'โหรฟองสนาน' เปิด 'ดวงเมือง' ช่วยกันตีฝ่าให้ถึงวันเกิดเมือง2564-เศรษฐกิจเริ่มขาขึ้น

'โหรฟองสนาน' เปิด 'ดวงเมือง' ช่วยกันตีฝ่าให้ถึงวันเกิดเมือง2564-เศรษฐกิจเริ่มขาขึ้น

"โหรฟองสนาน" เปิด "ดวงชะตาเมืองรัตนโกสินทร์" ช่วยกันตีฝ่าให้ถึงวันเกิดเมือง2564-เศรษฐกิจเริ่มขาขึ้น

โหรฟองสนาน จามรจันทร์   โพสต์ข้อความโดยระบุว่า  แม่หมอสมัครเล่นตอนที่330 โดยฟองสนาน จามรจันทร์
ตีฝ่าถึงให้วันเกิดเมือง2564-เศรษฐกิจเริ่มขาขึ้น

รูปที่ 1.ดวงชะตาเมืองรัตนโกสินทร์ และรูปจันทร์ล่าราหู 8 ศรีจร-และราหู 8 ศรีจรค้นทรัพย์ดวงเมืองสมัยลดค่าเงินบาท 2 พฤศจิกายน 2527

รูปที่ 2.ดวงชะตาเมืองรัตนโกสินทร์ และรูปจันทร์ล่าราหู 8 ศรีจร-และราหู 8 ศรีจรค้นทรัพย์ดวงเมืองระหว่าง 10 กันยายน 2563-29 มีนาคม 2565

159333484446

ก่อนอื่นขอย้ำอีกครั้งถึงภาพกว้างๆ ของเมืองว่า ตั้งแต่ประมาณ 10 กันยายน 2563 เป็นต้นไป จะเริ่มมีปรากฎการณ์อลวนสำคัญทั้งดี-ร้ายในเมือง(ดาวใหญ่เดินผิดปกติหลายดวง-บวกจันทร์ล่าราหูศรีจรและราหูศรีจรค้นทรัพย์ดวงมือง)ทั้งทางเศรษฐกิจ-การเมือง-ภัยพิบัติขนาดใหญ่จนบางระยะเหมือนเมืองถูกบีบ-คลาย-บีบสลับกันไป ถึงอย่างต่ำวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2564 เพื่อเดินหน้าสู่วันเกิดดวงเมืองที่ 21 เมษายน 2564 อันเป็นหมุดหมายของปีทางเศรษฐกิจที่สำคัญ

ขนาดราหูไม่เริ่มค้นทรัพย์-จันทร์ ยังไม่ล่าราหูดวงเมืองจริงเอาแค่เริ่มฉายหนังตัวอย่างอาการหนักหนาทางเศรษฐกิจอันเนื่องมาจากโรคระบาดใหญ่โควิด-19 (มฤตยูจร0เจ้าของภัยอาเพศทับลัคนาเมือง-โลก) ก็เริ่มปรากฏเป็นระยะๆตั้งแต่ต้นปี 2563 จนเดือดร้อนไปทุกหย่อมหญ้าทั้งด้านสุขภาพและกระทบเศรษฐกิจใหญ่หลวง


ขอสารภาพว่าเมื่อ 24 มิถุนายนที่ผ่านมาเมื่อคณะกรรมการนโยบายการเงิน หรือ กนง.ประเมินอัตราความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศปี 2563 ว่าจะติดลบร้อยละ 8.1 จากเดิมร้อยละ5.3 - เห็นชื่อทีมงานเศรษฐกิจพรรคพลังประชารัฐ-ผู้เขียนซึ่งอยู่ในวงการข่าวมาสามสิบปีเจอเรื่องทั้งดี-ร้ายของชาติมาหลายครั้งถึงกับสะดุ้งพลิกตำราโหร-ปูมโหรแทบไม่ทันว่าเมืองจะไปทางไหน? อะไรที่รอเมืองอยู่? แล้วสกัด-สรุปออกมาเป็นบทความตอนสุดท้ายเพื่อทำนายผลที่รอเมืองอยู่ท่ามกลางจันทร์ล่าราหู และราหูค้นทรัพย์เมือง ดังนี้

