หายนะจริง...บนแผ่นฟิล์ม (3)

ไททานิค อาจไม่ใช่หายนะภัยที่ทำให้คนตายมากมายนัก ทว่าเป็นเรื่องที่ต้องบันทึก เช่นเดียวกับภัยพิบัติจากแผ่นดินไหว ภูเขาไฟระเบิด ดินถล่ม หิมะถล่ม และ สึนามิ ที่นับเป็นภัยธรรมชาติ (ลงโทษ) เกิดแต่ละครั้งก็กวาดชีวิตผู้คนจมหายไปมากมาย บอกให้รู้ว่า โลกที่มนุษย์อาศัยอยู่ผิว ๆ บนเปลือกโลกนั้น มีชีวิต โลกเคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลา เมื่อหายใจแรง ๆ ที หรือพลิกตัวสักหน่อยก็เกิดอุบัติภัยเป็นอนิจจัง

          

       Ewan McGreger ใน The Impossible (ภาพ  Warner Bros. Pictures)

อุบัติภัยจากธรรมชาติแต่ละครั้งเป็นบทเรียน บอกให้รู้ว่ายังไงก็ต้องเกิด มนุษย์จึงต้องหาทางป้องกัน แต่ใครจะกันอยู่ถ้าเราไปอาศัยอยู่บนอ่างน้ำร้อน หรือขอบกระทะที่มีน้ำเดือดอยู่ข้างใต้ หรือไปสร้างบ้านอยู่บนรอยแยกของเปลือกโลก แล้วก็เกิดแผ่นดินไหว ตามด้วยคลื่นสึนามิ ถ้าแผ่นดินมันไหวอยู่ใต้ทะเลสึนามิก็มาแน่ โดยสึนามิครั้งรุนแรงก็เพิ่งเกิดไปเมื่อปี 2004  ซึ่งชายฝั่งอันดามันของไทยก็โดนเข้าไปเต็ม ๆ

          

The Impossible (2012) ภาพยนตร์ที่สร้างจากเหตุการณ์จริง จำลองภาพสึนาพัดเข้าชายฝั่งอันดามัน ที่เขาหลัก บางคนเรียกหนังเรื่องนี้ว่า สึนามิ ภูเก็ต โดยผู้สร้างและผู้กำกับชาวสเปน จากเรื่องจริงของ Maria Belon คุณหมอชาวสเปน ไปเที่ยวเขาหลักกับสามีและลูกชาย 3 คน ลูคัส, ไซมอน, โทมัส แล้วเจอสึนามิเมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2004 พอมาสร้างหนังก็เปลี่ยนเป็นครอบครัวชาวอังกฤษในชื่อ Maria Bennett  เจ้าของเรื่องมาเรีย มีส่วนในการเขียนเรื่องราวและบอกว่าต้องให้ Naomi Watts แสดงเป็นตัวเธอ (แฟนคลับนาโอมิ) ส่วนบทพ่อโดย Ewan McGreger และลูกชายคนโต ลูคัส รับบทโดยหนุ่มสไปดี้ Tom Holland ตอนรับบทนี้ยังเป็นเด็กน้อยผอมก๊องแก๊ง แสดงดีจนได้รางวัลจากหลายสถาบัน แววดาราออกนับแต่นั้น

          

สึนามิ ที่เขาหลักเกือบทำให้ครอบครัว Belon ต้องพรากจากกัน แต่ก็มาเจอกันได้จึงเป็นเรื่องที่ “เป็นไปไม่ได้” หนังเรื่องนี้ดูไปน้ำตาไหลไป โดยเฉพาะคนที่ไปเจอเหตุการณ์คลื่นยักษ์มาจริง ๆ หนังลงทุน 45 ล้านยูเอส ทำรายได้ถึง 198.1 ล้านยูเอส โดยฉากคลื่นถาโถมรีสอร์ทที่เต็มไปด้วยชาวต่างชาติมาพัก ถ่ายทำในสตูดิโอในสเปนและในประเทศไทยด้วย หลังคลื่นซัดทุกสิ่งก็กลายเป็นทะเลโคลน เต็มไปด้วยสารพัดซาก ตัวของ Maria ก็บาดเจ็บเช่นเดียวกับในหนัง คือโดนสายน้ำพัดไปกระทบกับเศษซากต้นไม้ บาดเจ็บเกือบตาย ต้องใช้เวลารักษาร่างกายถึง 2 ปี Tom Holland เองก็บอกว่าฉากถ่ายเศษซากความเสียหายดูสมจริง น่ากลัวมาก

