กระแสแรง! ‘พจมานสว่างคาตา’ พร้อมส่องรายได้จักรวาล ‘หอแต๋วแตก’

กระแสแรงเกินคาด! สำหรับภาพยนตร์ไทย “พจมานสว่างคาตา” ที่ได้เข้าโรงฉายเป็นเรื่องแรกหลังทางการประกาศมาตรการ “ผ่อนปรนเฟส 3” ในสถานการณ์วิกฤติโควิด-19 โดยเรื่องนี้เป็นหนังไทยแนวคอมเมดี้ที่อัดมุกตลกมาแบบล้นๆ ตามสไตล์ผู้กำกับ “พชร์ อานนท์” โดยเป็นเรื่องราวที่แยกออกมาจากจักรวาลหนังภาคต่อ “หอแต๋วแตก”

หลังจาก “พจมานสว่างคาตา” เข้าโรงฉายได้เพียงสองวัน ปรากฏว่ามีกระแสตอบรับที่มาแรงมาก แถมคำวิจารณ์ยังเป็นไปในทิศทางที่ดีกว่าหนังหลายๆ เรื่องที่ผ่านมาของ พชร์ อานนท์ เอาเป็นว่าใครอยากไปดูหนังเรื่องนี้ ชวนมาทำความรู้จักจักรวาล “หอแต๋วแตก” ให้มากขึ้น พร้อมส่องรายได้ของหนังหอแต๋วแตกแต่ละภาค และดูคำวิจารณ์เกี่ยวกับ “พจมานสว่างคาตา” ก่อนตีตั๋วไปฮาให้ท้องแข็ง

1. จักรวาลหนัง “หอแต๋วแตก” ทำมาแล้ว 6 ภาค

ภาพยนตร์ชุด “หอแต๋วแตก” เป็นภาพยนตร์ไทยแนวตลก-ผี และเกี่ยวกับความหลากหลายทางเพศ เป็นผลงานกำกับภาพยนตร์และเขียนบทภาพยนตร์โดย “พชร์ อานนท์” ที่มีการสร้างถึง 6 ครั้ง มีเนื่อหาหลักเป็นเรื่องราวของกะเทยสามคนสามพี่น้อง ที่บังเอิญมาพบกับเรื่องราวลึกลับชวนปวดหัวปนฮาแตกในหอพักชาย

โดยหลังจากที่ พชร์ อานนท์ ถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง เพื่อน...กูรักมึงว่ะ เสร็จ จึงมีไอเดียที่จะทำหนังเรื่องถัดมาโดยเน้นเป็นเรื่องราวของเพศที่สามซึ่งเขาได้นำโครงการดังกล่าวไปเสนอกับ สมศักดิ์ เตชะรัตนประเสริฐ โดยตั้งชื่อโครงการว่า “หอแต๋วแตก” แต่สมศักดิ์คิดว่าเป็นชื่อที่คนไม่เข้าใจ จึงตั้งชื่อให้ว่า “โกยเถอะกะเทย” แต่เนื่องจากชื่อซ้ำกับภาพยนตร์โกยเถอะโยม ทำให้คุยกันไม่ลงตัว หลังจากนั้นพชร์ตัดสินใจย้ายไปอยู่กับค่ายไฟว์สตาร์ ซึ่งตกลงรับโครงการนี้ และเริ่มต้นทำงานด้วยกันในปี พ.ศ. 2550

ส่วนด้านการคัดเลือกตัวนักแสดง ได้นักแสดงตลกและศิลปินมากฝีมือในวงการอย่าง จาตุรงค์ มกจ๊ก, เอกชัย ศรีวิชัย และยิ่งศักดิ์ จงเลิศเจษฎาวงศ์ มารับบท 3 กะเทยพี่น้องที่เป็นตัวแสดงหลักในจักรวาลของภาพยนตร์ชุด “หอแต๋วแตก”

2. “หอแต๋วแตก” ฟันรายได้ 70 ล้าน-100 ล้าน!

