บทสรุป ‘PS5’ กับ 5 ประเด็นคาใจเกมเมอร์
หลัง “Sony” (โซนี่) เปิดตัวเครื่องเกมคอนโซลรุ่นใหม่ “PlayStation 5” หรือ PS5 ไปแล้ว แม้วงการเกมทั่วโลกต่างฮือฮากับดีไซน์แห่งอนาคตสุดล้ำและสเปคขั้นเทพ แต่ยังมีประเด็นที่น่าสนใจและคาใจ รวมถึงราคาและแนวโน้มยอดขายว่าจะ “รุ่ง” หรือ “ร่วง”
ในงานชื่อว่า “Future of Gaming” หรือ อนาคตแห่งการเล่นเกม ที่จัดขึ้นช่วงเช้ามืดวันศุกร์ (12 มิ.ย.) ตามเวลาไทย เหล่าสาวก PlayStation และเกมเมอร์ทั่วโลกที่ชมการถ่ายทอดสดผ่านสตรีมมิง คงได้เห็นรูปโฉมเต็ม ๆ ของ PS5 คอนโซลตัวความหวังรุ่นใหม่ของ Sony กันไปแล้ว หลังตั้งตาคอยกันมานานนับปี และเป็นรุ่นต่อจาก PS4 ที่วางจำหน่ายเมื่อ 7 ปีก่อน
สำหรับโมเดลของ PS5 มี 2 รุ่น คือ Standard ที่สามารถใส่แผ่นเกมได้อย่างที่เกมเมอร์คุ้นเคยกัน และ Digital Edition ที่ไม่มีช่องใส่แผ่นเกม แต่สามารถดาวน์โหลดเกมมาเล่นแทน ซึ่งรุ่น Digital น่าจะถูกกว่ารุ่น Standard เล็กน้อย
นอกจากนี้ PS5 ยังมีอุปกรณ์เสริมไฮเทคเพียบ เช่น หูฟังไร้สายรองรับเสียง 3D, แท่นชาร์จคอนโทรลเลอร์ (จอย), รีโมตมัลติมีเดีย และกล้องระดับ HD สำหรับสายสตรีมเมอร์
- หน้าตา PS5 รุ่น Standard (ซ้าย) และรุ่น Digital Edition (ขวา) -
ส่วนเรื่องสเปคฮาร์ดแวร์ของ PS5 นั้นไม่ใช่แค่การอัพเกรดเล็กน้อยจากรุ่น PS4 แต่เป็นการยกเครื่องใหม่ทั้งเซ็ตตามที่ Sony เคยเปิดเผยไว้เมื่อเดือน เม.ย. ปีที่แล้ว เช่น CPU 8 Core ที่ยึดเอา 8x Zen 2 Cores at 3.5GHz ซึ่งมีเทคโนโลยีแบบ 7 nm Zen 2 มาเป็นฐานในการพัฒนา รวมไปถึงการประมวลผลกราฟฟิก AMD’s Radeon Navi และยังรองรับงานภาพที่ความคมชัดสูงสุด “8k” ด้วย
เดิมนั้น งานเปิดตัว PS5 มีกำหนดจัดขึ้นในวันที่ 4 มิ.ย. แต่หลังจากในสัปดาห์ที่แล้วเกิดการประท้วงต่อต้านการเหยียดเชื้อชาติในหลายประเทศ ซึ่งมีชนวนเหตุจากกรณี “จอร์จ ฟลอยด์” ชายชาวแอฟริกัน-อเมริกันถูกตำรวจผิวขาวในเมืองมินนิอาโพลิสของสหรัฐใช้เข่ากดคอจนขาดอากาศหายใจและเสียชีวิตขณะถูกจับกุม ทำให้ Sony ตัดสินใจเลื่อนงานนี้มาเป็นคืนวันที่ 11 มิ.ย.
