานิต หรือ พระอาจารย์ชยสาโรภิกขุ พระผู้ซึ่งแตกฉานในพระพุทธศาสนาอย่างแท้จริงและมีจริยวัตรที่งดงาม

โดย "พระฌอน ชิเวอร์ตัน ชยสาโร" เคยยื่นเรื่องขอแปลงสัญชาติเป็นไทยต่อกระทรวงมหาดไทย กระทั่งเมื่อวันจันทร์ที่ 9 มีนาคม พ.ศ. 2563 พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระบรมราชานุญาตให้แปลงสัญชาติเป็นไทยเป็นกรณีพิเศษแก่พระราชพัชรมานิต

ด้วยเหตุผลที่ประกาศในราชกิจจานุเบกษาว่า ได้เข้ามาพำนักอยู่ในประเทศไทยเป็นเวลานาน เป็นพระภิกษุที่เคร่งครัดในพระธรรมวินัย แตกฉานในพระธรรมคำสอน มีบทบาทสำคัญในการเผยแผ่ธรรมะทั้งในประเทศไทยและนานาชาติ กับเคยดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดป่านานาชาติมาก่อน ถือเป็นผู้ทำคุณประโยชน์เป็นพิเศษต่อประเทศไทยและพระพุทธศาสนา

ในโอกาสนี้ขอพาพุทธศาสนิกชนชาวไทยไปทำความรู้จัก "พระฌอน ชิเวอร์ตัน ชยสาโร" ให้มากขึ้น 

• จากฆราวาสชาวอังกฤษ สู่พระสงฆ์ผู้ปฏิบัติชอบในไทย

"พระฌอน ชิเวอร์ตัน ชยสาโร" หรือ พระราชพัชรมานิต มีนามเดิมว่า "ฌอน ไมเคิล ชิเวอร์ตัน" (Shaun Michael Chiverton) เกิดที่ประเทศอังกฤษในปี พ.ศ. 2501 เมื่อไปโรงเรียน ท่านเป็นนักเรียนที่ช่างคิด ช่างค้นคว้า และมีผลการเรียนที่ดีเยี่ยมจนโยมบิดามีความหวังให้เข้าสอบชิงทุนเพื่อเรียนต่อในมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงในประเทศอังกฤษ

แต่น่าเสียดายที่ท่านสุขภาพไม่ดีตั้งแต่ มีอาการหอบหืด ต้องหยุดโรงเรียนบ่อย จึงใช้วิธีเรียนหนังสือและศึกษาด้วยตนเองที่บ้าน สิ่งที่ท่านสนใจเป็นพิเศษในขณะที่ศึกษาเล่าเรียนอยู่ก็คือ อะไรเป็นสิ่งสูงสุดที่เราจะได้จากการเป็นมนุษย์? อะไรคือความจริงสากลที่ไม่ขึ้นอยู่กับสมมุติของแต่ละสังคม? ทำไมคนเราอยากจะอยู่อย่างเป็นมิตรแต่กลับรบราฆ่าฟันกันอยู่เรื่อยไป?

ในขณะที่ศึกษาด้วยตนเองก็ได้อ่านหนังสือมากมายหลากหลาย จนกระทั่งพบคำสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า จึงเกิดความเลื่อมใสศรัทธาว่าเป็น “สัจธรรมความจริง” ที่กำลังแสวงหาอยู่ จึงสนใจการฝึกจิตและศึกษาหาความรู้ทางพุทธศาสนาตั้งแต่ช่วงวัยรุ่น และระหว่างนั้นท่านก็ได้ทำงานเก็บเงินเพื่อออกเดินทางหาประสบการณ์ในประเทศต่างๆ ตั้งแต่อายุ 17 ปี

