จิบเครื่องดื่ม แกล้มขนม ท่ามกลางของสะสม บรรยากาศชิล ที่ ‘โบทานิก้า คาเฟ่’

เสียงเพลง Que Sera Sera ทำให้บรรยากาศในร้านราวกับหลุดไปอยู่อีกโลกหนึ่ง ……Que sera sera Whatever will be will be The future’s not Ours to see Que sera sera….

หมูหวานกับเพื่อนสาวรุ่นน้อง สั่งเครื่องดื่ม โบทานิก้าคอฟฟี่ (ชาเขียวมัจฉะ ผสมกาแฟเอสเพรสโซ่) และ Dark Orange (โกโก้ส้ม) ราคาแก้วละ 98 บาท มาจิบให้ชื่นใจดับกระหาย ก่อนไปเลือกขนมประจำวันที่วันนี้มี

ขนม โลลิต้า (125 บาท)เนื้อซอฟชีสเค้กเบาหวิวนุ่มสบายท็อปปิ้งด้วยวิปครีมสดและสตรอเบอร์รี่สดหอมหวานอมเปรี้ยว และ นิวยอร์คชีสเค้ก (89 บาท) นั่งชิล เม้าส์มอย ถ่ายรูปมุมนั้นมุมนี้กันอย่างเพลิดเพลินเช่นมุมเปียโนและมุมต่างๆของร้าน ชั้นสองของร้านมีที่นั่งหลายมุมให้เลือก บรรยากาศประดับประดาไปด้วยโคมไฟระย้าที่รู้จักกันในนามแซนเดอเรีย อันเป็นของสะสมของเจ้าของร้าน

คุณพี-ชัชวาล เที่ยงเจริญ เจ้าของร้านเล่าว่า  เริ่มจากสะสมของเช่นจาน ของตกแต่งบ้านจากเล็กๆไปหาใหญ่พอของเริ่มเยอะก็เลยสร้างร้านนี้ขึ้นมา อยากให้เป็นร้านที่นำของสะสมมาจัดตกแต่งแบบไม่มีกฏเกณฑ์ความเหมาะสมใดๆ เช่นนำไม้แดดมาแต่งด้านในร้าน ด้วยความที่เป็นคนชอบต้นไม้ก็เลยตกแต่งร้านเป็นสีเขียวไล่เฉด

“ผมเรียนด้านเสื้อผ้า จากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลกรุงเทพ แต่ไม่ได้ทำงานด้านเสื้อผ้า ไปทำงานเกี่ยวกับการตกแต่งบ้าน ตกแต่งคาเฟ่ จัดพร็อพ ก็เลยมีประสบการณ์ด้านนี้ งานที่ภูมิใจก็คือปีที่แล้วทำดีสเพลย์ให้กับแอร์เมส(Hermes) มีผลงานออกมาเรื่อยๆเช่นงานถัก งานคราฟที่เอามาเป็นบางส่วนของการตกแต่งร้านนี้เช่น แซนเดอร์เลียถักด้วยมือ มีหัวช้างถัดประดับที่ชั้น 2 ช่วงโควิดระบาดปิดร้านไปเกือบ 2 เดือน เพิ่งจะเปิดบริการใหม่อีกครั้งไม่กี่วันมานี้(ต้นเดือนมิถุนายน) ที่ผมเลือกทำเลนี้เพราะเป็นคนสำโรง ก็เลยอยากจะมาเปิดร้านแบบนี้นำความศิวิไลซ์แบบในกรุงเทพฯมาสู่ย่านนี้ เดิมที่นี่เป็นร้านเฟอร์นิเจอร์ 4 คูหาโล่งๆ เราก็มากั้นแล้วทำบันได ก็ทำไปเยอะเหมือนกัน อนาคตผมอยากจะเปิดชั้น 3 ทำเป็นเวิร์คช็อปงานคราฟด้วย”

เจ้าของร้านเล่าว่าการตกแต่งร้านอยากให้เป็นศิลปะแบบไร้รูปแบบ ไม่มีผิดไม่มีถูกเช่นนำถ้วยจานชองสะสมมากองสุมๆไว้ตรงนั้นตรงนี้ของร้าน นำต้นไม้ใหญ่ ต้นไม้เล็ก มีความวินเทจ โต๊ะไม้ ม้าหิน ฯลฯ นำของสะสมมา 3-4 ปีที่ไม่เข้ากันมารวมกัน