เดือน ก.ย. 2562 Sony เผยว่า เครื่องเกมคอนโซลรุ่นใหม่จะเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น หากผู้เล่น 1 ล้านคนใช้ฟีเจอร์ประหยัดพลังงาน จะช่วยประหยัดไฟได้เท่ากับค่าเฉลี่ยการใช้ไฟฟ้าของบ้าน 1,000 หลังในสหรัฐ
- ราคาและวันวางจำหน่าย
Sony ยังคงยึดกำหนดการวางจำหน่าย PS5 ช่วงเทศกาลวันหยุดยาวปลายปีนี้ แต่ยังไม่ระบุวันเจาะจง ทำให้เกมเมอร์ยังคงต้องรอกำหนดการที่ชัดเจนกันต่อไป
และอีกประเด็นที่ยังเป็นปริศนาสำหรับคอเกมคือเรื่อง “ราคา” ของ PS5 ซึ่งทาง Sony ยังไม่ประกาศอย่างเป็นทางการในงานเปิดตัว แต่คาดกันว่า น่าจะแพงกว่ารุ่น PS4 อยู่พอสมควร โดย PS4 เปิดตัวในปี 2556 ด้วยราคาเริ่มต้นที่ 399 ดอลลาร์
เว็บไซต์บลูมเบิร์ก (Bloomberg) รายงานเมื่อกลางเดือน ก.พ. ที่ผ่านมา ว่า ต้นทุนการผลิต PS5 ต่อเครื่องอยู่ที่ราว 450 ดอลลาร์ ขณะที่ผู้ค้าปลีกรายหนึ่งในแคนาดาคาดว่า ราคาของ PS5 น่าจะอยู่ที่ประมาณ 410 ดอลลาร์
บรรดากูรูในวงการเกม คาดว่า Sony อาจยังคงคอนเซปต์ตั้งราคา PS5 ให้ถูกกว่าค่ายคู่แข่งอย่าง “Microsoft” (ไมโครซอฟท์) ที่จะวางจำหน่ายคอนโซลรุ่นใหม่ชื่อ “Xbox Series X” ปลายปีนี้เช่นกัน
- Xbox Series X คู่แข่ง PS5 -
บลูมเบิร์ก รายงานเมื่อกลางเดือน เม.ย. ว่า ราคาคอนโซลรุ่นล่าสุดของ Sony อาจสูงกว่าที่คาดไว้ก่อนหน้านี้ เนื่องด้วยสเปคขั้นสูง และบริษัทอาจวางจำหน่ายคอนโซลจำนวนน้อยลงในช่วงเปิดตัว เพราะราคาที่แพงขึ้นน่าจะทำให้ความต้องการในตลาดลดตามไปด้วย
Sony แจ้งกับบริษัทพาร์ทเนอร์ว่า มีแผนที่จะจำหน่าย PS5 จำนวน 5-6 ล้านเครื่องภายในเดือน มี.ค. 2564 ซึ่งจะเป็นจำนวนที่น้อยกว่ารุ่น PS4 ที่วางจำหน่ายในปี 2556 ขณะเดียวกัน การระบาดใหญ่ของโควิด-19 คงไม่ใช่ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการทำตลาดเครื่องเล่นเกมรุ่นใหม่
- รองรับเกมอะไรบ้าง
จนถึงขณะนี้มีเกมที่เล่นได้กับ PS5 มากกว่า 30 เกม โดย Sony เน้นว่า นี่เป็นแค่ข้อมูลบางส่วนเท่านั้น และมีการเผยชื่อเกม 25 เกมในงานเปิดตัวล่าสุดด้วย รวมถึงเกมขึ้นชื่อที่แฟน ๆ รอคอยอย่าง Godfall และ Spider-man โดยรายชื่อเกมที่น่าสนใจบางส่วนมีดังนี้
- Assassin's Creed Valhalla
- Battlefield 6 (2021) - Demon's Souls (remake)
- Gods and Monsters
- Godfall
- Gran Turismo 7
- Grand Theft Auto V (expanded and enhanced version)
- Hitman 3
- Horizon Forbidden West (sequel to Horizon Zero Dawn)
- NBA 2K21
- Oddworld: Soulstorm
- Pragmata
- Rainbow Six Siege- Ratchet & Clank: Rift Apart
- Resident Evil 8: Village
- Spider-Man: Miles Morales
- เล่นเกมเวอร์ชั่นเก่าได้ไหม
Sony เผยว่า ชิพประมวลผลของ PS5 ถูกออกแบบมาให้ทำงานร่วมกับระบบและฟีเจอร์ของคอนโซลรุ่น PS4 ทำให้ใส่แผ่นเล่นเกมเวอร์ชั่นเก่ากว่าได้ และยังรองรับ “เกมส่วนใหญ่” จากจำนวนกว่า 4,000 เกมใน PS4 ด้วย
