วัวทองโภชนา ได้ใจทั้งสายเนื้อและไม่เนื้อ

หากน้องใหม่ในวงการก๋วยเตี๋ยวเนื้อก็ได้พิสูจน์ฝีมือให้คนรักเนื้อได้ตกหลุมรัก ในขณะที่คนไม่กินเนื้อก็ได้มีอาหารจีนสไตล์ชิงเต่าที่ปรับรสชาติและขนาดให้เข้ากับคนไทยให้เลือกจนตาลาย

(จากซ้าย)กฏธรรม์ โลเกศกุล ชาลี นิภานันท์ และ พิมพ์นารา โลเกศกุล

ชาลี นิภานันท์ และ กฏธรรม์ โลเกศกุล ช่วยกันเล่าถึงที่มาของร้านวัวทองโภชนาว่า เกิดมาจากความชอบในการกินก๋วยเตี๋ยวเนื้อของคนทั้งคู่ซึ่งเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่สมัยเรียนโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย พอช่วงชีวิตการทำงานก็มีโอกาสทำงานบริษัทเดียวกันอีก เมื่อพบว่าการทำงานออฟฟิศไม่ตอบโจทย์ เพื่อนคนจึงตัดสินใจทำธุรกิจร่วมกัน โดยการเปิดร้านก๋วยเตี๋ยวเนื้อตามแบบที่ชอบ หลังจากเคยทำไอศกรีมขายด้วยกันมาแล้วเมื่อตอนเป็นวัยรุ่น

ชื่อวัวทองจึงมาจากก๋วยเตี๋ยวเนื้อวัว ครั้นมาเปิดร้านในซอยเจริญกรุง 45 พบว่ามีลูกค้าที่อยากรับประทานเมนูอื่นๆที่ไม่ใช่เนื้อวัวเป็นจำนวนมาก วัวทองจึงได้ชวน พิมพ์นารา โลเกศกุล คู่ชีวิตของกฏธรรม์เข้ามาร่วมหุ้นอีกหนึ่งคน ทำให้ได้เมนูอาหารจีนใหม่ๆที่พัฒนามาจากสูตรอาหารจีนตำรับชิงเต่า รวมทั้งได้เต้าหู้ และน้ำเต้าหู้ วัตถุดิบชั้นดีจากโรงงานเต้าหู้ ของครอบครัวพิมพ์นาราที่เป็นชาวจีนซึ่งเคยอยู่ที่ชิงเต่าเข้ามาเสริม เป็นอันลงตัวตามคอนเซ็ปต์

“กินดี ดื่มดี ไม่มีผงชูรสและสารกันบูด”

สำหรับเมนูซิกเนเจอร์ ได้แก่ เนื้อตุ๋นหมาล่า และ เกาเหลาเนื้อวัวทองโภชนา ปรุงจากเนื้อวัวส่วนแก้มและใบพาย นำไปตุ๋นกับเครื่องเทศราว 8 ชนิดนาน 9 ชม.จนเนื้อเปื่อยนุ่ม เนื้อตุ๋นหมาล่าจะนำไปผัดกับน้ำมันพริกเสฉวนสูตรของทางร้าน ดังนั้นรสชาติของความเผ็ดร้อนจนลิ้นชา อันเป็นคุณสมบัติของหมาล่าจะไม่จัด หากมีความกลมกล่อมเผ็ดร้อนในสไตล์ของวัวทองที่ชูรสชาติของเนื้อตุ๋นให้เป็นตัวนำ

ในขณะที่เกาเหลาเนื้อวัวทองโภชนา จะประกอบไปด้วยเนื้อแก้มวัวตุ๋น เนื้อใบพายสไลด์ เต้าหู้ ผักกวางตุ้งไต้หวัน และน้ำซุปใส เสิร์ฟพร้อมซอสพริกเสฉวน มีเทคนิคการรับประทานให้อร่อยได้หลายแบบ จะใช้เนื้อจิ้มกับซอสพริกเสฉวน หรือพอกินน้ำซุปไปสักครึ่งชามแล้วอยากจะเพิ่มรสชาติใหม่ๆก็ให้ใส่ซอสพริกเสฉวนลงไปในน้ำซุปก็ได้ เต้าหู้ที่ใส่มาในชามเกาเหลามีไว้ช่วยตัดรส ทุกอย่างคิดมาแล้ว