ท่านเคยเดินทางไปประเทศอิหร่านซึ่งลำบากมาก ถึงขนาดว่าเคยโดนซ้อมและทำร้ายร่างกาย แต่ท่านก็ไม่ย่อท้อ จนมีคนชวนท่านไปอยู่ที่บ้านเพื่อให้สอนภาษาอังกฤษแลกกับการให้ที่พักและอาหาร และอีกครั้งหนึ่งเมื่อครั้งที่ท่านเดินทางไปประพฤติตนเป็นฤๅษีที่อินเดีย แต่สุดท้ายก็มีเหตุจากปัจจัยภายนอกทำให้ท่านต้องเดินทางกลับ ท่านเดินทางไปทั่วใช้เวลาค้นหาสิ่งที่ท่านต้องการเป็นเวลา 2 ปี จนแน่ใจว่าการศึกษาและปฏิบัติธรรม เป็นหนทางที่ต้องการ แทนการเรียนต่อในมหาวิทยาลัย

• เส้นทางแห่งพระธรรมของ "พระฌอน ชยสาโร"

"ฌอน ไมเคิล ชิเวอร์ตัน" ในขณะนั้นได้เริ่มศึกษาและปฏิบัติธรรมอย่างจริงจังกับท่านพระอาจารย์สุเมโธ (เป็นพระชาวต่างชาติรูปแรกที่เป็นลูกศิษย์ของหลวงพ่อชา) ที่ประเทศอังกฤษ โดยขณะนั้นได้ถือเพศเป็น “ปะขาว” คือถือศีล 10 เป็นเวลา 1 พรรษา แล้วเดินทางมายังประเทศไทย

ต่อมาในปี พ.ศ. 2521 ได้เดินทางมาประเทศไทยเพื่อฝึกปฏิบัติกับ หลวงพ่อชา สุภัทโท (พระโพธิญาณเถร) ที่วัดหนองป่าพง จังหวัดอุบลราชธานี และปีถัดมา (พ.ศ. 2522) ได้บรรพชาเป็นสามเณร พำนักอยู่ที่วัดหนองป่าพง ถัดมาอีกในปี พ.ศ. 2523 ได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุ โดยมีหลวงพ่อชา สุภัทโท เป็นพระอุปัชฌาย์ เมื่อครั้งที่บวชเป็นพระภิกษุก็ได้รับฉายาว่า "ชยสาโรภิกขุ" 

ต่อมาในช่วงปี พ.ศ. 2529 - 2539 พระฌอนได้ขึ้นเป็นรองเจ้าอาวาสวัดป่านานาชาติ โดยมีท่านพระอาจารย์ปสันโน เป็นเจ้าอาวาส และได้ขึ้นเป็น เจ้าอาวาสวัดป่านานาชาติ แทนท่านพระอาจารย์ปสันโน ซึ่งได้รับนิมนต์ไปตั้งวัดสาขาที่ประเทศสหรัฐอเมริกา ในปี พ.ศ. 2540 - 2545 อีกด้วย ปัจจุบัน "พระฌอน ชิเวอร์ตัน ชยสาโร" พำนักอยู่ที่ สถานพำนักสงฆ์บ้านไร่ทอสี จังหวัดนครราชสีมา โดยลูกศิษย์และประชาชนทั่วไปมักจะเรียกท่านว่า พระฝรั่ง หรือ พระอาจารย์ฝรั่ง ต่อมาได้รับพระราชทานสมณศักดิ์ขึ้นเป็น "พระราชพัชรมานิต" ในโอกาสพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษา 28 กรกฎาคม 2562

"พระฌอน" เป็นพระผู้มีพลังศรัทธาในพุทธศาสนาอย่างมาก จนได้ชื่อว่าเป็นพระฝรั่งที่ถ่ายทอดความลึกซึ้งทางธรรมฉบับภาษาไทยได้สละสลวย และเป็นที่ประทับใจต่อพุทธศาสนิกชนทั่วโลก โดยสมณศักดิ์ของท่านในปัจจุบันคือ พระราชาคณะชั้นราช ฝ่ายวิปัสสนาธุระ ที่พระราชพัชรมานิต พิสิฐธรรมคุณสุนทร มหาคณิสสร บวรสังฆาราม คามวาสี

