'It’s Okay to not be Okay' ตอน...นิทานเด็กแนวดาร์ก
เรื่องซับซ้อนซ่อนปมในซีรีส์เกาหลีที่แฟน ๆ พากันฟินจิกหมอน... 'It’s Okay to not be Okay' กำลังเข้มข้นขึ้นเรื่อย ๆ แผลในใจกำลังรอวันเยียวยา ปมลึกในจิตจะคลี่คลายได้มั้ย...
เมื่อตัวละครแทบทุกตัวดูเต็มไปด้วยปมหม่นเศร้า พระเอก คิม ซู ฮยอน รับบท มุน คัง แท น้องชายที่คอยดูแลพี่ชายออทิสติก นางเอก ซอ เย จี รับบทนักเขียนนิทานเด็ก โก มุน ยอง ที่มักเขียนนิทานแนวดาร์ก แล้วตัวเธอเองก็พยายามยึดสายดาร์ก ทำตัวเป็นนางร้าย เย่อหยิ่ง เย็นชา ไม่แคร์โลก แสดงเป็นสาวมั่นเพื่อปกปิดบาดแผลในใจ
ซีรีส์เกาหลีเดินเรื่องสนุก วางพล็อตดี ซ่อนแง่คิด ตัวละครไม่ใช่มีเพียงขาวกับดำ เป็นสีหม่นปนเทา ไม่เหมือนละครไทย ร้ายเป็นร้าย นางเอกแสนดี พระเอกก็จะโง่ตลอดทั้งเรื่อง (มาฉลาดตอนท้ายเรื่อง) เมื่อนางเอกเรื่องนี้เป็นนักเขียนนิทาน เธอก็ต้องทำงานกับนักวาดภาพประกอบ โดยหนังสือนิทานที่เธอแต่งไม่ได้มีภาพการ์ตูนสีสดใสแบบนิทานเด็กที่ผู้ใหญ่อ่านให้ฟังก่อนนอน แต่เป็นภาพลายเส้นยุ่งเหยิง สีหม่นมืด คล้ายลายเส้นในหนังแอนิเมชั่นของ Tim Burton ฉะนั้น หนังสือนิทานเด็กในเรื่องนี้ก็จะเต็มไปด้วยภาพลายเส้นยุ่งขิง สีดำมืด และพล็อตเรื่องที่อาจไม่เหมาะอ่านให้ลูกน้อยฟังก่อนนอน แต่อย่างไรก็ตาม นิทานก็มักจบด้วยเนื้อเรื่องที่คนอ่านและคนฟังสมหวัง แม้จุดเริ่มต้นจะหม่นมัว...
Netflix ชวนคุยกับนักวาดรูปประกอบในนิทานของโก มุน ยอง Jamsan (ซัมซัน) เจ้าของลายเส้นนิทานสายดาร์กของนางเอก ในขณะที่นางเอกเปิดคลาสวรรณกรรมให้กับคนไข้ในโรงพยาบาลจิตเวชรื่นรมย์ โดยนำนิทานคลาสสิกจากนานาชาติ เป็นตัวอย่างให้คนเรียนรู้จักและทำความเข้าใจถึงเบื้องหลังของนิทานที่บางครั้งก็ไม่ได้สนุกสดใส
อาจารย์โก มุน ยอง บอกว่า “นิทานคือโลกแฟนตาซีที่แสนโหดร้าย ที่วาดให้ขัดกับความป่าเถื่อนรุนแรงของโลกความเป็นจริง”
เช่น คติสอนใจของนิทานเจ้าหญิงเงือกน้อยคือ ถ้าหมายตาชายที่มีคู่หมั้นแล้ว จะได้รับโทษจากสวรรค์… ลูกเป็ดขี้เหร่ เลี้ยงลูกคนอื่นเสียเวลาเปล่า เลี้ยงลูกตัวเองให้ดีเถอะ” และด้วยความแตกต่างในการสอนนี่เอง ที่ทำให้นักเรียนต่างรอคลาสเรียนในทุกสัปดาห์
โก มุน ยอง และนักอ่านนิทานทั่วโลก คงรู้ว่า เนื้อเรื่องดั้งเดิมของนิทานและเทพนิยายบางเรื่องนั้นยิ่งกว่าเจไดสายดาร์ก ไม่สนุกสดใสแฮปปี้เอนดิ้ง อย่างที่ดิสนีย์ เอาไปสร้างเป็นหนังหรอกนะ เช่น หนูน้อยหมวกแดง เรื่องดั้งเดิมเป็นนิทานพื้นบ้านอิตาลี เล่าว่าหนูน้อยไม่ได้น่ารักหรอก แต่รำคาญคุณยายคนแก่ จึงเรียกหมาป่ามากินคุณยาย หรือพิน็อคคิโอ ก็ใจคอโหดร้ายกว่าในหนังการ์ตูน หนูน้อยผมทองโกลดี้ล็อคส์ (Goldilocks) แอบเข้าบ้านหมีไปกินอาหารของเขา แล้วก็ถูกหมีขย้ำตาย เงือกน้อย ก็ถูกเจ้าชายสลัดรักเลยแค้นฝังหุ่น กลับไปแก้แค้นแล้วตัวเองก็ตายกลายเป็นฟองน้ำ ยังมีอีกหลายเรื่องที่จบด้วยโศกนาฏกรรม แต่พอเอามารีเมคใหม่ ตีพิมพ์ใหม่ สร้างเป็นหนัง ก็อยากให้เด็กดูได้ ผู้ใหญ่ดูดี ก็ต้องจบแบบโลกสวย...
