จับตา 4 เทรนด์ ‘สุขภาพ’ มาแรงปี 2020 เทรนด์ไหนใกล้ตัวคุณ?
ส่องเทรนด์ "สุขภาพ" มาแรงในปี 2020 โดยเฉพาะสิ้นปีนี้สังคมไทยกำลังจะก้าวสู่ "สังคมผู้สูงอายุ" อย่างเต็มรูปแบบ ดังนั้นเทรนด์สุขภาพในปีนี้จึงมีความแตกต่างจากปีที่ผ่านๆ มา
รู้หรือไม่? ประเทศไทยมีศูนย์ดูแล "สุขภาพ" แบบองค์รวมอยู่หลายแห่งในประเทศไทย และมีมานานแล้วแต่ไม่ค่อยเป็นที่รู้จักในวงกว้างเท่าไหร่ อาจเป็นเพราะสมัยก่อนการตรวจสุขภาพในเชิงลึกมีราคาแพงถึงหลักแสน แต่ปัจจุบันนี้มีศูนย์สุขภาพแบบองค์รวมที่คุณสามารถตรวจได้ในราคาที่ถูกลง
ยกตัวอย่างเช่น ศูนย์สุขภาพ W9 Wellness Center ของโรงพยาบาลพระราม 9 ที่เปิดคอร์สตรวจ "สุขภาพ" เชิงลึกในราคาที่พนักงานออฟฟิศสมัยนี้เข้าถึงได้ง่ายๆ โดยราคาเริ่มต้นที่ 2,800 บาทต่อหนึ่งการตรวจ(เช่นการตรวจภูมิคุ้มกันของร่างกายเฉพาะบุคคล เป็นต้น) นอกจากนี้ยังมีการตรวจหลายคอร์สที่มุ่งการดูแลสุขภาพตั้งแต่รากฐาน ตามหลักการ Functional Medicine คือการตรวจและดูแลสุขภาพแบบเชิงรุก เพื่อป้องกันการเกิดโรคร้ายในอนาคตเมื่ออายุมากขึ้น ซึ่งการดูแลสุขภาพในวิธีดังกล่าวถือเป็นหนึ่งใน "เทรนด์สุขภาพ" ที่กำลังมาแรงในปี 2020
- เทรนด์สุขภาพยุค 2020 ที่ควรรู้และตามให้ทัน!
นายแพทย์พิจักษณ์ วงศ์วิศิษฐ์ ผู้อํานวยการศูนย์ดูแลสุขภาพแบบองค์รวม W9 Wellness Center เผย เกี่ยวกับ 4 เทรนด์ Wellness หรือเทรนด์การสร้างสมดุลความสุขชีวิตทุกด้าน ประกอบด้วย
1. เทรนด์สังคมสูงวัย
ปัจจุบันประเทศไทยกําลังจะก้าวสู่สังคมสูงวัยเต็มรูปแบบ โดยคาดว่าในปี 2564 จะมีประชากรอายุ 60 ปีขึ้นไปเป็น จํานวนถึง 20% ของจํานวนประชากรในประเทศ ในขณะที่ประชากรวัยทํางานมีอัตราลดลงอย่างต่อเนื่อง เช่นเดียวกับ อัตราการเกิดใหม่
2. เทรนด์อายุยืนด้วยคุณภาพชีวิตที่ดี
ผู้คนสุขภาพดีอายุยืน สามารถใช้ร่างกายได้ดีตามวัย สามารถทํางานและช่วยเหลือตัวเองได้ โดยได้หันมาให้ความสําคัญกับการดูแลสุขภาพ ความเป็นอยู่ และจิตใจของ ตัวเอง เนื่องจากตระหนักว่าการมีอายุยืนแต่อุดมไปด้วยโรคเป็นสิ่งไม่พึงปรารถนา เพราะจะเป็นภาระต่อครอบครัวและ สังคม
3. เทรนด์โภชนาการเฉพาะบุคคล
คนสมัยนี้สนใจหาความรู้และให้ความสําคัญกับการดูแลโภชนาการเพิ่มมาก ขึ้น เลือกรับประทานอาหาร สร้างความสมดุลเฉพาะบุคคลมากขึ้น
4. ผู้บริโภคสนใจและใส่ใจสุขภาพเชิงรุก
โดยเฉพาะคนยุคใหม่กลุ่มยุคมิลเลนเนียล และเจเนอเรชั่นวาย มีการหาข้อมูลเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพเชิงลึก ทั้งในเรื่อง การบริโภคอาหาร การออกกําลังกาย การควบคุมน้ําหนัก ฯลฯ มากขึ้น ประกอบกับปัญหามลภาวะฝุ่น PM 2.5 และการ เกิดโรคอุบัติใหม่เชื้อไวรัสโคโรนา (โควิด-19) เป็นอีกตัวแปรสําคัญที่เข้ามากระตุ้นผู้คนให้หันมาให้ความสําคัญกับเรื่องดังกล่าวมากยิ่งขึ้น
- ประโยชน์ของการดูแล "สุขภาพ" แบบ Functional Medicine