1.ทั้งปรากฎการณ์จันทร์ล่าราหูศรีจร และราหูศรีจรค้นทรัพย์เมืองรอบนี้ทั้งเรื่องร้าย-ดีจากพระราหูจะเกี่ยวกับเรื่องเศรษฐกิจเป็นมูลเหตุ(พระราหูศรีจร8เดินอยู่ในราศีพฤษภ ดินแดนของเศรษฐกิจ-การทำมาหาได้ของเมือง)

2.ประเด็นเศรษฐกิจที่ปรากฎแววด้านร้ายออกมาเป็นระยะๆทั้งก่อนหน้าและขณะนี้เช่นการที่เมื่อวันที่19มิถุนายน2563 ธนาคารแห่งประเทศไทยสั่งห้ามธนาคารพาณิชย์จ่ายปันผลเฉพาะกาลหรือซื้อหุ้นคืนเพราะการแพร่ระบาดของโควิด 19 มีความไม่แน่นอนสูงมาก ส่งผลกระทบรุนแรงต่อระบบเศรษฐกิจไทย ยังไม่รู้ว่าจะจบเมื่อไหร่ และจะจบอย่างไร จึงต้องสงวนเงินไว้เพื่อรักษาระดับเงินกองทุนของธนาคารเองได้เป็นกันชนรองรับผลกระทบที่เกิดขึ้นนั้นยังเป็นแค่หนังตัวอย่าง

3.หนังจริง-เหตุร้าย-หรือใหญ่จริงยังรอจะเกิดสักหนึ่งครั้ง โดยรอบนี้จะเริ่มตั้งแต่ประมาณ 10กันยายน 2563 เป็นต้นไป(พระราหู8ศรีจรเริ่มเข้าราศีพฤษภเริ่มถูกพระจันทร์ล่า-และพระราหูศรีจรก็เริ่มค้นทรัพย์ดวงเมืองไปพร้อมกัน-พร้อมปรากฎการณ์เมืองถูกบีบ)

4.ปรากฎการณ์ด้านร้ายรอบแรกคาดว่าจะเริ่มคลี่คลายประมาณ24 กุมภาพันธ์ 2564เป็นต้นไป(พระอังคาร3กาลิกณีจรดวงเมืองเริ่มเดินเข้าราศีพฤษภ-ได้มาตรฐาน-ปรเกษตร-ฤทธิ์ร้ายเสื่อมลง)

5.ผู้หลักผู้ใหญ่ของเมืองที่รับมือปรากฎการณ์รอบนี้ส่วนใหญ่พึ่งได้ พวกเขาจะทำในสิ่งที่ควรทำ-และต้องทำ(พระราหูมนตรีเดิม-หมายถึงผู้หลักผู้ใหญ่-ที่พึ่งของเมืองตามทักษาวันเกิดเมือง กำลังเป็นศรี-สิริมงคลจร) ตัวอย่างเช่นผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทยสั่งธนาคารพาณิชย์งดปันผลเฉพาะกาล ซื้อหุ้นคืน -กระทรวงทรัพย์ฯรับคนทำงานชั่วคราวหมื่นกว่าคน-กระทรวงพลังงานออกมาตรการช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจเช่นสำรวจขุดเจาะน้ำมันแก๊สฯลฯ

แต่ก็อีกนั่นแหละแม้จะเป็นศรีจร พระราหูก็คือพระราหูที่เป็นบาปเคราะห์ก่อนจะให้คุณงามความดีอะไรก็อาจจะต้องผ่านความยุ่งยากก่อนคือจะมีเรื่องใหญ่ให้เป็นประเด็น โดยเฉพาะอย่างยิ่งระวังการฉ้อราษฎร์บังหลวงที่เหมือนหวัง(ทำ)ดีแต่ประสงค์ร้าย หรือการใช้อำนาจเกินขอบเขตในเมือง(พระอังคารเป็นกาลกิณีจร)