อย่างที่้บอกไปว่าภาพยนตร์เรื่อง “หอแต๋วแตก” มีการสร้างมาแล้วถึง 6 ภาค แต่ละภาคก็จะใช้ชื่อหนังแตกต่างกันออกไปเล็กน้อย โดยอิงกับกระแสสังคมเป็นหลัก โดยแต่ละภาคมีรายได้ ดังนี้

- หอแต๋วแตก : วันที่เข้าฉาย 8 มีนาคม พ.ศ. 2550 รายได้ทั่วประเทศ 95.1 ล้านบาท 

- หอแต๋วแตกแหกกระเจิง : วันที่เข้าฉาย 1 ตุลาคม พ.ศ. 2552 รายได้ทั่วประเทศ 125.99 ล้านบาท

- หอแต๋วแตกแหกชิมิ : วันที่เข้าฉาย 6 มกราคม พ.ศ. 2554 รายได้ทั่วประเทศ 78.9 ล้านบาท

- หอแต๋วแตกแหกมว๊ากมว๊ากกก : วันที่เข้าฉาย 23 ตุลาคม พ.ศ. 2555 รายได้ทั่วประเทศ 70 ล้านบาท

- หอแต๋วแตกแหกนะคะ : วันที่เข้าฉาย 22 ตุลาคม พ.ศ. 2558 รายได้ทั่วประเทศ 89.24 ล้านบาท

- หอแต๋วแตกแหกต่อไม่รอแล้วนะ : วันที่เข้าฉาย 5 ธันวาคม พ.ศ. 2561 รายได้ทั่วประเทศ 111.58 ล้านบาท

ล่าสุด.. หอแต๋วแตก “พจมานสว่างคาตา” วันที่เข้าฉาย 3 มิถุนายน พ.ศ. 2563 รายได้ทั่วประเทศ ยังต้องติดตามกันไปยาวๆ ว่าภาคนี้จะฟันรายได้ไปสักกี่สิบกี่ร้อยล้านบาท

 

ข่าวที่น่าสนใจ : 

3. เรื่องย่อก่อนชม “พจมานสว่างคาตา”

พจมานสว่างคาตา (2563) เป็นภาพยนตร์ภาคแยกของจักรวาล “หอแต๋วแตก” ที่ไม่เกี่ยวกับเนื้อเรื่องหลักและเป็นภาพยนตร์เปิดจักรวาลหอแต๋วแตก เป็นการตีความใหม่ของนวนิยายเรื่อง บ้านทรายทอง ว่าด้วยเรื่องราวสุดวายป่วงและสยองพองขนที่เริ่มต้นขึ้นเมื่อ พจมาน (โก๊ะตี๋ อารามบอย) สาวน้อยผู้เรียบร้อยน่ารักเดินทางจากบ้านนอกเข้ากรุงเทพฯ เพื่อมาเรียนหนังสือต่อตามความประสงค์ของบิดาที่สั่งไว้ก่อนเสียชีวิต

โดยให้พจมานไปอาศัยอยู่ที่คฤหาสน์บ้านดอกไม้ทอง กับครอบครัวของหม่อมอัมราภาแพรวพรรณนารายณ์ พรรณาโวหารสมานจิต (จาตุรงค์ โพธาราม) ซึ่งมีศักดิ์เป็นหม่อมป้า และแล้วเมื่อพจมานเดินย่างกรายเข้ามาอยู่ที่บ้านดอกไม้ทอง เธอก็ได้พบกับ เบ้อเริ่มเทิ่ม (เอกชัย ศรีวิชัย), หญิงจิ๊ดริด (ยิ่งศักดิ์ จงเลิศเจษฎาวงศ์), ชายน้อยหนึ่ง (วีรดิษฐ์ ศรีมาลัย) ที่มีร่างกายพิการ ขาเป๋ ปากเบี้ยว และเหล่าบรรดาคนรับใช้ที่คอยกลั่นแกล้งพจมานสารพัด

โดย แม่ช่อมณี (พชร์ อานนท์) หัวหน้าแม่บ้านซึ่งเป็นผู้กุมความลับสำคัญของบ้านดอกไม้ทอง เกี่ยวกับการร่วมกันวางแผนฆ่าพจมาน เพราะไม่อยากให้เธอมาแย่งมรดก แต่แผนการกลับล้มเหลวทุกคร้ัง จนกระทั่งจู่ๆ พจมานกลับลื่นตกบันไดลงไปตายเองต่อหน้าคนในบ้านเสียอย่างนั้น แต่แล้วท่ามกลางความสะใจและดีใจ หม่อมอัมราภาเพิ่งนึกได้ว่าพินัยกรรมจะเปิดได้ก็ต่อเมื่อคนในตระกูลอยู่ครบ

