ส่อง 5 'ต้นไม้ฟอกอากาศ' ยอดฮิต ช่วยพิชิตฝุ่น 'PM2.5' ในบ้าน
คนรักต้นไม้ต้องรู้! ชวนอัพเดทเทรนด์ "ต้นไม้ฟอกอากาศ" ยอดฮิตแห่งปี 2020 ที่ช่วยให้อากาศภายในบ้านหรือคอนโดสะอาดบริสุทธิ์ได้โดยไม่ต้องง้อ "เครื่องฟอกอากาศ"
เมื่อฝุ่นพิษ "PM 2.5" กลับมาปกคลุมทั่วเมืองกรุงอีกระลอก หลายคนมองหาวิธีสู้ฝุ่นเพื่อปกป้องสุขภาพตัวเอง เช่น สวมหน้ากากกันฝุ่น, ซื้อเครื่องฟอกอากาศ, และอีกหนึ่งวิธีคือ การหา "ต้นไม้ฟอกอากาศ" มาเลี้ยงไว้ในบ้านหรือคอนโด เพื่อกรองฝุ่นและช่วยดักมลพิษ ใช้พื้นที่ปลูกไม่มากก็สามารถทำให้บ้านน่าอยู่ ร่มรื่น และมีอากาศที่บริสุทธิ์ได้แล้ว
แต่หนุ่มสาวชาวกรุงบางคน อาจจะยังไม่รู้ว่าควรเลือกต้นไม้ชนิดไหน? ทำไมต้นไม้บางชนิดถึงฟอกอากาศได้? ควรตั้งไว้มุมไหนดี? วันนี้ กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ รวบรวมข้อมูลน่ารู้มาให้ทราบกัน
- ทำไม "ต้นไม้ฟอกอากาศ" ได้?
ก่อนอื่นชวนทำความเข้าใจเพิ่มอีกนิดว่า ทำไมต้นไม้บางชนิดถึงสามารถ "ฟอกอากาศ" ได้? เรามีคำตอบจาก กรมอนามัย ระบุว่า การปลูกต้นไม้เป็นอีกหนึ่งตัวช่วยในการดักจับสารพิษในอากาศ และสามารถป้องกันฝุ่นละออง เพราะส่วนต่างๆ ของต้นไม้ โดยเฉพาะส่วน "ใบ" ที่สามารถช่วยดักฝุ่นได้ดี ซึ่งฝุ่นละอองที่ลอยอยู่บนอากาศจะผ่านต้นไม้ติดค้างอยู่บนผิวใบ เช่น พืชตระกูลสนจะช่วยดักจับฝุ่นได้ เพราะโครงสร้างของใบมีความละเอียดซับซ้อน
อีกทั้งพรรณไม้จำพวกไม้เลื้อยก็สามารถดักจับฝุ่นได้ดีเช่นกัน และจับฝุ่นได้มากกว่าพรรณไม้ชนิดอื่นๆ ด้วย เพราะมีพื้นผิวใบมากกว่าต้นไม้อื่น ด้วยลักษณะใบที่เรียวเล็ก ชื้น หยาบ มีขน หรือผิวใบที่เหนียวจะทำให้ฝุ่นเกาะติดใบได้ดี ส่วนลำต้น กิ่งก้านที่มีโครงสร้างสลับซับซ้อน ซึ่งมีส่วนช่วยดักจับฝุ่นได้เช่นกัน
นอกจากนี้ยังมีพรรณไม้อีกบางกลุ่มที่สามารถช่วยดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์และมลพิษทางอากาศ ที่ระเหยออกมาจากของใช้ภายในบ้านได้ โดยเฉพาะสารซักล้างต่างๆ อย่างเช่น ฟอร์มาดีไฮต์ ไซลีน โทลูอีน เบนซิน แอมโมเนีย แอลกอฮอล์ เป็นต้น
ส่วนกระบวนการในการดูดสารพิษของ "ต้นไม้ฟอกอากาศ" นั้น เกิดจากกระบวนการคายน้ำของพืช กล่าวคือ ต้นไม้จะมีการดูดสารพิษผ่านกระบวนการคายน้ำทางปากใบที่มากกว่าต้นไม้ชนิดอื่น ในกระบวนการคายน้ำจะทำให้อุณหภูมิบนผิวใบไม้แตกต่างจากอากาศภายนอก เกิดการหมุนเวียนของอากาศรอบๆ ทำให้อากาศที่มีสารพิษไหลลงสู่บริเวณรากพืชที่มีจุลินทรีย์ดึงดูดไว้จำนวนมาก และจุลินทรีย์เหล่านั้นจะทำการย่อยสารพิษให้กลายเป็นอาหารของพืช จากนั้นพืชก็จะปล่อยอากาศบริสุทธิ์ออกมาในพื้นที่โดยรอบ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- ควรวาง "ต้นไม้ฟอกอากาศ" มุมไหนดี?