นักวาดภาพประกอบนิทาน Jamsan บอกกับ Netflix ว่า “ปีที่แล้วผมได้ทำงานกับผู้กำกับพัคชินอูผ่านเรื่อง Encounter ตอนนั้นผมทำงานย่อเรื่องสั้นละครผ่านบทนำและบทส่งท้าย พอมาถึงซีรีส์ It’s Okay to not be Okay เมื่อได้อ่านนิทานเด็กน้อยซอมบี้ และเด็กชายผู้โตมากับฝันร้าย ถึงจะเป็นเทพนิยาย แต่ผมรู้สึกว่าไม่เหมาะสำหรับเด็กแต่เหมาะสำหรับผู้ใหญ่ ผมจึงเน้นไปที่การถ่ายทอดผลงานให้สื่อสารกับกลุ่มผู้ใหญ่ได้ โดยส่วนตัวแล้วผมอยากลองทำงานภาพในโทนสีที่ดูน่ากลัวหรือภาพของซอมบี้อะไรแบบนี้อยู่แล้ว
ตอนนี้ผมหันมาสนใจเทพนิยายที่โหดร้าย แฟนตาซีและเรื่องที่ไม่สมจริง แต่เราสามารถพบเจอได้ในความเป็นจริง บางครั้งความเป็นจริงก็เกินกว่าที่เราจะจินตนาการไปถึงได้ บางครั้งมีความจริงที่น่าเศร้าใจมากมาย สิ่งเหล่านี้ก็สามารถถ่ายทอดออกมาเป็นภาพวาดแฟนตาซีได้”
นิทานแนวดาร์ก ฝากแง่คิดไว้ เช่น การยอมรับความจริงที่แม้ว่าจะโหดร้าย แล้วเปลี่ยนให้มันเป็นพลังที่ทำให้เราแข็งแกร่งมากขึ้น เพราะท้ายที่สุด มันไม่มีหรอกที่ใครจะเติบโตมาอย่างเจ้าหญิงหรือเจ้าชายในนิทานที่ไม่เคยมีเรื่องทุกข์ร้อนหมองเศร้า
คนดูจะพบกับนิทานที่ปรากฏในซีรีส์ ตอนใกล้จะจบนี้มี 3 เล่มคือ เด็กชายผู้โตมากับฝันร้าย, เด็กน้อยซอมบี้ และ เจ้าหมาในวันใบไม้ผลิ ที่มีวางขายจริงในประเทศเกาหลีแล้ว แล้วถ้าวิเคราะห์หนังสือนิทานเหล่านี้ ตามแบบที่นางเอกสอน ก็จะรู้ว่าเป็นนิทานที่ไม่มีภาพสว่างสดใส อ่านและดูภาพประกอบก็อาจน้ำตาซึมได้ง่าย ๆ
เช่น เด็กชายผู้โตมากับฝันร้าย เด็กผู้ชายคนหนึ่งที่กลัวการฝันร้าย จนต้องไปร้องขอให้แม่มดช่วยลบความทรงจำเลวร้าย เมื่อเด็กชายเติบโตขึ้นเขาก็ไม่ฝันร้ายอีกเลย แต่ความสุขของเขาก็หายไปด้วย จนวันที่แม่มดปรากฏตัวเพื่อเอาวิญญาณเขาไปเป็นการแลกเปลี่ยน ชายหนุ่มร้องถามว่าทำไมเขาถึงไม่มีความสุขแบบนี้ แม่มดตอบว่า คนที่เก็บความทรงจำอันเลวร้ายทุกข์ทรมานเหล่านี้ไว้ในใจ และยังมีชีวิตต่อไปต่างหากที่จะแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น ทั้งยังมีความสุขได้ แต่ถ้าเธอผ่านมันไปไม่ได้ ก็ยังคงเป็นแค่เด็กน้อยที่ไม่รู้จักเติบโต
เด็กน้อยซอมบี้ เด็กชายคนหนึ่งที่เกิดมาแตกต่างจากคนอื่น ความหิวโหยที่มีตลอดเวลา ทำให้แม่ต้องขังเขาเอาไว้ในห้องใต้ดิน แต่ละวันต้องคอยหาอาหารมาให้ จนเมื่อไม่มีอะไรจะให้ลูกชายกินแล้ว แม่ก็ยอมยกแขนขาให้เขากินเป็นอาหาร จนเมื่อเหลือแต่ตัว แม่ก็กอดเด็กชายไว้เป็นครั้งสุดท้าย และยอมให้เขากิน เด็กน้อยซอมบี้ได้พูดขึ้นเป็นครั้งแรกว่า “แม่ช่างอบอุ่น” ซึ่งสะท้อนความหมายแฝงที่ว่า จริง ๆ แล้วสิ่งที่เด็กน้อยต้องการคืออาหาร หรือความรักความอบอุ่นจากแม่กันแน่
อย่างที่โก มุน ยอง พูดเอาไว้ในคลาสว่า “นิทานไม่ใช่ยากดประสาทที่ช่วยมอบความหวังและความฝัน แต่เป็นยากระตุ้นให้เผชิญความจริง”
It’s Okay to Not Be Okay เรื่องหัวใจไม่ไหวอย่าฝืน ใกล้จบแล้ว ชมได้วันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 21.00 น. ทาง Netflix