ส่วนเนื้อตุ๋น 9 ชม.ของร้าน ยังนำไปปรุงเป็นอาหารจานเดียวได้อีก ได้แก่ ก๋วยเตี๋ยวแห้ง ก๋วยเตี๋ยวเนื้อสับ ข้าวผัดกะเพราเนื้อตุ๋น

เกาเหลาเนื้อวัวทองโภชนา

สำหรับคนไม่กินเนื้อ มีเมนูน่าสนใจ ได้แก่ หมี่ซั่วผัดเบคอน ข้าวผัดหมูสามอย่าง ปลากะพงผัดเต้าซี่ ข้าวผัดปูก้อน เกี๊ยวหมูราดซอสพริกเสฉวน

ที่น่าสนใจ คือ เมนูเต้าหู้ จะกินเป็นเต้าหู้ทอด เต้าหู้ทอดหน้าหมูกุ้ง เต้าหู้ทรงเครื่องหมูสับ เต้าหู้นึ่งซีอิ๊ว รวมไปถึงน้ำเต้าหู้รสหวานน้อย ถ้าคุณรักเต้าหู้บอกเลยว่าพลาดไม่ได้ ส่วนใครที่ไม่ชอบเต้าหู้เมื่อลองแล้วอาจเปลี่ยนใจ เพราะเต้าหู้ของที่นี่ไม่มีกลิ่นเหม็นเขียว และเนื้อนุ่มเนียนมากทีเดียว

เต้าหู้ทอดหน้าหมูกุ้ง

เกี๊ยวหมูราดซอสพริกเสฉวน

อาหารเสิร์ฟมาในขนาดพอเหมาะ ไม่เล็ก หรือใหญ่เกินไป สมราคา 70-150 บาท ถามถึงของหวาน มีเฉาก๊วย ซึ่งแบ่งออกเป็น 3 อย่างให้เลือก ได้แก่ เฉาก๊วยน้ำเต้าหู้ เฉาก๊วยถั่วแดง และเฉาก๊วยแบบที่เราคุ้นเคย ส่วนของหวานอีกเมนู คือ ไปมู่เอร่อ (เห็ดหูหนูขาวในน้ำเชื่อม)

รู้เรื่องอาหารแล้วถามถึงดีไซน์ของร้านบ้าง ชาลีบอกว่า ไม่มีการปรึกษามัณฑนากรเลย ด้วยความต้องการประหยัดต้นทุน เฟอร์นิเจอร์ในร้านสั่งทำแล้วมาประกอบกันเอง เคาน์เตอร์เครื่องดื่มเพื่อนๆมาช่วยกัน กระเบื้องปูพื้น ประดับผนัง และเสากลม ฝีมือของชาลีและกฏธรรม์ล้วนๆ

คำกล่าวที่ว่า รักเพื่อนไม่ควรทำธุรกิจกับเพื่อน เห็นจะใช้ไม่ได้กับเพื่อนซี้ชั้นมัธยมคู่นี้ สรุปว่าไม่ว่าคุณจะเป็นสายเนื้อหรือไม่ วัวทองโภชนามีเมนูให้รับประทานได้ทั้งสองสาย

วัวทองโภชนา อยู่ในซอยเจริญกรุง 45 เปิดทุกวัน 11.00- 22.00 น. โทร 09 7260 5305 จอดรถหน้าร้านได้ 5-6 คน แนะนำให้จอดรถที่ไปรษณีย์กลางแล้วเดินข้ามถนนมาก็สะดวก