การปลูกต้นไม้ 1 ต้น ช่วยดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์ได้ 9-15 กิโลกรัมต่อปี ดักฝุ่นและมลพิษทางอากาศได้ 1.4 กิโลกรัมต่อปี ช่วยฟอกอากาศ ลดการเกิดภูมิแพ้และหอบหืดได้ อีกทั้งยังช่วยทำให้ผู้อยู่อาศัยสดชื่น ผ่อนคลาย ลดความเครียด รวมทั้งลดอุณหภูมิรอบบ้านได้ 2-4 องศาเซลเซียส เพราะช่วยให้ร่มเงาและป้องกันรังสี UV ได้เป็นอย่างดี
ส่วนการวาง "ต้นไม้ฟอกอากาศ" ในบ้านคือ ต้องวางในตำแหน่งที่มีแสงส่องถึงเพื่อให้กระบวนการฟอกอากาศของต้นไม้ทำได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ อีกทั้งเพื่อประโยชน์ในการสังเคราะห์แสงของต้นไม้ด้วย ส่วนระยะในการวางต้นไม้ควรให้ใกล้กับระยะหายใจ โดยระยะห่างการหายใจของคนเราจะใช้พื้นที่ประมาณประมาณ 0.17-0.23 ลูกบาศก์เมตร
ดังนั้นก็ควรวางต้นไม้ในเขตพื้นที่การหายใจดังกล่าวก็จะทำให้คุณได้รับอากาศบริสุทธิ์จากต้นไม้ฟอกอากาศได้แล้ว อีกทั้งต้นไม้เหล่านั้นยังช่วยฟอกอากาศพิษจากร่างกายมนุษย์ (ผ่านทางลมหายใจออก) ได้ด้วย มุมวางต้นไม้ที่อยากแนะนำ ได้แก่ ข้างโต๊ะทำงาน, ในห้องนอน (ควรเลือกต้นไม้ชนิดที่ไม่ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในเวลากลางคืน), ในห้องน้ำ, ในห้องนั่งเล่น
- 5 "ต้นไม้ฟอกอากาศ" อินเทรนด์ในปี 2020
จริงๆ แล้ว ต้นไม้ฟอกอากาศในท้องตลาดมีมากมายหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็นต้นไม้สำหรับปลูกนอกบ้านและต้นไม้ที่เหมาะกับการปลูกในบ้าน สำหรับสายพันธุ์ต้นไม้ที่เหมาะกับการปลูกนอกบ้าน ได้แก่ ไทรเกาหลี คริสตินา โมก ตะขบ การเวก พวงครามออสเตรเลีย อโศกอินเดีย และสนฉัตร ส่วนสายพันธุ์ที่เหมาะกับในบ้าน ได้แก่ พลูด่าง ลิ้นมังกร กล้วยไม้พันธุ์หวาย เบญจมาศ เยอบีร่า เสน่ห์จันทร์แดง แต่ถ้าอยากได้พรรณไม้ฟอกอากาศที่มีใบสวยและกำลังฮอตฮิตอินเทรนด์ในขณะนี้ ก็ต้องเป็นต้นไม้ฟอกอากาศ 5 ชนิดดังต่อไปนี้
1. ไทรใบสัก
ไทรใบสักคือต้นไม้ฟอกอากาศชั้นเยี่ยม มีถิ่นกำเนิดทางตะวันตกของทวีปแอฟริกา ในธรรมชาติเป็นไม้อิงอาศัยตามเรือนยอดของไม้ใหญ่ก่อนจะหยั่งรากลงมาบนพื้นดิน ไทรใบสักเป็นไม้พุ่ม มีขนาดลำต้นไม่ใหญ่มาก มีความสูงตั้งแต่ 50 เซนติเมตรไปจนถึง 12 เมตร เปลือกลำต้นสีน้ำตาลปนเทา ใบเดี่ยวรูปรีกว้างถึงรูปกลมเรียงสลับกันไปตามลำต้น โคนใบรูปหัวใจ ปลายใบมีติ่งหนามสั้น ขอบใบเรียบเป็นคลื่นเล็กน้อย แผ่นใบสีเขียวเข้มหนาเป็นมัน ปัจจุบันมีการกลายพันธุ์เป็นชนิดแคระและชนิดใบด่างอีกด้วย
Tips: สามารถปลูกได้ทั้งนอกบ้านและในบ้าน ชอบดินร่วนระบายน้ำดี ชอบแสงแดดปานกลางถึงรำไร เติบโตได้ดีในที่แสงน้อย ชอบน้ำน้อยถึงปานกลาง รดน้ำแค่วันเว้นวันก็พอ
2. กวักมรกต