• ชีวิตในร่มกาสาวพัสตร์ของ "พระฌอน ชยสาโร"

ก่อนเดินทางมาประเทศไทย ท่านได้ตั้งใจว่าจะอยู่ที่วัดหนองป่าพง ให้ครบ 5 ปี โดยไม่มีเงื่อนไขเพื่อศึกษาปฏิบัติธรรม เมื่อมาพบหลวงพ่อชา ก็เกิดความเลื่อมใสศรัทธาในปฏิปทาและความเป็นครูที่มีทั้งเมตตา และปัญญาในการสอนอย่างลึกซึ้ง จึงสามารถทนต่อความยากลำบากในการปรับตัวให้เข้ากับการใช้ชีวิตแบบพระวัดป่า ที่เข้มงวดในวินัย และการฝึกปฏิบัติตามรอยพระพุทธเจ้า และการอยู่ร่วมกับคณะสงฆ์ชาวไทยจนเกิดความก้าวหน้าและเบิกบานในธรรม

แนวการสอนของหลวงพ่อชาเน้นการปฏิบัติการรักษาศีล และข้อวัตรปฏิบัติ ความอดทน ความเพียร การใคร่ครวญหลักธรรม และน้อมมาสู่ใจให้เฝ้าสังเกตจนรู้ทันอารมณ์ของตนเอง และสามารถใช้สติปัญญาในการสร้างประโยชน์ตนและประโยชน์ผู้อื่นพร้อมกันไป ทำให้ท่านผูกพันกับหลวงพ่อชามาก

เหตุที่เลือกยึดหลักเถรวาท เพราะท่านมีความตั้งใจ ต้องการจะทุ่มเทกาย ถวายชีวิตให้กับพระพุทธศาสนา เพื่อบรรลุมรรคผลนิพพานและที่ชอบฝ่ายเถรวาท เพราะถูกจริต ตรงไปตรงมา ไม่มีพิธีรีตองมากมายเข้ามาเกี่ยวข้อง แต่เข้ามาเกี่ยวกับกาย กับใจ กับทุกข์ การที่จะอยู่กับป่ากับ ธรรมชาติ อย่างที่สาวกพระพุทธเจ้าเคยปฏิบัติในสมัยพุทธกาล

แม้ว่าท่านจะเป็นชาวต่างชาติแต่เรื่องภาษาไม่ใช่อุปสรรค เพราะท่านเชื่อว่าภาษาพื้นฐาน คือบาลีสันสกฤต ซึ่งทั้งคนไทยและต่างชาติก็ต้องเริ่มมาเรียนรู้เหมือนกัน ภาษามีความยากพอกัน แต่คนไทยอาจจะง่ายกว่าที่ศัพท์ไทยมีบาลีสันสกฤต ท่านจึงต้องพยายามและขยันมากหน่อย แต่ก็ไม่นาน โดยท่านใช้วิธีการท่องตัวอักษรจนกระทั่งอ่านได้ จากนั้นก็ฝึกฝนอยู่คนเดียว ค่อยๆ อ่าน ดูศัพท์ในดิกชันนารี ไม่ได้เรียนทฤษฎีอะไรมากมายแต่เน้นการฝึกปฏิบัติไปด้วย มีการพิสูจน์ไปด้วย ได้ปรึกษาหารือกับครูบาอาจารย์ ได้อ่านได้ฟัง พูดคุยกับพระด้วยกัน ทั้งหมดนี้เป็นชีวิตในร่มกาสาวพัสตร์ของ "พระฌอน ชิเวอร์ตัน ชยสาโร" จากชาวอังกฤษสู่พระสงฆ์ผู้ได้รับสัญชาติเป็นไทยเป็นกรณีพิเศษนั่นเอง

-----------------------------

อ้างอิง: 

https://www.facebook.com/jayasaro.panyaprateep.org/?tn-str=k*F

https://th.wikipedia.org/wiki/

http://www.dharma-gateway.com/monk/monk_biography/pra-chayasaro/pra-chayasaro-hist.htm