ตั้งแต่ข้อ1-5ผู้เขียนขอยกเหตุการณ์ในอดีตมาเทียบเคียงอีกครั้ง ด้วยเหตุการณ์ในรัฐบาลพลเอกเปรม ติณสูลานนท์ อดีตนายกรัฐมนตรี-ดร.เสนาะ อูนากูล เป็นรองนายกรัฐมนตรี -คุณสมหมาย ฮุนตระกูล หรือปู่สมหมายเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ที่ขณะนั้นพระราหูเป็นศรีจร-ถูกจันทร์ล่า-และราหูก็ค้นทรัพย์เมืองแต่เมืองพึ่งพวกท่านได้

นั่นคือเมื่อเห็นว่าค่าเงินแข็งเกินไปรัฐบาลขณะนั้น จึงตัดสินใจลดค่าเงินบาทเมื่อวันที่ 2พฤศจิกายน2527ประมาณร้อยละ15จากประมาณ23เป็น28บาทต่อดอลล่าห์สหรัฐ

ผลคือรัฐบาลถูกถล่มทั้งเมือง จนเกิดเหตุการณ์ทหารใช้อำนาจเกินขอบเขต(พระอังคารเป็นกาลกิณีจร)ในคืนวันลอยกระทงเมื่อพลเอกอาทิตย์ กำลังเอกผบ.ทบ.ขณะนั้นออกอาการไม่พอใจแสดงความคิดเห็นคัดค้านรัฐบาลอย่างดุเดือด ผ่านสถานีโทรทัศน์ช่อง 5 และช่อง 7 ผลจึงกลับตลาปัตร สังคมหันมาหนุนรัฐบาลจนนำมาซึ่งการปลดผบ.ทบ.ในที่สุด


6.ผลทางเศรษฐกิจจากเหตุการณ์คืนลอยกระทงนั้นน่าสนใจมาก ผู้เขียนเองก็จำได้เลาๆ แต่ไปค้นดูพบคุณซูม หรือสมชาย กรุสวนสมบัติ ท่านเคยเขียนไว้ในไทยรัฐเป็นตำนานว่า เพียงปีเดียวจากเหตุการณ์วันลอยกระทงปี2527 พอวันลอยกระทงปี2528สัญญาณดีทางเศรษฐกิจเริ่มชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ ทั้งภาคส่งออก และท่องเที่ยว

คุณซูมสรุปว่าวันลอยกระทงปี2528จึงเป็นสนุกที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์คนออกมาเที่ยวกันครึกครึ้นเป็นการเริ่มนำประเทศสู่ความโชติช่วงชัชวาล เพื่อหวังเป็นเสือเศรษฐกิจตัวใหม่แห่งเอเชีย

7.ข้อมูลทางโหร(ตามรูปที่1.)คือแม้จันทร์จะล่าราหูและราหูจะค้นทรัพย์ดวงเมืองขณะเกิดเหตุการณ์วันลอยกระทง แต่เพราะพระราหู-มนตรีเดิมอันหมายถึงผู้หลักผู้ใหญ่ ของเมืองเป็นศรีจรหมายถึงสิริมงคล ขณะนั้นคณะครม.ของป๋าเพิ่งพาได้ทำสิ่งที่ต้องทำเพื่อเมืองคือตัดสินใจลดค่าเงินบาท

แม้จะยุ่งยาก-ถูกดดันขนาดหนักก่อน(เพราะพระราหูเป็นบาปเคราะห์) แต่ผลดีค่อยๆตามมาให้เริ่มได้เห็นเมื่อทักษาเมืองเปลี่ยนภูมิแล้วพระศุกร์(6)ซึ่งเป็นตัวแทนเศรษฐกิจและการทำมาหาได้ของประเทศเป็นศรีจรเมืองระหว่าง21เมษายน 2528-21เมษายน2529นั่นคือ

