‘โดโด้-ยุทธพิชัย’ วัยซิลเวอร์ก็ 'แอดเวนเจอร์' ได้
ตามติดชีวิต 50 STRONG ของอดีตพระเอกดัง "โดโด้-ยุทธพิชัย" กับไลฟ์สไตล์การท่องเที่ยวแบบ "แอดเวนเจอร์" ขับรถออฟโรดเข้าป่าขึ้นดอย จนครั้งนึงเกือบเอาชีวิตไม่รอด!
การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทำให้หลายคนได้รับผลกระทบ นักแสดงและอาจารย์อย่าง โดโด้-ยุทธพิชัย ชาญเลขา ก็เช่นกัน ธุุรกิจทัวร์ของเขาต้องล่มสลาย เหลือเพียงงานประจำและงานใหม่ๆ ที่ต้องสร้างสรรค์ขึ้น
“ทัวร์ธรรมะไปอินเดีย ตอนนี้ไม่ได้ทำแล้ว เจ๊งกันทั้งประเทศ ไกด์ก็มาขับแกร็บ ทัวร์นอกทัวร์ในไปไม่ได้เลย หลักๆ คืองานสอน เป็นอาจารย์ประจำคณะวิทยาศาสตร์การกีฬา ที่มหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี สอนมา 7 ปีแล้ว วิชาสถิติเพื่องานวิจัยเพื่อสุขภาพ, วิชาการจัดการกีฬา และ วิชากฎหมายและจริยธรรมกีฬา คนที่มาเรียนจบไปเป็นเทรนเนอร์ให้นักกีฬา งานแสดงยังทำอยู่ กำลังถ่ายละครเรื่อง ภูผาผีคุ้ม ทางช่อง ONE”
เขาชื่นชอบการท่องเที่ยวแบบแอดแวนเจอร์เป็นอย่างมาก และเที่ยวแบบนี้มานานกว่า 20 ปี
“ผมชอบการท่องเที่ยวแบบแอดแวนเจอร์ขับรถออฟโรดเข้าป่าครับ มีทั้งแบบคณะใหญ่ ไปกัน 2-3 คัน แล้วก็ไปคันเดียว ไปมาแทบทุกภาค ทองผาภูมิ เกริงกระเวีย ปิล็อค บ้องตี้ ไทรโยค เต่าดำ ไร่ต้า แม่โจ้ ทุ่งใหญ่นเรศวร ป่าสังขละบุรี ภูทับเบิก ภูหินร่องกล้า ดอยตุง แม่ฟ้าหลวง เชียงดาว ฝาง อุ้มผาง ทีลอซู แม่ฮ่องสอน ไปมาแทบทุกภาค”
แต่สถานที่ท่องเที่ยวที่ประทับใจคือ ดอยอินทนนท์
“ประทับใจดอยอินทนนท์ เราไปฤดูร้อนต้นเมษา ข้างล่างร้อนแทบตับแตก แต่ข้างบนหนาวต้องห่มผ้า หนาวจริงๆ จนต้องก่อกองไฟ ที่สองคือ ดอยกิ่วลม อากาศเย็นสุดยอดจริงๆ แล้วก็สวยมาก กางเต็นท์ใกล้หน้าผา ที่สามคือ น้ำหนาว เพชรบูรณ์ หนาวมากจนนอนไม่ได้ ต้องเอากองไฟเข้ามาอยู่ในเต็นท์ ที่สี่ หุบใหญ่ กาญจนบุรี รถเข้าไม่ได้ ต้องแบกทุกอย่างเดินเข้าไป 2 ชั่วโมงเป็นที่ๆ อุดมสมบูรณ์มาก”
มีสถานที่หนึ่งในเมืองไทยที่ไปแล้ว แต่คิดว่าจะไปอีกคือ ภูชี้ฟ้า
“ภูชี้ฟ้า เราพักที่ตีนดอยวันหนึ่ง รุ่งขึ้นเตรียมขึ้นไปกางเต็นท์ดูดาว แต่มีคนบอกว่าอย่าขึ้นไปเลย ฟ้าปิด ก็คิดว่ากางเต็นท์สักสองวันน่าจะได้ดู เขาบอกฟ้าปิดหมดหลายวัน ก็เลยไม่ขึ้นไป อุตส่าห์ไปคืนเดือนแรมแล้วนะ ยังไม่ได้เห็นดาวอย่างที่เขาถ่ายมา อยากเห็น จะต้องไปอีกครั้ง
ส่วนในต่างประเทศสถานที่ประทับใจคือ โมนาโค
“ตอนนั้นไปถ่ายละครเรื่องทรายสีเพลิง โมนาโคเล็กมาก เดินรอบเกาะได้ เกิดความทึ่ง อึ้ง ในความสวยงามและความเป็นระเบียบ ประชากร 2 แสนคน คนพื้นที่ 5,000 อีก 30,000-40,000 เป็นคนอิตาลีกับฝรั่งเศสมาทำงาน อีกแสนคนเป็นนักท่องเที่ยว ประเทศเขาไม่ต้องเสียภาษี ไม่ต้องจ่ายค่าน้ำค่าไฟ ทุกคนมีเงินเดือนได้ค่าเลี้ยงดู เขามีคาสิโนระดับโลก ผมชอบความสวยงาม ความเป็นระเบียบของเขา ประเทศเขาเล็กมองเห็นได้ชัดเจนกว่าญี่ปุ่น ส่วนต่างประเทศที่อยากไปแล้วยังไม่ได้ไปก็คือ อียิปต์ จะได้ไปหลายครั้งแล้ว ยังไม่ได้ไปสักที อยากไปดูสฟิงซ์ ไปดูปิรามิด”
