โอกาสในวิกฤติ ธุรกิจ ‘กาแฟ’ ไทย
สร้างโอกาสในวิกฤติ พัฒนาการผลิตเมล็ด “กาแฟ” ไทย โมเดลธุรกิจที่เพิ่มมูลค่าให้กับชุมชนปลูกกาแฟ พร้อมเชื่อมโยงสู่การท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์
สมาคมกาแฟพิเศษไทย(SCATH) และเดอะคลาวด์ (readthecloud.co) ร่วมเชิดชู กาแฟไทย อนาคตไปไกล มุ่งเน้นการสื่อสารและพัฒนากระบวนการผลิตกาแฟตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ เพื่อยกระดับคุณภาพสู่ระดับสากล เชื่อมโยงอุตสาหกรรมเกษตร สู่อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์อย่างยั่งยืน
วัลลภ ปัสนานนท์ นายกสมาคมกาแฟพิเศษไทย ผู้ขับเคลื่อนวงการกาแฟไทย เปิดเผยว่า ทิศทางของ ‘กาแฟพิเศษ’ กลายเป็นเทรนด์ที่สังคมกาแฟโลกให้ความสนใจเป็นอย่างมาก ด้วยคุณภาพ และเอกลักษณ์เมล็ดกาแฟไทยที่มีความโดดเด่น นับเป็นโอกาสที่จะสร้างการเติบโตให้ธุรกิจกาแฟไทยก้าวหน้า ซึ่งจากวิกฤตโควิด-19 ที่ทั่วโลกกำลังเผชิญอยู่ในขณะนี้ รวมถึงประเทศไทยที่ได้รับผลกระทบ โดยเฉพาะในเรื่องเศรษฐกิจ
หากแต่วิกฤติครั้งนี้กลับสร้างโอกาสให้ชาวสวนกาแฟ โดยเฉพาะทางภาคเหนือที่มีแหล่งปลูกกาแฟมากที่สุดในประเทศไทย มีรายได้จากยอดขายเมล็ดกาแฟที่เพิ่มขึ้น สอดคล้องกับยอดการส่งออกตลาดกาแฟของประเทศไทยที่เติบโตอย่างก้าวกระโดด เนื่องจากไทยมีศักยภาพด้านการผลิต เมื่อเทียบกับหลายประเทศที่มีการผลิตลดลง
ซึ่งนี่เป็นโอกาสของเกษตรกรชาวสวนกาแฟ ที่จะได้เชิดชูกาแฟไทย ให้ดังไกลไปทั่วโลก
“กาแฟเปรียบเสมือนพระเอกขี่ม้าขาวในยุคนี้ ไม่ว่าจะมองในมุมไหน ทั้งในเรื่องของสิ่งแวดล้อมที่ส่งผลประโยชน์ต่อผืนป่า และที่สำคัญช่วยเรื่องเศรษฐกิจในตอนนี้มาก ฉะนั้นคนที่ปลูกกาแฟต้องช่วยกันรักษาชื่อเสียง รักษาคุณภาพ พัฒนาสายพันธุ์กาแฟที่เป็นที่นิยมให้เพิ่มมากขึ้น เพราะการที่จะทำให้กาแฟไทยไปไกลกว่าที่เป็นอยู่นั้น สิ่งที่สำคัญไม่แพ้การลงเมล็ด เพาะต้นกล้า และดูแลต้นกาแฟอย่างพิถีพิถัน นั่นคือต้องรู้จักเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้าท้องถิ่น เรียนรู้การทำการตลาดอย่างมีประสิทธิภาพ ผมเชื่อว่าอนาคตอันใกล้นี้กาแฟไทย จะเป็นสินค้าที่สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจของประเทศและคุณค่าแก่สังคมไทยได้อย่างแน่นอน”
และนอกจากกาแฟจะเป็นพืชเศรษฐกิจที่ตลาดมีความต้องการอย่างต่อเนื่องในทุกๆ ปีแล้ว กาแฟยังเป็นโมเดลธุรกิจที่เพิ่มมูลค่าให้กับชุมชนชาวบ้านในถิ่นที่ปลูกกาแฟ ทั้งการพัฒนาสู่การเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ โดยเฉพาะในเขตพื้นที่ทางภาคเหนือ ที่มีแหล่งปลูกกาแฟมากที่สุดของประเทศไทย มีไร่กาแฟของชาวบ้านในหลายพื้นที่ กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร ที่สร้างมูลค่าและรายได้ให้กับชุมชน
ยกตัวอย่างที่ดอยช้าง, หมู่บ้านปางขอน จังหวัดเชียงราย ตำบลป่าเมี่ยง, ตำบลเทพเสด็จ อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ ล้วนเป็นแหล่งปลูกกาแฟที่เปิดต้อนรับนักท่องเที่ยวอย่างเต็มรูปแบบ
สำหรับแหล่งปลูกกาแฟ ในหลายพื้นที่ของทางภาคเหนือ ทางสมาคมกาแฟพิเศษไทย ได้ร่วมส่งเสริมให้ความรู้แก่เกษตรกร และสนับสนุนในทุกๆ กระบวนการการผลิตตั้งแต่ต้นน้ำสู่ปลายน้ำ ตลอดจนจัดกิจกรรมต่างๆ เพื่อให้ชาวบ้านเกษตรกรมีองค์ความรู้ในการพัฒนากาแฟเพิ่มมากขึ้น เป็นที่รู้จักในวงกว้าง และเติบโตอย่างยั่งยืน
ในงานมหกรรมกาแฟสุดยิ่งใหญ่ Thailand Coffee Fest 2020 ก็เป็นอีกหนึ่งวัตถุประสงค์ของการผลักดันวงการกาแฟไทย ทั้งประชาสัมพันธ์และส่งเสริมตลาดกาแฟสู่ผู้บริโภคโดยตรง โดยปีนี้ มีกำหนดจัดขึ้น ในวันที่ 1-4 ตุลาคม 2563 ณ อิมแพ็ค เอ็กซิบิชั่น ฮอลล์ 6-7 เมืองทองธานี ซึ่งภายในงานมีมาตรการคัดกรองตามมาตราการสุขอนามัยอย่างเต็มที่ ผู้เข้าร่วมงานจะได้เพลิดเพลินกับสินค้าและบริการที่เกี่ยวข้องกับกาแฟกว่า 200 ร้านค้า ครบจบงานนี้งานเดียว ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.facebook.com/ThailandCoffeeFest