8.เพียงหนึ่งปีหลังเหตุการณ์คืนวันลอยกระทง2527 ปรากฎว่าปี2528เป็นปีที่ไทยเริ่มมีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจสูงที่สุดในโลกและเป็นไปยาวนานถึง2539 คิดเป็น 9.4% ต่อปีโดยเฉลี่ยแม้ในทางกรเมืองจะเปลี่ยนรัฐบาล-เปลี่ยนนายกรัฐมนตรีไปแล้ว

9.ข้อมูลทางโหร(ตามรูปที่2)คือขณะที่พระราหูจรเริ่มค้นทรัพย์เมืองรอบนี้ตั้งแต่10กันยายน2563เป็นต้นไปพระราหูเป็นศรีจรของเมือง

ครั้นตั้งแต่21เมษายน2564เป็นต้นไป-21เมษายน 2565พระศุกร์จะเป็นศรีจรของเมือง จึงเมื่อเทียบเคียงกับเหตุการณ์สมัยป๋าเปรมแล้วผู้เขียนเชื่อว่าหากคนในเมืองฟันฝ่าไปถึงอย่างต่ำ24 กุมภาพันธ์2564 แล้วไปให้ถึงวันเกิดดวงเมืองที่21 เมษายน 2564(ในไทยโพสต์เขียนผิดเป็น2556)แววดีทางเศรษฐกิจจะเริ่มเห็นและเมืองจะเริ่มไต่อันดับทางเศรษฐกิจไปเรื่อยเหมือนที่เคยเกิดเพราะฝีมือป๋าเปรม-คุณเสนาะ-ปู่สมหมาย

และนี่คือที่มาที่ไปที่ผู้เขียนตอบคำถามคุณวีระ ธีรภัทรานนท์เมื่อปลายปี2562ที่ถูกถามเรื่องเศรษฐกิจในรายการฟังหูไว้หูคือให้คนไทยฝันให้ไกล ฟันฝ่าตั้งแต่10กันยายน2563ไปให้ถึงวันเกิดเมืองที่21เมษายน2564ให้ได้เพื่อสู่ปีที่ดีเริ่มเห็นแววได้ไต่อันดับทางเศรษกิจเหมือนสมัยที่รัฐบาลพลเอกเปรม ติณสูลานนท์เคยทำไว้

ส่วนไต่ขึ้นแล้วจะไปถึงไหนก็ต้องว่ากันเป็นช่วงๆ-ปีๆไป

สุดท้ายชาวหุ้นถามกันมามาก ผู้เขียนก็เห็นว่าดัชนีมันก็ขึ้น-ลงทุกวันแต่มีตัวอย่างตัดตอนเฉพาะปีที่พระศุกร์เคยเป็นศรีจรของเมืองในรัฐบาลดร.ทักษิณ ชินวัตร ดัชนีตลาดหุ้นไทยเคยทำสถิติเพิ่มขึ้นมากที่สุดในโลกคือร้อยละ116 เมื่อเทียบกับวันเดียวกันของปีก่อนหน้า เหตุการณ์นี้เกิดเมื่อ31ธันวาคม 2546 ส่วนรอบนี้จะเป็นอย่างไรก็ดูกันเอาเอง

อ้อเมืองที่อยู่ในช่วงที่พระราหูเป็นศรีจรต่อด้วยศุกร์ศรีจรแบบนี้ ปลายปีนี้เราอาจได้เห็นบุคลากรทางเศรษฐกิจของเมืองสักคน-สองคนอาจโด่งดังไปต่างประเทศ เช่นในอดีตที่ดร.ศุภชัย พานิชภักดิ์ไปเป็นผู้อำนวยการใหญ่องค์การการค้าโลก

ฟองสนาน จามรจันทร์

26 มิถุนายน 2563