กวักมรกต หรือ เกล็ดมังกร เป็นไม้มงคลของคนไทยมาตั้งแต่โบราณ เชื่อกันว่าใครปลูกต้นกวักมรกตจะมีแต่โชคลาภ เงินทองไหลมาเทมา จึงกลายเป็นต้นไม้ปลูกในบ้านที่นิยมกันแพร่หลาย และถูกจัดให้เป็นหนึ่งในต้นไม้ฟอกอากาศได้ดี ช่วยดูดสารพิษและปลดปล่อนออกซิเจนออกมาได้มาก ต้นกวักมรกตเป็นไม้ที่มีหัวอยู่ในดิน ก้านอวบน้ำ ใบเลี้ยงคู่เป็นมันเงา เรียงตามยาวของก้าน นอกจากมีใบที่สวยงามเหมาะกับการตกแต่งบ้านแล้ว ยังปลูกและเลี้ยงง่าย ไม่ต้องใช้เวลาดูแลมาก
Tips: ชอบดินร่วนและค่อนข้างโปร่ง ไม่ต้องรดน้ำบ่อย เนื่องจากลำต้นสามารถเก็บน้ำไว้ได้ หากรดน้ำบ่อยเกินไปจะทำให้ดินเปียกชุ่มจนทำให้หัวใต้ดินเน่าตายได้
3. มอนสเตอร่า
อีกหนึ่งพรรณไม้ยอดนิยมของหนุ่มสาวสายฮิปก็คือ มอนสเตอร่า ที่มีความโดดเด่นที่ลักษณะของใบขนาดใหญ่และแตกออกเป็นแฉกๆ มีสายพันธุ์มาถึง 50 สายพันธุ์ โดยต้นไม้ชนิดนี้เป็นพืชที่มีต้นกำเนิดจากเขตร้อนชื้นตามป่าดิบเขาและหมู่เกาะของทวีปอเมริกา โดยชื่อนี้มาจากภาษาละตินที่ว่า Monstrous แปลว่า “ผิดแปลก” เนื่องมาจากลักษณะรูปทรงของใบมีรอยฉีกขาดเป็นลายสวยราวกับได้รับรอยฉลุ ทำให้ต้นมอนสเตอร่ากลายเป็นไม้ประดับที่ได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ รวมถึงมีประโยชน์ในการช่วยฟอกอากาศได้ดีเช่นกัน
Tips: ดูแลง่าย เหมาะกับการปลูกไว้ในห้อง ไม่ต้องการแสงแดดมากแต่ควรวางไว้ในที่ที่มีแดดรำไร ชอบความชื้น ห้องควรมีอากาศถ่ายเทได้ดี รดน้ำวันเว้นวันหรือสองวันครั้ง แต่อย่าให้ชุ่มเกินไปจนน้ำขัง แนะนำให้ปลูกลงกระถางเซรามิกหรือดินเผาที่ให้อุณหภูมิเย็น
4. ลิ้นมังกร
ลิ้นมังกรเป็นไม้อวบน้ำ มีลักษณะเป็นพุ่ม ความสูง 30-50 เซนติเมตร ใบแบน ออกเวียนสลับ ปลายใบแหลม แผ่นใบบิด ขอบใบมีแถบด่างสีเหลือง กลางใบเป็นลายสีเขียว มีดอกสีขาวออกเป็นช่อ และยังเป็นต้นไม้ฟอกอากาศที่มีความสามารถโดดเด่นในการดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และปล่อยออกซิเจนออกมาในช่วงเวลากลางคืน
Tips: เลี้ยงง่าย ชอบดินร่วนหรือดินปนทราย ระบายน้ำดี ชอบที่ร่มแต่มีแดดรำไร รดน้ำน้อยๆ วันเว้นวันหรือสองวันครั้งก็พอ
5. ฟิโลเดนดรอน
อีกหนึ่งพรรณไม้ใบสวยสุดฮิตและเป็นต้นไม้ฟอกอากาศด้วยก็คือ ต้นฟิโล่ หรือ ฟิโลเดนดรอน มีถิ่นกำเนิดจากจากทวีปอเมริกาใต้ มีอยู่หลากหลายชนิด เช่น ฟิโลมรกตแดง ฟิโลใบมะละกอ ฟิโลใบหัวใจ ฟิโลหูช้าง เป็นต้น ตามธรรมชาติชอบขึ้นอยู่กับต้นไม้ใหญ่มีรากอากาศงอกออกยาว มีทั้งสายพันธุ์ที่เป็นไม้เลื้อย มีรากอากาศ (aerial roots) เกาะพยุงต้น และสายพันธุ์ที่เป็นก้านใบโผล่แทงขึ้นมาบนผิวดิน โดยลักษณะของใบมีรูปร่างแปลกๆ ความยาวของใบมีได้ตั้งแต่ 3 นิ้วถึง 3 ฟุต ส่วนมากมีสีเขียวสด แต่บางชนิดใบมีสีชมพู เส้นใบสีแดง หรือสีเขียวอ่อน เป็นต้นไม้ฟอกอากาศที่เหมาะกับการปลูกในบ้าน ช่วยดักจับฝุ่นละอองและสารพิษต่างๆ ได้เป็นอย่างดี
Tips: เหมาะกับการปลูกในกระถาง เติบโตได้ดีในที่แสงน้อยถึงปานกลาง ควรหมั่นฉีดละอองน้ำบริเวณใบเพื่อเพิ่มความชื้น รดน้ำให้พอดีไม่ต้องชุ่มจนเกินไป
----------------------
อ้างอิง:
