'โหรฟองสนาน' เผยดวงเมือง ดาวโรค-ติดเชื้อ-เริ่มค่อยๆแยกจากกัน
"โหรฟองสนาน" เผยดวงชะตาเมืองรัตนโกสินทร์(และโลก) และดาวจรสื่อภัยอาเพศ-โรคระบาด
โหรฟองสนาน จามรจันทร์ โพสต์ข้อความโดยระบุว่า แม่หมอสมัครเล่นตอนที่ 316 โดยฟองสนาน จามรจันทร์ ตามติดโควิด-19- 22 มีนา 63 ดาวโรค-ติดเชื่อ-เริ่มค่อยๆแยกจากกัน
ภาพดวงชะตาเมืองรัตนโกสินทร์(และโลก) และดาวจรสื่อภัยอาเพศ-โรคระบาด
มฤตยูจร(0) ตัวแทนภัยอาเพศทับลัคนาเมือง(และโลกที่ลัคนาสถิตราศีเมษ)ระหว่างมีนาคม2559-กรกฎาคม2565
พระราหูจร(8) ที่มิถุนเล็งกับพฤหัสบดีจร(5) ที่ธนูระหว่าง 30 ตุลาคม 2562-17 มีนาคม 2563(รอบแรก) เป็นคู่โรคระบาดหลังจากนั้นพฤหัสบดีจรเข้าไปเดินในราศีมังกร
พระอังคารจร(3) เข้าเดินในราศีพิจิกภพมรณะดวงเมือง(โลก)ระหว่าง 25 ธันวาคม 2562-8 กุมภาพันธ์ 2563 ทำมุมพิเศษถึงพระราหูจร(8) ที่มิถุนเป็นคู่โรคติดเชื้อ
พระอังคารจร(3) เข้าราศีธนูเล็งใส่พระราหูจร(8) ที่มิถุนระหว่าง 8 กุมภาพันธ์ 2563-22 มีนาคม 2563 โรคติดเชื้อระบาดหนักหลังจากนั้นย้ายเข้าไปเดินในราศีมังกร
พระเสาร์จร(7) ที่ราศีมังกร
ผู้เขียนขอพักการเขียนถึงอิทธิพลของการที่พระเสาร์จร(7)ที่ย้ายราศีอันจะมีผลต่อดวงชะตาคนที่เหลืออีกหกลัคนาราศีคือพฤษภ-มิถุน-สิงห์-กันย์-พิจิก-และกุมภ์ไว้ก่อนชั่วคราวเพื่ออัพเดทสถานการณ์โรคระบาดไวรัสโควิด-19 ซึ่งได้เขียนเผยแพร่ทางเฟซบุ๊ก และแฟนเพจ-ฟองสนาน-และ-โหรฟองสนาน-ไปก่อนหน้านี้แล้วบางส่วนในชื่อ-สาธุขอให้ข้าฯอ่านเกณฑ์โรคระบาดถูก-เผยแพร่ 16 มีนาคม2563 ดังนี้
ย้อนรอยเกณฑ์โรคระบาดใหญ่ทางโหร
1.มฤตยูจร(0) เจ้าของภัยอาเพศ-ภัยพิบัติใหญ่ที่เกิดขึ้นไม่คาดฝันทับลัคนาดวงเมือง(และโลกที่สถิตราศีเมษเหมือนกัน)รออยู่นานแล้วตั้งแต่มีนาคม 2559
โดยตัวอย่างในอดีตที่เมืองรัตนโกสินทร์เคยเจอในรอบแรกที่มฤตยูจรทับลัคนาเมืองคือห่าลงปีระกา หรือไข้ป่วงใหญ่ หรืออหิวาต์ลงในสมัยรัชกาลที่สามในปี 2392 โดยเกิดที่ปีนังก่อน แล้วระบาดมาถึงกรุงเทพฯ เรียกกันว่า “ห่าลงปีระกา” ตลอดช่วงการะบาดตายถึง สี่หมื่น คนจนมีตำนานที่ “แร้งวัดสระเกศ” กินซากศพที่กองพะเนิน และคราวนั้นเราเสียเจ้าพระยาบดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนี) เพราะอหิวาต์
2.ตั้งแต่ 30 ตุลาคม 2562 เป็นต้นมาเริ่มปรากฎการณ์ทางโหรซ้ำสองเข้ามาอีกคือพระราหูจร(8) เล็งกับพระพฤหัสบดีจร(5)ตามหลักที่อาจารย์เทพย์ สาริกบุตรให้ไว้ว่าดาวคู่นี้เป็นคู่โรคระบาด ซึ่งคาดว่าการติดเชื้อโควิด-19 น่าจะเริ่มระยะนี้เพราะ
ต่อมาเมื่อ จีนสามารถสืบค้นหา "ผู้ป่วยรายที่หนึ่ง ติดเชื้อไวรัส โควิด-19เป็นชาวหูเป่ย์ อายุ 55ปี และถูกตรวจพบว่าติดเชื้อตั้งแต่เมื่อ 17 พ.ย. 2562 เพียงแต่ยังหาต้นตอคือผู้ติดเชื้อหมายเลขศูนย์ที่ติดเชื้อก่อนหน้านั้นไม่พบ
3.ซ้ำด้วยเกณฑ์ที่สามทางโหรคือพระอังคารจร(3) เข้าราศีพิจิกภพมรณะดวงเมืองและดวงโลกระหว่าง 25 ธันวาคม 2562-8 กุมภาพันธ์ 2563 และทำมุมพิเศษถึงพระราหูจร(8) เป็นคู่โรคติดเชื้ออันเป็นระยะที่เมืองจีนเริ่มแจ้งองค์การอนามัยโลกหรือฮู(WHO)
ขณะที่ฮูและบางประเทศยังประมาทประเมินสถานการณ์ต่ำไปแต่ของไทยเราโชคดีที่มีบุคลกรทางการแพทย์ชั้นยอด และระบบรองรับดี อีกทั้งฝ่ายการเมืองก็เอาด้วย กรมควบคุมโรคได้เปิดศูนย์ได้ศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉิน (EOC) เฝ้าระวัง ติดตามสถานการณ์กรณีโรคปอดอักเสบจากเชื้อไวรัสจากจีนตั้งแต่ 4 มกราคม 2563
ต่อมาองค์การอนามัยโลกประกาศเป็นภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขระหว่างประเทศเมื่อ 30 มกราคม 2563
4.เกณฑ์ร้ายที่สี่(ต่อเนื่องจากเกณฑ์รายที่สาม)เริ่มตั้งแต่ 8 กุมภาพันธ์ 2563 เป็นต้นมา. เมื่อพระอังคารจร(3) ย้ายเข้าราศีธนูทำมุมเล็งกับพระราหูจร(8) คู่โรคติดเชื้อ ก็ไม่มีใครเบรคโควิด-19อยู่แล้ว เดือดร้อนระเบิดเถิดเทิงไปทั่วโลก
------ต่อไปนี้คือสิ่งที่ผู้เขียนภาวนาขอให้อ่านระหัสทางโหรทำนายสิ่งที่จะเกิดต่อไปได้อย่างน้อยก็ใกล้เคียง(เพราะเป็นเพียงโหรสมัครเล่น)ถึงสภาวะของโควิด-19ตามที่เคยทำนายไว้ก่อนหน้านี้บางส่วนคือ----