อย่างไรก็ตาม เว็บไซต์ CNET วิเคราะห์ว่า ความแตกต่างของการนำเกมเวอร์ชั่น PS4 มาเล่นบน PS5 น่าจะเป็นเรื่องประสบการณ์การเล่นเกมที่เร็วและลื่นขึ้น แต่ยังไม่ชัดเจนว่าเกมรุ่นเดิมจะได้รับการปรับปรุงคุณภาพบนคอนโซลรุ่นใหม่โดยอัตโนมัติหรือไม่
- จอยแบบใหม่ทำอะไรได้บ้าง
เดือน เม.ย. ปีที่แล้ว Sony เผยโฉมคอนโทรลเลอร์หรือจอยรุ่นใหม่ชื่อ “DualSense” ที่จะจำหน่ายพร้อมกับคอนโซล PS5 หลังจากใช้ชื่อ DualShock กับจอยรุ่นก่อนหน้านี้ไปแล้วถึง 4 รุ่น
- คอนโทรลเลอร์ PS5 และแท่นชาร์จ -
สำหรับคุณสมบัติของจอยรุ่นล่าสุดนี้ จะรวมไปถึง
- ระบบสั่นแบบใหม่จากเดิมที่เป็นมอเตอร์หมุนมาเป็นแบบ Haptic Feedback ที่ให้มิติของการสั่นหลายระดับ
- ปุ่มกด L2 และ R2 แบบใหม่ที่เรียกว่า Adaptive Trigger คือมีแรงต้านในการกดปุ่มมากขึ้น ทำให้ได้ฟีลลิ่งใหม่ ๆ ในการเล่นเกม
- ไมโครโฟนที่ติดตั้งในตัวจอยทำให้พูดคุยระหว่างเล่นเกมได้โดยไม่ต้องพึ่งอุปกรณ์เสริม แต่ถ้าต้องการใช้หูฟังก็ยังทำได้เหมือนเดิม
- ปุ่ม Create ซึ่งอยู่ตำแหน่งปุ่ม Share ในจอยรุ่นเดิม โดย Sony จะเผยข้อมูลเพิ่มเติมในภายหลังแต่น่าจะมีลูกเล่นใหม่ ๆ นอกเหนือจากการแชร์ภาพและคลิปวิดีโอการเล่นเกม
- TouchPad ที่จะมีขนาดที่ใหญ่ขึ้นกว่าเดิมเล็กน้อย
- แนวโน้มยอดขายเทียบคู่แข่ง
แม้ว่าทั้ง Sony และ Microsoft จะยังไม่ประกาศวันวางจำหน่ายคอนโซลรุ่นใหม่ของตัวเองอย่างเป็นทางการ แต่บรรดานักวิเคราะห์ก็เริ่มคาดการณ์แนวโน้มยอดขายของ 2 ค่ายยักษ์ใหญ่กันแล้ว
บริษัทวิจัย Ampere Analysis (แอมเพียร์ อะนาไลซิส) คาดว่า คอนโซลจากค่าย Sony จะยังเป็นเบอร์ 1 ในตลาดต่อไป โดยยอดขาย PS5 จะอยู่ที่ 66 ล้านเครื่องภายในสิ้นปี 2567 หรือ 4 ปีข้างหน้า เทียบกับยอดขาย 37 ล้านเครื่องของ Xbox Series X จากค่าย Microsoft ภายในปีเดียวกัน
เพียร์ส ฮาร์ดิง-โรลล์ส ผู้อำนวยการฝ่ายเกมของ Ampere เผยว่า แม้คนในอุตสาหกรรมรู้สึกว่าตลาดคอนโซลเริ่มขาดแรงกระตุ้นแล้ว แต่เขายังเชื่อว่านวัตกรรมใหม่ ๆ เกี่ยวกับฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ และโมเดลธุรกิจ จะช่วยให้คอนโซลยังคงเป็นแพลตฟอร์มเล่นเกมหลักอย่างน้อยก็จนถึงรุ่นต่อไป
อย่างไรก็ตาม เขายังกังขาเรื่องการเติบโตในตลาดนี้ เห็นได้จากยอดขายรวมของคอนโซลทั้ง 2 ค่ายจากที่เคยทำยอดขายสูงสุด 179 ล้านเครื่องสำหรับ Xbox และ PlayStation 2 แต่รุ่นหลังจากนั้นกลับมียอดขายรวมร่วงลงเรื่อย ๆ ตั้งแต่ 171 ล้านเครื่องสำหรับ PlayStation 3 และ Xbox 360 จนเหลือ 157 ล้านเครื่องสำหรับ PS4 และ Xbox One (นับถึงเดือน มี.ค. ปีนี้)
ข้อมูลจาก StatCounter Global Stats ระบุว่า ในช่วง 1 ปี นับถึงเดือน พ.ค. 2563 PlayStation ของค่าย Sony ยังคงครองตลาดเครื่องเกมคอนโซลทั่วโลกในอันดับ 1 ด้วยส่วนแบ่งมากถึง 65.96% ส่วน Xbox จากค่าย Microsoft ครองส่วนแบ่งอันดับ 2 ที่ 33.47% ตามมาด้วย Nintendo ที่ไล่ตามอยู่ห่าง ๆ ที่ 0.57%
-------------------------------------------------
อ้างอิง: PlayStation, CNET, GamesIndustry