หายนะจริง...บนแผ่นฟิล์ม (2)
หนังเกี่ยวกับภัยพิบัติที่สร้างจากเรื่องจริง มีผู้สร้างไว้ตั้งแต่ยุคหนังเงียบ เมื่อโลกและสังคมมนุษย์ประสบภัยอันตราย ไม่ว่าจะเกิดจากฟ้าดินลงโทษ หรือภัยจากมือมนุษย์ด้วยกันเอง พวกมนุษย์ที่เหลืออยู่จึงต้องถอดบทเรียน และบันทึกไว้บนแผ่นฟิล์ม
เช่นเรื่องของ เรือไททานิค เรือสำราญที่ไม่มีวันจม ฉายานี้คนสร้างเรือเขาโฆษณาชวนเชื่อเอาไว้ ไททานิค มีผู้สร้างเป็นหนังมาตั้งแต่ยุคหนังเงียบ หนังสารคดีก็มี หนังการ์ตูนสั้นก็ทำ นักสร้างหนังเป็นพวกไวต่ออารมณ์ความรู้สึกของผู้คน เป็นสื่อแขนงหนึ่งที่ต้องทำให้เร็วราวกับออกข่าวออนไลน์ เมื่อเปรียบกับยุคนี้...
เมื่อเรือไททานิค จมลงในวันที่ 15 เมษายน ปี 1912 ภาพยนตร์เกี่ยวกับเรือจมเรื่องแรก Saved From The Titanic ก็ออกฉายหลังจากเหตุเรือจม 29 วัน เร็วมาก หนังความยาว 30 นาที นำแสดงโดยดาราที่รอดชีวิตจากเหตุเรือจมจริง ๆ ชื่อ Dorothy Gibson แสดงเป็นตัวเองในหนังเงียบไร้เสียง แสดงไปก็ร้องไห้ไปเมื่อนึกถึงโศกนาฏกรรมที่ตัวเองประสบ เนื่องจากหนังออกเร็วก็ทำให้คนที่รอดชีวิตมาได้ชมหนังเรื่องนี้ไปด้วย พวกเขาจะเศร้าขนาดไหนกันนะ น่าเสียดายว่าฟิล์มหนังเรื่องนี้ที่เก็บไว้ในสตูดิโอถูกไฟไหม้ไปหมด เหลือแต่ใบปิด
หนังไททานิค เป็น Disaster film ที่แสดงถึงความหายนะจากความประมาทของมนุษย์ มีผู้เสียชีวิต 1,514 คน ผู้รอดชีวิต 710 คน เป็นกรณีศึกษาและท้าทายคนสร้างหนังอยู่เหมือนกัน เพราะเหตุเกิดขึ้นจริง อยากหยิบมุมไหนมาสร้างได้หมด และมีหนังไททานิคหลายเรื่องสร้างกันเรื่อยมา เช่น Atlantic (1912) หรืออีกชื่อว่า Titanic: Disaster in the Atlantic หนังขาวดำความยาว 90 นาที อีกเรื่องที่นักดูหนังรู้จักคือ A Night to Remember (1958) ชื่อเดียวกันนี้ยังนำไปสร้างเป็นหนังทีวี สารคดีก็ทำกันหลายเรื่องหลายครั้ง และมักไปปรากฏอยู่ในหนังย้อนยุค หรือไปโผล่ในหนังย้อนเวลาแบบนั่ง Time machine เดินทางกลับไปอดีต แล้วไปอยูบนเรือไททานิค คนอนาคตเข้าไปในอดีตก็ต้องเตือนว่า เดี๋ยวเรือจะจมนะต้องหาทางหนี