1.ประเทศรอด โดยแม้จะเดือดร้อนวุ่นวายขายกระจาดขนาดบุคลกรทางการแพทย์มีหน้ากากอนามัยไม่พอใช้ แต่การรับมือ ของบุคลากร-ระบบสาธารณสุขไทยก็ออกมาดีเกินคาด จะพาประเทศรอดดังที่ผู้เขียนเคยบอกมาตลอดด้วยเป็นระยะที่พฤหัสบดีศรีจรดวงเมืองเข้มแข็งมากสามารถ-คุ้มครองเมืองได้ จนแม้ไทยจะติดเชื้อจากจีนเป็นประเทศแรกๆ แต่ก็สามารถคุมตัวเลขอยู่ในสภาวะน่าพอใจ ให้เพิ่มขึ้นช้าๆซื้อเวลาเตรียมความพร้อมเพื่อเข้าสู่ช่วงระบาดสูงสุด
2.ดาวโรคระบาดเริ่มค่อยๆเคลื่อน-ค่อยๆย้ายจากการเล็งกัน เริ่มตั้งแต่วันที่ 17 มีนาคม 2563 เวลา21.13น. (คือพฤหัสบดีจร5เริ่มย้ายเข้าราศีมังกรหยุดเล็งกับพระราหูจร8) พัฒนาการด้านดีเริ่มเห็นในการรับมือโควิด-19----ทีละเล็กละน้อย-----ตามองศาดาวที่แยกห่างจากกัน
ผลที่เริ่มเห็นคือนักประดิษฐ์ไทยสามารถสร้างชุดตรวจราคาถูกสะดวกเพื่อทำไปผลิตเชิงปริมาณได้-แต่ก็ต้องใช้เวลาในกาผลิตเชิงปริมาณ
คนติดเชื้อที่จีนลดน้อยลงจนไม่ติดเลย จีนและญี่ปุ่นคิดค้นยาต้านไวรัสได้(จากเดิมที่รักษาแบบประคับประคอง)และหลายประเทศเริ่มทดลองหาวัคซีน
ล่าสุดเป็นระยะที่หลายพื้นที่-จังหวัดรวมทั้งกทม.ใช้มาตรการความคุมทางกฎหมาย-คล้ายๆปิดเมืองเพื่อสาธารณสุขที่ดีก็อยู่ในเกณฑ์ทางโหรนี้(พฤหัสบดี-ศรีจร-ที่มังกรเป็นนิจ)
อย่างไรก็ตามสำหรับสถานการณ์โลกหลายประเทศที่ประมาท-ซ่า ไม่ตระหนักว่าภัยมาถึงตัวแล้ว(อาการของพระราหูจร8 อยู่ราศีมิถุนภพที่สามดวงโลก-กล้าเกินเหตุกลัวเกินเหตุ)ต่างเจอพิษโควิด-19 หนักต่อจากจีนเช่นอิตาลี่ จนศูนย์กลางการระบาดไปอยู่ที่ยุโรปแทนฯลฯ
3.สำคัญที่สุดที่อยากจะบอกในยทความนี้คือ ดาวคู่ติดเชื้อจะเริ่มแยกจากการเล็งกันตั้งแต่ 22 มีนาคม 2563 เวลา 16.10 น.เป็นต้นไป (พระอังคารจร3ย้ายเข้าราศีมังกรหยุดการเล็งกันกับพระราหูจร8)ซึ่งผู้เขียนคาดว่าน่าจะได้เห็นสถานการณ์ติดเชื้อรายใหม่แม้จะยังมีลูกติดพันเพิ่มขึ้นตลอดในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมาจะค่อยๆพัฒนาการดีขึ้นคือจะ----ค่อยๆดีขึ้นทีละเล็กละน้อยตาม----องศาดาวที่เคลื่อนออกจากกัน
โดยพัฒนาการนี้อาจจะยังเพิ่มเพราะลูกติดพันแล้วจะค่อยๆลดนี้จะเป็นไปในช่วง 22 มีนาคม-1 พฤษภาคม2563
