ธาราทอง ห้องอาหารไทยริมแม่น้ำเจ้าพระยา กับเมนูเชิดชูเครื่องแกงไทย

นั่งมองแม่น้ำเจ้าพระยามาเป็นปีที่ 37 ในปีนี้สำหรับ ธาราทอง ห้องอาหารที่เปิดตัวครั้งแรกพร้อมกับการก่อตั้งโรงแรมรอยัล ออคิด เชอราตัน เป็นหนึ่งในห้องอาหารไทยยุคแรกๆ ของกรุงเทพฯ ที่มีการแสดงศิลปวัฒนธรรมไทยให้ชมขณะนั่งรับประทานอาหาร ถือเป็นความคลาสสิก ความโก้ ของห้องอาหารมีระดับยุคนั้น

‘ธาราทอง’ ให้บริการอาหารไทยแท้มาตั้งแต่การเปิดตัวครั้งแรก

เชฟยุทธชัย สะตะ และบรรยากาศของห้องอาหารธาราทอง

“สูตรอาหารไทยของธาราทองเป็นสูตรอาหารที่ตกทอดมาจากอาจารย์ศรีสมร คงพันธุ์ ซึ่งเป็นที่ปรึกษาให้กับห้องอาหารธาราทองตั้งแต่เริ่มเปิดร้านครั้งแรก”  เชฟโตโต้-ยุทธชัย สะตะ พ่อครัวคนปัจจุบันของธาราทอง กล่าวและว่า อาหารไทยทุกรายการยังคงปรุงตามสูตรของอาจารย์ศรีสมร ซึ่งให้รสชาติอย่างอาหารไทยแท้ และปราศจากการใช้ผงชูรส มีเพียงวัตถุดิบบางอย่างที่เพิ่มเข้ามาเพื่อความหลากหลายและให้เข้ากับยุคสมัยเป็นกรณีพิเศษ อาทิช่วงฤดูร้อนนี้ ห้องอาหารจัดแคมเปญ House of Thai Curry เพิ่มเมนูพิเศษเพื่อเชิดชู ‘เครื่องแกงไทย’ 

แกงพะแนงเนื้อวากิว

อาหารพิเศษรายการแรก แกงพะแนงเนื้อวากิว (1,200++บาท) วากิวออสเตรเลียน้ำหนัก 270 กรัม ย่างตามระดับความสุกที่นักชิมต้องการ (ในภาพ medium rare) ราดซอสพะแนงรสชาติเข้มข้น หยอดหัวกะทิ พริกชี้ฟ้าซอย ใบมะกรูดซอย ซอยจริงๆ เพราะเส้นบางกริบ แต่งหน้าด้วยช่อดอกกวางตุ้งสีเหลือง(รับประทานได้)ตัดกับซอสพะแนงสีแดงดูสวยงาม

ฉู่ฉี่ปลากะพงทอด

ประเภทเนื้อปลา ฉู่ฉี่ปลากะพงทอด (550++บาท) ปลากะพงขนาดกำลังกิน 800 กรัม บั้งเนื้อปลาเป็นชิ้นไว้เรียบร้อยให้ง่ายต่อการตัก ชุบแป้งนิดหน่อย เพื่อให้ทอดแล้วมีผิวนอกมีความกรอบยิ่งขึ้น ราดด้วยซอสฉู่ฉี่ คือพริกแกงแดงผัดกับกะทิ รสชาติและกลิ่นต่างจากซอสพะแนงตรงเครื่องแกงแดงของฉู่ฉี่ไม่มีลูกผักชี-ยี่หร่า แต่จะเสริมใบมะกรูดและผิวมะกรูดให้เครื่องแกงมีกลิ่นหอมมากกว่าพะแนง ตัดความเข้มข้นเวลากินด้วยบร็อกโคลีลวก

แกงเหลืองปลาแซลมอน

กับข้าวประเภทน้ำแกง เชฟโตโต้เลือกนำเสนอ แกงเหลืองปลาแซลมอน (550++บาท) เครื่องแกงประจำถิ่นภาคใต้ ภาคกลางเรียกแกงเหลือง ภาคใต้เรียกแกงส้ม สมุนไพรเด่นของเครื่องแกงคือขมิ้นสด ตำรวมกับข่า ตะไคร้ พริก ใบ-ผิวมะกรูด เกลือ และกะปิ รสชาติเผ็ดนำ ตามด้วยเปรี้ยว หวาน และเค็ม รสชาติจัดจ้านเข้มข้นแต่ซดได้ หูตาสว่างดี สดชื่น ไม่ถึงกับทรมาน กินกับข้าวสวยร้อนๆ พอดีเลย แซลมอนก็ชิ้นโต แกงเหลืองภาคใต้นิยมแกงกับหน่อไม้ดอง แต่เชฟโตโต้ขอเปลี่ยนเป็นยอดมะพร้าวอ่อนซึ่งให้ความหอมมันและรับประทานได้ง่ายขึ้น เนื่องจากบางคนอาจแพ้หน่อไม้ดอง