ไม่ว่าเวลาผ่านไปแค่ไหน นักสร้างหนังยังคงหยิบเรื่องของไททานิคมาลงจอกันอย่างมิรู้เบื่อ รวมถึง Titanic เมื่อปี 1997 ของผู้กำกับพันล้าน James Cameron ทำหนังเรือล่มงบบาน 200 ล้านยูเอส ใคร ๆ ว่าเขาบ้าที่สั่งต่อเรือเสมือนจริง เล็กกว่าไททานิคเรือจริงแต่ก็เอาเรือนั้นไปลงทะเลแล้วถ่ายทำ คนคิดกันว่าลงทุนสูงขนาดนี้คงจะเจ๊งไม่คุ้มทุนเป็นแน่ หนังเปิดเรื่องด้วยเรือดำน้ำลงไปสำรวจหาซากเรือไททานิค ที่จมลงเมื่อปี 1912 หลังออกจากท่าเรือเซาธ์แทมป์ตัน ในอังกฤษ จะไปนิวยอร์ก เรือแล่นผ่านมหาสมุทรแอตแลนติกเหนือ แต่ออกจากท่าได้เพียง 5 วัน เรือชนกับภูเขาน้ำแข็ง ในที่สุดเรือก็ค่อย ๆ จมลงสู่ก้นมหาสมุทร กว่าจะมีการสำรวจพบซากก็นานถึง 73 ปี พบว่าซากเรืออยู่บริเวณชายฝั่งนิวฟาวด์แลนด์ ซึ่งดำดิ่งสู่ก้นทะเลลึกถึง 12,500 ฟุต หรือราว 600 กิโลเมตร ถ้านับถึงวันนี้ไททานิคก็นอนสงบนิ่งมานาน 108 ปีแล้ว นักวิทยาศาสตร์คาดว่าอีกสัก 10 ปี คงไม่เหลือซากจากการผุกร่อนของโลหะในน้ำทะเล ที่ทั้งลึก เย็น และมีแรงดันสูง James Cameron ยังไปทำหนังสารคดีไททานิคใน Ghosts of the Abyss ในปี 2003 อีกด้วย
ความหายนะต่อชีวิตมนุษย์บนเรือสำราญที่ไม่มีวันจมนี้ น่าจะติดอันดับความเสียหายที่โลกต้องจารึก แม้ถึงวันนี้ผู้รอดชีวิตจากเรือก็ไม่เหลือแล้ว เด็กที่อยู่บนเรืออายุต่ำสุด 9 เดือน ที่รอดชีวิตมาได้ ถ้ายังมีชีวิตอยู่ถึงวันนี้ก็ต้องอายุเกินร้อย และถึงอยู่ก็คงจำเหตุการณ์บนเรือไม่ได้ ในขณะที่ผู้รอดชีวิตกลับมาเขียนหนังสือหรือบอกเล่า เรื่องของเรือไททานิคจึงไม่มีวันจม
หลายคนรักเรื่องราวของเรือไททานิค ติดตามดูแม้ว่าเหตุการณ์ล่วงเลยมานานโขแล้ว ถ้าไปที่ประเทศไอร์แลนด์ ดินแดนนักต่อเรือ แนะนำให้แวะชม พิพิธภัณฑ์เรือไททานิค ที่กรุงเบลฟาสต์ ที่เปิดให้ชมเมื่อปี 2012 โดยออกแบบอาคารให้มีความสูงเท่ากับเรือไททานิค และหันหน้ามองเห็นอู่ต่อเรือ ภายในจัดแสดงภาพถ่ายห้องต่าง ๆ ภายในเรือ รวมถึงสร้างห้องต่าง ๆ เสมือนจริง มีจดหมาย ภาพถ่ายของผู้โดยสาร (ที่ติดตัวมากับผู้รอดชีวิต)
ดูเหมือนเรือสำราญไททานิคยังคงอยู่ในใจของทุกคน ถ้ามาจมแถวทะเลบ้านเราคงมีผู้รอดชีวิตอีกมาก เพราะน้ำไม่เย็นจัดจนทำให้อวัยวะภายในหยุดการทำงาน ส่งผลให้จบชีวิตอย่างรวดเร็ว และถ้าอากาศไม่หนาวคงไม่เกิดภูเขาน้ำแข็งให้เรือไปชน !
มันคือโชคชะตา ที่พาให้แจ็คกับโรสมาเจอกัน แล้วพรากจากกันบนเรือไททานิค...