อีกทั้ง ชายกลาง (ชาลี ไตรรัตน์) กำลังจะเดินทางกลับมาจากต่างประเทศ ถ้าไม่มีพจมานก็เปิดพินัยกรรมไม่ได้ ดังนั้นแม่ช่อมณี หัวหน้าแม่บ้าน จึงได้แนะนำสาวสวยคนหนึ่ง (เขมนิจ จามิกรณ์)ให้เข้ามาสวมรอยเป็นพจมาน โดยสัญญาว่าจะมอบเงินก้อนโตให้เธอเอาไปเป็นค่ารักษาพยาบาลแม่ หลังจากสาวสวยนามแพนเค้กก้าวเข้ามาในบ้านพร้อมภารกิจพิเศษ ทุกคนในบ้านก็ต้องเผชิญหน้ากับผีพจมานตัวจริง! ที่คลั่งแค้นและตั้งใจหลอกหลอนทุกคนในบ้านจนสว่างคาตา

4. พชร์ อานนท์ ทำหนังทันกระแสสังคมเสมอ!

หนึ่งในเหตุผลที่ทำให้ภาพยนตร์ในจักรวาล “หอแต๋วแตก” ของผู้กำกับ “พชร์ อานนท์” เป็นกระแสโด่งดังทุกครั้งที่เปิดตัวหนังแต่ละภาค และมีบรรดาแฟนคลับโดยเฉพาะกลุ่มเพศทางเลือกรอคอยชมเสมอ นั่นอาจเป็นเพราะความรวดเร็วและเท่าทันต่อกระแสสังคม หยิบยกเอาเหตุการณ์สำคัญในสังคมไทยมาเป็นแก๊กในหนังได้อย่างกลมกลืนกลมกล่อมและที่สำคัญฮากระจายทุกครั้ง การเป็นตัวจริงยืนหนึ่งของเรื่องนี้ทำให้หนังของพชร์ อานนท์ ยังคงได้รับการตอบรับที่ดีของคอหนังตลกไทยอยู่เสมอ

ยกตัวอย่างการนำกระแสสังคมมาอยู่ในบทหนังเรื่อง “พจมานสว่างคาตา” เช่น มีการกล่าวถึงสถานการณ์โควิด, การรักษาระยะห่างทางสังคม, การใส่แมสก์ปิดปาก, การใช้เพลงซูเปอร์วาเลนไทน์ของนักร้องเจน นุ่น โบว์ รวมถึงการดึงคนดังที่กำลังอยู่ในกระแสสังคมมาร่วมแสดงในหนังด้วย เช่น แม่สิตางศุ์ตำนาน “ส้มหยุด” เป็นต้น (หนังเรื่องอื่นๆ ที่ผ่านมา ก็มีการดึงคนดังในกระแสสังคมมาร่วมรับเชิญในหนังเสมอ เช่น เทพพิทักษ์ แอสละ, น้องน้ำเต้า,โยชิ รินรดา)

อีกทั้งการทำหนังเรื่องล่าสุด “พจมานสว่างคาตา” เป็นการสร้างหนังในแบบ Spin-Off ครั้งแรก ซึ่งปรากฏว่าทำได้ดีทีเดียว (*หมายเหตุ: ในโลกภาพยนตร์ คำว่า spin-off หมายถึงหนังที่แตกหน่อใหม่จากเรื่องเดิม เช่น ใช้ตัวละครประกอบในเรื่องเดิมมาสร้างเป็นเรื่องใหม่)

5. คำวิจารณ์หนัง “พจมานสว่างคาตา” ดีเกินคาด!