การดูแลสุขภาพผ่านการตรวจร่างกายเชิงลึกแบบ Functional Medicine เป็นการสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับทางเลือกของการมีสุขภาพที่ดี เพื่อตอบสนองการใช้ชีวิตที่หลายหลาย และเป็นการมุ่งเน้นดูแลสุขภาพองค์รวมโดยมีการออกแบบเฉพาะเจาะจงให้เหมาะกับร่างกายของแต่ละบุคคล โดยใช้เทคโนโลยีทางการแพทย์สมัยใหม่ เข้ามาประยุกต์ใช้กับการป้องกันสุขภาพเชิงรุก เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการดูแลสุขภาพ รวมไปถึงการรักษาและฟื้นฟูสุขภาพที่ได้ผลดียิ่งขึ้น เพื่อลดโอกาสเจ็บป่วยและลดการใช้ยา
โดยการให้บริการ Wellness ที่ดูแลสุขภาพแบบองค์รวม (Holistic) จะประกอบด้วยหลักการดูแล 4 Ps คือ
- Preventive : มุ่งเน้นที่การป้องกันก่อนการเกิดโรค
- Predictive : ใช้การตรวจวิเคราะห์ทางห้องปฏิบัติการที่แม่นยําในระดับเซลล์ โดยคํานึงถึงปัจจัยทางพันธุกรรมและสิ่งแวดล้อมร่วมกัน นํามาวิเคราะห์หาต้นตอปัญหาที่แท้จริง โดยคนไทยจะได้รับคำแนะนำและจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในการออกแบบโปรแกรมดูแลสุขภาพเฉพาะบุคคลผ่านการตรวจสุขภาพเชิงลึก ทั้งการตรวจด้านพันธุกรรม ฮอร์โมน วิตามิน และสารพิษในร่างกาย
- Personalized : ออกแบบการดูแลสุขภาพเฉพาะบุคคล โดยใช้ข้อมูลเชิงลึก
- Participatory : ประกอบการให้คําปรึกษาโดยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านเวชศาสตร์ป้องกัน ที่เน้นการมีส่วนร่วม ระหว่างแพทย์กับคนไข้ ปรับเปลี่ยนทัศนคติว่าการดูแลสุขภาพก่อนเกิดโรคเป็นเรื่องที่ทําได้เอง ทําได้ง่าย และทําได้จริง เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพการดูแลรักษาสูงสุด
- แพทย์เผย 6 ปัญหาสุขภาพคนไทยที่พบมากที่สุด
จากการเปิดให้บริการดูแลสุขภาพองค์รวม W9 Wellness Center มาเป็นเวลา 1 ปี นายแพทย์พิจักษณ์ พบว่าคนไทยที่มาใช้บริการกว่า 80% มาด้วยปัญหาสุขภาพหลักๆ 6 ปัญหา โดยเบื้องต้นพบสาเหตุจากการใช้ชีวิตที่ไม่สมดุล ทั้งจากการรับประทานอาหารการทํางานหนัก การพักผ่อนไม่เพียงพอ ความเครียด สะสม ฯลฯ ซึ่งล้วนส่งผลต่อการทํางานที่ผิดปกติของระบบการทํางานพื้นฐานต่างๆ ของร่างกาย จนอาจเสื่อมสภาพก่อนเวลาอันควร โดยที่ผ่านมา (ก่อนช่วงเกิดโควิด-19) คนไทยเข้ามาปรึกษาปัญหาสุขภาพ 6 ข้อ ดังนี้
1. ปัญหานอนไม่หลับและมีความเครียด 19.34%
2. ปัญหาผิวและริ้วรอย 19.34%
3. ปัญหาน้ําหนักตัว 18.4%
4. การเสริมภูมิคุ้มกัน 15.57%
5. ปัญหาฮอร์โมน 14.62% และ
6. ความกังวลเกี่ยวกับมะเร็ง 12.73%
นอกจากนี้ ในช่วงที่ไวรัสโควิด-19 แพร่ระบาด พบสถิติคนไทยมาปรึกษาเกี่ยวกับการเสริมภูมิคุ้มกันเพิ่มขึ้นเป็น 20.65% แสดงให้ เห็นว่าคนไทยตระหนักถึงการดูแลสุขภาพมากขึ้น และมาปรึกษาด้วยปัญหานอนไม่หลับและมีความเครียดเพิ่มขึ้นเป็น 20.05% สองปัญหาสุขภาพขยับขึ้นมาเป็น 2 อันดับแรกที่ผู้มาใช้บริการเข้ามารับคําปรึกษาในช่วงนี้ด้วย