สึนามิครั้งนี้ เว็บไซต์ National Geographic จัดว่าเป็นครั้งร้ายแรง ทำให้คนตายมากที่สุด แผ่นดินไหวขนาด 9.1 แมกนิจูด นอกชายฝั่งสุมาตรา ทำให้คลื่นสูง 30 เมตร พัดเข้าไปในแผ่นดินลึกถึง 5 กิโลเมตร รุนแรงที่สุดเพราะส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตราว 230,000 คน

         

       เบื้องหลังการถ่ายฉากคลื่นสึนามิ (ภาพ Warner Bros Pictures)

สงสัยว่าทำไมสร้างหนังช้าจัง เหตุเกิดมาหลายปีแล้ว หรืออาจอ่อนไหวหากมาเป็นเรื่องจริงบนแผ่นฟิล์ม เพราะผลกระทบต่อชีวิตผู้คนมากกว่าเหตุเรือล่มอย่างไททานิคมากนัก ในประเทศญี่ปุ่นก็มีหนังเกี่ยวกับสึนามิหลายเรื่อง เพราะตั้งอยู่บนแอ่งกระทะ ที่มีบ่อน้ำร้อนออนเซ็น แต่ข้างใต้นั้นพร้อมจะเกิดทั้งแผ่นดินไหวและสึนามิ

          

           The Wave (ภาพ Nordisk Film)

ภาพยนตร์เกี่ยวกับสึนามิอีกเรื่อง  จากผู้สร้างชาวนอร์เวย์   The Wave (2015)  เรื่องจริงจากเหตุเกิดคลื่นยักษ์บ่อยครั้งในบริเวณเกร์แรงเจอร์ ฟยอร์ด อ่าวเล็ก ๆ ริมทะเลในนอร์เวย์ เกิดสึนามิเท่าที่บันทึกมาตั้งแต่ปี 1905, 1934, 1936 คนตายประมาณ 200 คน คนแถวนั้นไม่เยอะ และเป็นสึนามิที่เกิดมาจากการยุบตัวของแผ่นดิน ทำให้ดินหรือหินขนาดยักษ์ถล่มลงบนอ่าว ส่งผลให้เกิดคลื่นสึนามิ ในขณะที่สึนามิส่วนใหญ่เกิดจากเปลือกโลกใต้ทะเลยุบตัวเป็นร่องลึก ทำให้น้ำทะเลไหลลงไป น้ำทะเลที่อยู่ข้าง ๆ กันที่มีระดับสูงกว่าจะไหลเข้ามาแทนที่  น้ำชนน้ำเกิดแรงปะทะกันอย่างรุนแรงส่งผลให้เกิดคลื่นสะท้อนกลับทุกทิศทาง

The Wave เล่าเรื่องของนักธรณีวิทยาที่สังเกตเห็นการเคลื่อนตัวของแผ่นหิน ทั้ง ๆ ที่มีเครื่องมือตรวจจับตลอด 24 ชั่วโมง มีอุปกรณ์ทันสมัยพร้อมการเตือนภัยให้ขึ้นไปอยู่บนที่สูง ภายใน 10 นาที หนังเรื่องนี้มีมูลเหตุจากเรื่องจริง ทุนสร้าง 6 ล้าน ทำเงินได้ 12.8 ล้านยูเอส เอฟเฟคต์ไม่ตระการตาเหมือนหนังฮอลลีวู้ด แต่ก็มีอารมณ์ให้ลุ้นแบบหนังหนีหายนะภัย

ไม่มีใครอยากให้เกิดภัยพิบัติ แต่ธรรมชาติก็มักให้บทเรียนกับพวกมนุษย์อยู่เสมอ...