4.จับตาระยะที่ดาวคู่วิจัยทางการแพทย์-ทบทวนวิธีการรักษา-ยา-เวชภัณฑ์(พระอังคารจร3ร่วมพฤหัสบดีจร5ที่มังกรเป็นคู่วิจัย)จะเริ่มค่อยๆเห็นผลน่าตื่นตะลึงตั้งแต่ 22 มีนาคม 2563 เป็นต้นไป-1พฤษภาคม 2563(พระอังคารจร3จรทำมุมพิเศษถึงพระมฤตยูจรหนึ่งในความหมายคืออัจฉริยะที่ราศีเมษด้วย)
5.เมื่อดาวคู่โรคระบาด-ดาวโรคติดเชื้อแยกออกจากกันร่วมกับผลงานวิจัยใหม่ๆ จะออกมาดวงชะตาเมือง และโลกจะค่อยๆ เข้มแข็งขึ้นตั้งแต่ 22 มีนาคม 2563 เป็นต้นไป (พระอังคารจรดาวประจำชีพโลกและเมืองเดินอยู่ในราศีมังกรได้มาตรฐานอุจจ์-เข้มแข็งซึ่งแม้จะร่วมราศีกับพระเสาร์จร 7 ที่มังกรคู่ศัตรูเบาที่มาตรฐานก็เข้มแข็งคือมาตรฐานเกษตราธิบดีแต่ทางโหราศาสตร์ถือเป็นคู่มิตรใหญ่) เพียงแต่อาจต้องไประวังเรื่องอื่นแทนเช่นอุบัติเหตุ ความรุนแรงฯลฯ
ดังนั้นความหวังในทางดีเราน่าจะได่เห็นระหว่าง 22 มีนาคม-1 พฤษภาคม 2563
6.เชื่อว่าประมาณวันเกิดดวงเมือง 21 เมษายน 2563 เป็นต้นไปสถานการณ์โควิด-19 คงจะเริ่มค่อยๆใกล้สู่สภาวะเป็นโรคปกติ เพราะเป็นระยะที่พระราหู(ตัวแทนจีน)เป็นศรีจร-สิ้นปี อาจเป็นไปได้ว่าจีนคงให้ประโยชน์กับไทย-โลกอย่างมาก
อีกทั้งการเก็งกำไรจะกลับมาสนั่นแม้แต่ตลาดหุ้นฯลฯแต่ก็จะเป็นคนละส่วนกับเศรษฐกิจโดยรวมที่คาดว่าไม่ว่าใครมาเป็นรัฐบาลก็คงต้องทำงานหนักและงัด-กระตุ้นกันอุตลุดไปถึงมีนาคม 2566(พระเสาร์จรถึงพระศุกร์ดวงเดิม)
7.ระหว่าง 17 กรกฎาคม2563-10 กันยายน 2563 แม้ดาวคู่โรคระบาดจะกลับมาเล็งกันอีกรอบ(พฤหัสบดี-เดชจรเล็งกับพระราหูศรีจร) แต่สำหรับดวงเมืองไทยแล้วคาดว่าบุคลกร-ระบบทางการแพทย์ที่เข้มแข็งคงได้ทบทวนวิธีการรักษา-รับมือและประกาศศักดาถึงผลงานไปทั่ว
8.อย่าลืมว่ามฤตยูจร(0)ตัวแทนภัยอาเพศยังทับลัคนาดวงเมือง(และโลก)อยู่ พร้อมจะสร้างสถานการณ์ชวนตาค้างได้ตลอดเวลา สถานการณ์เกี่ยวกับภัยอาเพศ รวมทั้งโรคระบาดก็ต้องระวังอยู่เช่นตั้งแต่วันเกิดดวงเมืองที่ 21 เมษายน 2563-สิ้นปีคนในเมืองควรระวังเรื่องอาหารการกิน (ทักษาจรเมืองตกภูมิพุธถ้าเป็นคน..อย่ากินเนื้อกินนก จะร้อนอีกเจ็บนาภี)
หรือมีบางระยะช่วงใกล้ปลายปีที่อาจต้องระวังภัยทางทะเลหรือภัยมาทางน้ำซึ่งจะได้แจ้งเตือนให้ทราบต่อไป
ฟองสนาน จามรจันทร์
20 มีนาคม 2563