“การทำคาเฟ่ของผมอันดับแรกเลยคิดถึงภาพจำที่คนเดินเข้ามาในร้านแล้วจะต้องประทับใจ ไม่ได้คิดถึงเรื่องกาแฟเลย (หัวเราะ) เช่นเปิดประตูร้านเข้ามาจำตัวอักษร ‘All You Need is Wild’ เจอกระจกของเก่า มันผิดหลักการทำคาเฟ่ เพราะต้องคิดถึงเรื่องขนม เครื่องดื่มก่อน แต่ผมดันไปมองภาพรวมของร้านก่อน แล้วค่อยมาคิดถึงขนมที่ผมทำเอง ผมทำงานหลากหลายทั้งจัดร้าน เป็นสไตล์ลีส มองทุกอย่างเป็นศิลปะหมดเลย ไม่มีผิดไม่มีถูก บางอย่างไม่ควรแต่เรามองว่ามันเข้ากันได้ และผมก็ชอบกินขนม ตอนแรกให้เพื่อนรุ่นพี่ช่วยส่งมาให้ พอเริ่มมีโควิด-19 ระบาดผมก็เลยลองมาทำขนมเอง เพราะเราก็มีสูตรอยู่แล้ว ก็โอเคแฮะทำเองดีกว่า ขนมเราจะเป็นสไตล์โฮมเมด ตกแต่งให้สวยงามนิดหนึ่งตามประสบการณ์ที่เราไปพบเจอมา และผมเป็นคนกินขนมที่ไม่หวานก็เลยทำแบบนั้นออกมา แต่ก็จะมีจุดตัดกันเช่นขนมบางตัวกินกับผลไม้สดเข้ากัน บางตัวต้องกินกับวิปครีมแท้ๆ อย่างนิวยอร์คชีสเค้ก ความไหม้ของหน้าขนมก็กำลังพอดี เนื้อเค้กละเอียดนุ่มหวานน้อยก็เข้ากันดีกับเครื่องดื่มของทางร้าน” เจ้าของร้านเล่าต่อไปว่า

เลมอนทาร์ต เปรี้ยวนำหอมกลิ่นเลมอน มีขนมหมุนเวียนเปลี่ยนไปประมาณวันละ 10 เมนูเช่น แวร์ซายด์ (ราคา 180 บาท) เป็นขนมตัวแรกของทางร้านเป็นเค้กบัตเตอร์ 2 ชั้น มีสตรอเบอร์รี่สด ท็อปปิ้งด้วยเบอร์รี่ต่างๆ ประดับด้วยดอกไม้น่ารักสวยงาม  มีแยมสตรอเบอร์รี่กวนเอง เค้กเลมอน เป็นซิกเนเจอร์ ตัวเค้กมีความนุ่ม มัทฉะแครนเบอร์รี่ และ สโคน เสิร์ฟกับแยมสตรอเบอร์รี่ แยมมะยงชิดทำเองเป็นต้น อนาคตจะเสิร์ฟเมนูคาวอย่างพวกสปาเก็ตตี อาหารจานเดียวง่ายๆแนวฟิวชั่นฟู้ด เจ้าของร้านว่าอย่างนั้น

บลูเบอร์รี่ชีสเค้ก 

ส่วนเครื่องดื่มที่น่าสนใจยังมี หน่อบี่ (Nor Bi) เป็นกาแฟเอสเพรสโซ่ ผสมกับชาไทย และ แตงโมปลาแห้ง ทำขายเฉพาะฤดูร้อน ทางร้านนำแตงโมปั่นแล้วโรยด้วยปลาแห้ง

ผ่านไปย่านสำโรงเชิญแวะชิมกันได้นะคะ

ร้าน โบทานิก้า คาเฟ่ (Botanica Café)  เลขที่ 1120 ตำบลเทพารักษ์ อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ (รถไฟฟ้า BTS สถานีสำโรง ประตู 6) เปิดบริการเวลา 10.30 – 20.00 น. (หยุดวันพุธ) โทร. 08-1663-8884