มาถึงคำวิจารณ์เกี่ยวกับหนังใหม่เรื่องนี้กันบ้าง ซึ่งก็มีนักวิจารณ์หนังที่ได้เข้าไปชมภาพยนตร์ในรอบสื่อ และผู้ชมทั่วไปที่มีโอกาสได้เข้าไปชมแล้ว ต่างก็ออกมาแสดงความคิดเห็นกันมากมายหลากหลาย ดังนี้

“#พจมานสว่างคาตา (6/10) มันเละๆเทะๆ (คำชม) ตามสไตล์ genre หอแต๋วแตก หนังพชร์แนวนี้คือตลกเล่นใหญ่ที่ลงทุนนักแสดง costume CGI มาเต็ม โดยส่วนตัวชอบเรื่องนี้กว่าหอแต๋วแตกยุคหลังๆ เพราะบทมีความจับต้องได้มากกว่า มีที่มาที่ไปมากกว่า รวมถึงมุกตลกหลายเวิร์คกว่าวิ่งหนีผีเฉยๆ เหมือนภาคก่อนๆ”

“#พจมานสว่างคาตา พูดได้เต็มปากว่าหอแต๋วแตกยังดูสนุกกว่า เละเทะมาก การเอาแพนเค้กมาทำอะไรแบบนี้ มันเละยิ่งกว่าจับชมพู่มาเป็นเจ๊น้ำซะอีก ดูหาความบันเทิงยังหาไม่เจอ บทแต่ละคนแทบจะหาจุดดีไม่ได้ แต่ขอชื่นชมการแสดงของแพนเค้ก เล่นสุดตัวมาก แต่เสียที่มาผิดเรื่องไปหน่อย”

“#พจมานสว่างคาตา 8เต็ม10 หนังตลกสดใหม่สไตล์พจน์อานนท์กลับมาแล้ว หลังหอแต๋วแตกหลายภาคตลกไม่สุด มาคราวนี้จัดหนักจัดเต็ม แซวหนังนักแสดงตัวเองทั้งเรื่อง555 ขำจนปวดท้อง แพนเค้กคือสลัดคราบนางเอกเป็นคนเหี้ยได้สมจริงมาก! 555 บทดีกว่าทุกภาค มุกตลกอื่นๆตลกกว่าในหนังตัวอย่างมาก ควรดู”

“แมะแอนด์เดอะแก็งค์...ดูแล้วไม่ผิดหวังจิงๆๆ...ตบมุกกันได้ดี...เล่นได้ลื่นไหล...สวดยอดดด...ใครพลาดดด...จะคุยกับเค้าไม่รู้เรื่องน้าาา”

“#พจมานสว่างคาตา ภาคแยกของ #หอแต๋วแตก เป็นหนังที่น่าดูหลังจากเครียดกับการล็อกดาวน์ มันตลกที่ตัวละครหลักที่มีเสน่ห์ แต่หลายซีนก็พยายามอัดมุกมากไปหน่อยจนอึดอัด คอสตูมปังเหมือนเคย นั่งขำชุดทุกฉาก 7.5/10”

“#พจมานสว่างคาตา หนังแห่งการข้ามจักรวาลระหว่าง หอแต๋วแตก x บ้านทรายทอง คงเอกลักษณ์ความเป็นหนังพชร์ อานนท์ทุกประการ ทิ้งสมองไว้หน้าโรงแล้วสนุกไปกับมุกสดๆสไตล์แก Parody แบบไทยๆ มีขำก๊ากอยู่เรื่อยๆ แต่มุกแซวตัวแกเองฮาสุดแล้ว ล้ำสุดคงเป็นเสื้อผ้าที่น่าจะทุ่มงบไปมหาศาล”

“#พจมานสว่างคาตา คือ ภาคแยกในจักรวาลคู่ขนานของ #หอแต๋วแตก หยิบบ้านทรายทองมาเล่าจิกกัดใหม่ใส่ความตลกโปกฮาไร้สาระแบบพชร์ ไม่แฟนตาซีเอาฮาแบบภาคก่อน ๆ จึงดร็อปลง เน้นเล่าเรื่องกับมุก เพลง นักแสดงและคอสตูมคือจัดเต็มมาก ๆ ทุกคน (7/10)”

“#พจมานสว่างคาตา (6/10) ล้อ 'บ้านทรายทอง' แบบฉูดฉาด ด้วยโปรดักส์ชั่นที่กะเทยคิดกะเทยทำ ยังเป็นหนังที่บันทึกประวัติศาสตร์ ขำบ้างแห้งบ้าง แต่สิ่งหนึ่งที่ยังรู้สึกดีเหมือนเดิมคือ อนาคต 'หอแต๋วแตก' ยังไปได้อีกไกล จักรวาลนี้ยังไม่ถึงจุดจบ รักแก๊งเจ๊แต๋วกับแพนเค้กที่สุด”