เปิดรายได้ 'นกน้อย อุไรพร' เสียไปเท่าไหร่? ในวันที่ โควิด-19 ทำหมอลำร่ำไห้

ผลกระทบจากการระบาดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 ไม่ได้เกิดขึ้นแค่วงการแพทย์ แต่กระทบประชาชนไปทุกภาคส่วน ไม่เว้นแม้กระทั่ง ‘หมอลำ’ อาชีพที่สร้างความสนุกและเสียงหัวเราะให้กับคนไทยโดยเฉพาะชาวอีสานมาช้านาน 

"นกน้อย อุไรพร" อุไร สีหะวงศ์ เจ้าของคณะเสียงอิสาน และประธานชมรมหมอลำภาคอีสาน ออกมาเปิดใจผ่านการไลฟ์เฟซบุ๊ค กรณีคณะหมอลำในภาคอีสานถูกเจ้าภาพยกเลิกงานและเลื่อนจัดงานอย่างไม่มีกำหนด ตามมติ ครม. เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโคโรน่า โรคโควิค-19

"ในวันนี้ไม่มีปาฏิหาริย์ รวมกันตายหมู่ ไม่ใช่รวมกันเราอยู่ แต่ก็ต้องรวมกันอยู่ เพราะไปกันไม่ถูก ตื่นเช้าขึ้นมาวันนี้ หลังครม.สั่งปิด ควบคุมงาน เจ้าภาพก็โทรมายกเลิกงานจ้าง ทำให้กระทบวิถีชีวิตหมอลำ ไม่ใช่แค่วงแม่วงเดียว แต่โดนทุกวง งานเปิดฤดูกาลหมอลำถูกเลื่อนไปเป็นช่วงเดือน ต.ค. จนทำให้ตอนนี้สมาชิกในคณะที่มีภาระค่าใช้จ่ายต้องเจอความลำบากกันหมด ส่วนตัวถึงแม้จะมีวิกฤติเรื่องการเงิน แต่จะไม่หนีหนี้หรือโกงแน่นอน โดยอยากขอเจ้าหนี้ให้พักชำระหนี้และดอกเบี้ยในเวลานี้”

คลิปของ "นกน้อย อุไรพร" ได้กลายเป็นกระแสโซเชียลที่ทำให้ตระหนักถึงผลกระทบของวิกฤติโรคโควิค-19 ในวงกว้าง แต่ก็มีเสียงส่วนหนึ่งที่บอกว่าอาชีพอื่นก็ได้รับผลกระทบเช่นเดียวกัน 

กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ จึงสำรวจรายได้และต้นทุนของอาชีพหมอลำ ว่าเพราะอะไรพิษโควิด-19 ถึงทำให้พวกเขาร่ำไห้มากกว่าอาชีพอื่นๆ 

•  รายได้หมอลำ 

อาชีพ หมอลำ คือศิลปะการแสดงพื้นบ้านภาคอีสานที่อยู่คู่กับคนไทยมามากกว่า 60 ปี ถึงแม้ปัจจุบันจะลดความนิยมลงแต่ก็ยังมีความนิยมสำหรับคนบางกลุ่มอยู่เช่นกัน และ คณะดังๆ ก็มีคิวงานยาวเหยียดจองล่วงหน้าข้ามปี 

คณะหมอลำยอดนิยมที่คุ้นกันดีมี คณะเสียงอีสาน คณะประถมบันเทิงศิลป์ พิณแคนแดนอิสาน และระเบียบวาทะศิลป์ จากเว็บไซต์ลูกทุ่งหมอลำดอทคอม มีการให้ข้อมูลว่าในปี 2552 ในยุคที่หมอลำรุ่งเรือง ตลอดทั้งปีคณะลูกทุ่งยอดฮิตมีคิวงานไม่ต่ำกว่า 100 คิว 

คณะประถมบันเทิงศิลป์ 128 งาน

คณะระเบียบวาทะศิลป์  106 งาน

โดยรายได้หรือราคาค่าจ้างนั้นจะคิดเป็นงานๆ ไป และบวกเพิ่มตามระยะทางใกล้ไกล 

- คณะประถมบันเทิงศิลป์ ประมาณ 210,000 บาท 

- คณะระเบียบวาทะศิลป์ ประมาณ 180,000-200,000 บาท

- คณะเสียงอิสาน ประมาณ 180,000-200,000 บาท

- คณะรัตนศิลป์ ประมาณ 180,000-200,000 บาท

หากคิดค่าจ้างต่องานรวมทั้งปีแล้ว รายได้จะอยู่ประมาณไม่ต่ำกว่า 1 ล้านบาท 

•  ความอลังการที่มีต้นทุนเกิน 7 หลัก 

ภาพการแสดงที่อลังการ นักร้อง แดนเซอร์จำนวนมากบนเวทีขนาดใหญ่ พร้อมวงดนตรีครบชุด ทั้งแสง สี เสียงกระหึ่ม คือภาพจำของการแสดงหมอลำ ยิ่งมีความอลังการมากขนาดใหญ่ ยิ่งดึงดูดผู้ชมให้เขามาชมได้มากเท่านั้น แต่ถึงอย่างนั้นต้นทุนย่อมมากไปด้วยเช่นเดียวกัน 

นกน้อย กล่าวว่า ทีมงานในคณะเสียงอีสานมีมากกว่า 300 ชีวิต และรถราชนิดต่างๆ ไม่ต่ำกว่า 30 คัน เวลายกวงแสดงที่ไหนไม่ต่างจากคาราวานอภิมหาหมอลำ

ความยิ่งใหญ่ของ "เสียงอิสาน" ด้านหนึ่งมาจากการลงทุน ไม่ว่าจะเป็นเครื่องเสียง เวที ซึ่งบอบช้ำมาจากการทัวร์เดินสาย 8 เดือนเต็ม เมื่อเปิดฤดูกาลใหม่ (เดือนตุลาคมของทุกปี) ก็ต้องลงทุนใหม่ ใช้เงินไม่ต่ำกว่า 5-6 ล้านบาท รวมเสื้อผ้าเครื่องแต่งกาย โดยใช้เงินสูงถึง 5 ล้านบาท

จำนวนทีมงานของคณะหมอลำยอดฮิตต่างๆ ก็ไม่ต่างกันมีตั้งแต่ 100 คนจนอาจถึง 500 ดังนั้นแล้วค่าใช้จ่ายที่ใช้ภายในวงนั้นจึงมีมหาศาลตั้งแต่ค่าอาหาร ค่ารถ จนไปถึงค่าแต่งกาย 

เมื่อนำรายได้มาลบกับต้นทุนแล้วทำให้เห็นว่าอาชีพหมอลำ มีรายได้สุทธิที่ไม่ได้น่าอิจฉาสำหรับหลายๆ คนและเมื่อถูกเจ้าภาพยกเลิกงานและเลื่อนจัดงานอย่างไม่มีกำหนด ตามมติ ครม. เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโคโรน่า โรคโควิค-19 จึงทำให้อาชีพหมอลำเจ็บหนักกว่าอาชีพอื่นๆ เพราะทนรับค่าใช้จ่ายต่อต้นทุนไม่ไหว เช่นนี้นี่เอง.