ที่บอกมานั้นเป็นความประทับใจทางกาย ยังมีสถานที่ประทับใจทางใจอีกด้วย นั่นคือ เช็กเกีย
“ที่เช็กเกีย มีบรรยากาศอบอุ่นด้วยความรักมีคนมาเล่นดนตรีอยู่ข้างทาง ถ้าบ้านเรามีก็คือขอทาน แต่บ้านเขาคือการแสดงออกถึงความสามารถและความรักผ่านเสียงดนตรี คนเขารักกัน มีความสงบ เป็นการท่องเที่ยวที่ได้ใจเราไปและทำให้เราโหยหาอยากกลับไปสัมผัสบรรยากาศอบอุ่นอย่างนี้อีกครั้ง ออสเตรียก็เป็นแบบนี้ แต่ที่อิตาลี มันวุ่นวาย จอแจ มีบรรยากาศอย่างนี้ก็จริง แต่เต็มไปด้วยความหวาดระแวง จะมีคนมาขโมยของหรือเปล่า แต่เช็กไม่มี ต่อให้เกลียดกัน ไปเจอกันก็จะรักกันเอง ด้วยบรรยากาศที่ดีมีภูเขา หมอก ทิวทัศน์ ประทับใจที่นี่มากด้านอารมณ์และความรู้สึก ส่วนมากแล้วประเทศที่ปิดๆ และไม่มีอะไรโดดเด่น จะมีบรรยากาศเดิมๆ อยู่”
ส่วนเหตุการณ์ร้ายๆ ที่ตื่นเต้นมากที่สุด เกือบเอาชีวิตไม่รอดกลับมาก็มีด้วยเหมือนกัน เหตุนั้นเกิดขึ้นที่ดอยตุง
“ตอนนั้นไปเที่ยวแม่ฟ้าหลวงเสร็จแล้วคิดว่าจะขับรถเลาะดอยตุงเลียบชายแดนไปทะลุแม่สายเลย คณะเรา 3 คัน แต่อีก 2 คันไม่ไปด้วยเพราะกลัวไปไม่ทันนัด เหลือเราคันเดียว ผู้ชาย 1 คนผู้หญิง 1 คน เป็นทางเล็กๆ ไม่เกิน 3 เมตร ไม่มีสัญญาณโทรศัพท์
ขับไปสักพักมีคนขี่มอเตอร์ไซค์พอกหน้าวิ่งอยู่ทางซ้ายมือมามองหน้าเรา เราก็ขับไปเรื่อยๆ จนเจอด่าน ตชด.ไทย เขาตกใจมาก พี่รอดมาได้ยังไง พี่เลี้่ยวผิดทาง จะย้อนกลับก็ไกลมากแล้วอันตราย เลยไปข้างหน้าอีกนิดเดียวจะพ้นแล้ว ฝั่งตรงข้ามเป็นซุ้มไม้ไผ่มีทหารพม่าโผล่หน้ามา เราจะข้ามไปฉี่เขาบอกอย่าไป เดี๋ยวมันยิง
ปกติทหารสองฝั่งนี้จะตะโกนคุยกัน แลกบุหรี่ แลกหนังสือโป๊ แลกลูกอม แลกกาแฟกันอยู่แล้ว แต่ถ้านายสั่งมาก็ยิงกัน พอนายไม่สั่งก็เป็นเพื่อนกัน เขาบอกโชคดีมากที่เราไม่โดนฆ่าชิงรถ เราก็ขับไปเรื่อยๆ เจอคนทำนามีจอบมีเสียมแต่สะพายปืนด้วย ถ้าเป็น M16 เป็นคนไทย อาก้าเป็นพม่า ขับไป 45 นาทีถึงด่านตชด.ที่สอง เข้าเขตปลอดภัยแล้ว เป็น 3 ชั่วโมง ที่เหมือนกับ 3 วันที่ีใจตุ๊มๆ ต่อมๆ ลงไปอยู่ที่ตาตุ่ม เป็นเหตุการณ์น่ากลัวน่าตื่นเต้นที่สุดในชีวิต”
ส่วนความหมายของการเดินทางเขาบอกว่า คือการเปิดโลก
“การเดินทางท่องเที่ยวคือการเปิดโลก เปิดกะโหลก อยู่ในเมืองไทยไม่รู้สึกหรอก ไม่ตื่นเต้นในความแปลกใหม่ แต่ไปต่างประเทศคือวิถีชีวิตแปลกใหม่ที่เราไม่เคยเจอ เป็นความตื่นตาตื่นใจ เป็นการเรียนรู้แบบใหม่ๆ บางประเทศปิดร้านนอนตอนบ่ายแล้วเปิดขายอีกทีตอนเย็น วันอาทิตย์หยุด ไม่มีร้านขายของ เข้ามาเขตที่พักไม่มีร้านค้า เป็นสิ่งที่ต้องเรียนรู้”
ล่าสุด โดโด้กำลังทำเพจ 50 STRONG ให้คนอายุ 50 กลับมาแข็งแรงอีกครั้่ง
“ประเทศเรากำลังเข้าสู่ยุคของผู้สูงอายุ ทำยังไงให้ไม่เดือดร้อนคนอื่น ดูแลตัวเองให้แข็งแรง ไม่ป่วย อายุ 50 มาตรฐานมวลรวมยังใช้ได้อยู่ ถ้าอยากสตรองต้องเริ่มตั้งแต่ 50 สุดท้ายฝากติดตามละคร ภูผาผีคุ้ม ทางช่อง ONE ถ่ายไปได้ 80 เปอร์เซนต์แล้ว ด้วยนะครับ”