แกงกะหรี่ปูนิ่มทอดกรอบ

ตัดรสเผ็ดด้วย แกงกะหรี่ปูนิ่มทอดกรอบ  (620++บาท) ปูนิ่มชุบแป้งทอด ราดแกงกะหรี่แบบไทยที่มีเครื่องเทศเฉพาะตัวคือลูกกระวาน ลูกจันทน์ อบเชย โป๊ยกั๊ก ผงขมิ้น พริกแห้งแดง เสิร์ฟกับเส้นหมี่หรือข้าวหอมมะลิ และอาจาดครบเครื่อง หรือใครอยากได้ข้าวกล้องก็มีให้เลือก แต่โดยส่วนตัวแล้วแกงไทยกินกับข้าวหอมมะลินี่อร่อยสุด แล้วแต่ความชอบแล้วกันนะครับ

ข้าวเหนียวมะม่วง

ชีสเค้กชาไทย

ของหวานขึ้นชื่อของธาราทองคือ ข้าวเหนียวมะม่วง (280++บาท) มะม่วงน้ำดอกไม้คัดคุณภาพเนื้อดี-หวานฉ่ำ เสิร์ฟกับข้าวเหนียวมูน โรยหน้าด้วยมะพร้าวทึนทึกขูดเคี่ยวกับน้ำตาลทราย ถั่วทอง งาขาวและงาดำ ราดน้ำกะทิ ชีสเค้กชาไทย (250++บาท) ชีสเค้กสอดไส้ชาไทย เสิร์ฟพร้อมทองหยอด ลูกชุบ มะพร้าวแก้ว และ ‘วุ้นกรอบ’ ขนมไทยที่หลายคนอาจลืมไปแล้ว

ห้องอาหารธาราทองกรุกระจกใสมองเห็นแม่น้ำเจ้าพระยา ตกแต่งด้วยงานไม้แกะสลัก โต๊ะอาหารเป็นแบบนั่งบนพื้นไม้กระดานแบบเรือนไทย แต่เซาะพื้นรอบโต๊ะให้นั่งห้อยขาได้ตามสบาย

ปกติทุกวันจันทร์ถึงวันเสาร์เวลา 19.30 น. ยังคงมีการแสดงรำไทย 4 ภาค แต่ละวันการแสดงไม่ซ้ำกัน สลับการการบรรเลงดนตรีไทยประเภทขิม และมีการแสดงชุดหนุมานจับนางสุพรรณมัจฉาเป็นไฮไลต์ แต่เพื่อตอบสนองมาตรการป้องกันโรค โควิด-19 ทางห้องอาหารขอระงับการแสดงนาฏศิลป์ไว้ก่อนจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย

อาหารไทยจานพิเศษในแคมเปญ House of Thai Curry มีบริการไปจนถึงสิ้นเดือนเมษายนนี้ร่วมกับอาหารประจำที่มีให้เลือกอีกมากมาย อาทิ การเลือกเนื้อสัตว์ที่เป็นวัตถุดิบหลักแล้วเลือกวิธีให้เชฟปรุงตามที่มีให้เลือกในเมนู หรือจะสั่งอาหารจานเดียวประเภทข้าวและก๋วยเตี๋ยว ยำ ของว่าง ไปจนอาหารจานเคียงก็มีเช่นกัน

เป็นความคลาสสิกทั้งรสชาติอาหารไทยและบรรยากาศ

-----------------------------

ภาพ : ธนาชัย ประมาณพาณิชย์

ห้องอาหาร ธาราทอง ตั้งอยู่ที่ชั้น 1 โรงแรมรอยัล ออคิด เชอราตัน เปิดบริการทุกวัน เวลา 18.00-22.00 น. โทร.0 2266 0123 ต่อ ธาราทอง มีบริการเรือรับส่งจากท่าเรือสะพานตากสินทุกครึ่งชั่วโมง ทุกวันจันทร์-วันพฤหัสฯ เวลา 10.00-22.00 น. และวันศุกร์-วันเสาร์ เวลา 10.00-23.00 น.