'พนันออนไลน์' เฟื่องฟูคู่โควิด
เมื่อเส้นทาง "การพนันออนไลน์" เติบโตอย่างน่าตกใจ โดยเฉพาะช่วงล็อกดาวน์ ต่อมาถึงปัจจุบันและต่อไปในอนาคต เพราะไม่ใช่เกมธรรมดา หากเป็นการพนันที่แฝงในรูปเกมออนไลน์ อย่างที่คนเล่นไม่รู้สึกตัวชัดว่าบัดนี้กำลังพนันอยู่ มันหลอกล่อและแทรกเข้ามาอย่างเงียบ
ในช่วงเวลาเดียวกันกับที่โควิดระบาดทำร้ายผู้คนในสังคมไทย ทั้งด้านเศรษฐกิจและสังคมนั้น ก็มีการระบาดของสิ่งหนึ่งที่ทำร้ายในลักษณะเดียวกัน ซึ่งอาจร้ายแรงกว่าในระยะยาว นั่นก็คือการระบาดของเกมออนไลน์ชนิดแนบเนียนที่เด็กวัยรุ่นและผู้ใหญ่ โดยเฉพาะผู้ใช้แรงงานหมกมุ่นกันหนักอยู่ในขณะนี้
หากท่านผ่านไปตามถนนเห็นวัยรุ่นวินมอเตอร์ไซค์ พนักงานกวาดถนน ลูกจ้างในร้านขายของ ลูกจ้างโรงงาน ฯลฯ นั่งก้มหน้าก้มตากับจอโทรศัพท์นั้น เขาไม่ได้อ่านข่าวหรือสารคดี หากกำลังเล่นเกมดังกล่าว ที่มาหนักหนาสาหัสก็คือตอนล็อกดาวน์และต่อมาถึงปัจจุบันและต่อไปในอนาคตที่น่าตกใจ ก็เพราะมันไม่ใช่เกมธรรมดา หากเป็นการพนันที่แฝงมาในรูปเกมออนไลน์ อย่างที่คนเล่นไม่รู้สึกตัวชัดว่าบัดนี้กำลังพนันอยู่ มันหลอกล่อและแทรกเข้ามาอย่างเงียบๆ
ข้อมูลจาก สสส. (สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ) ในเรื่องการพนันออนไลน์ โดยทั่วไประบุว่าไม่แตกต่างจากการพนันที่เล่นกันในบ่อนกาสิโน เช่น การเล่นโป๊กเกอร์ “โจรแขนเดียว” (สล็อตแมชชีน) รูเล็ต แบล็คแจ็ก (21 แต้มคล้ายยี่อิด) แทงม้าแข่ง เปิดไพ่ใหญ่ ฯลฯ นอกจากนี้ก็มีแทงฟุตบอลหรือเกมกีฬาอย่างอื่น
การพนันออนไลน์ที่วิเศษสำหรับเจ้ามือและสร้างความเสียหายได้มากแก่ลูกมือ ก็เพราะเล่นได้ทุกเวลาในทุกสถานที่ เล่นคนเดียวเป็นส่วนตัว โดยไม่มีใครรู้เล่นได้โดยลำพัง ไม่ต้องพึ่งพาบุคคลอื่น ได้เงินและจ่ายเงินอย่างสะดวกด้วยการโอนเงินบนมือถือ มีรูปแบบและเสียงที่ทำให้รู้สึกสนุกเร้าใจจนเล่นต่อเนื่อง และที่สำคัญก็คือโฆษณาชักชวนล่อหลอกผ่านสื่อออนไลน์ถึงกลุ่มเป้าหมายโดยตรง
เกมพนันออนไลน์ที่มาในรูปใหม่เป็นเกมแบบที่เคยเล่นกันมาอย่างไร้เดียงสาคือ สู้รบฆ่าฟันด้วยสารพัดอาวุธ หลบหลีกอุปสรรค ฯลฯ แต่คราวนี้มีได้และมีเสียด้วยการวางเดิมพันโดยให้เงินทดลองเล่น 500-1,000 บาทก่อน จนรู้สึกสนุกที่ได้เงินมาง่ายๆ และเสียไปหมดจนติดใจ ยอมเปิดบัญชีโอนเงินเข้าออกด้วยเงินจำนวนไม่มาก คราวนี้กลไก “ต้มตุ๋น” คือเล่นจริงก็เกิดขึ้นทันที มีทั้งได้และเสียเงิน เมื่อยามได้ก็โลภอยากได้อีกก็เล่นต่อไป คราวเสียก็ต้องแก้มือ หาเงินหาทองมาใส่บัญชีเพื่อแก้แค้น เป็นวงจรเช่นนี้เรื่อยไปอย่างสนุกพร้อมกับเสียเงินไปทีละน้อยๆ และมากขึ้นๆ จนหมกมุ่นเสียหาย
เหตุใดผู้เขียนจึงมั่นใจว่าเสียเงินในที่สุดมากกว่าได้ เหตุผลง่ายๆ ก็คือโปรแกรมการเล่นเกมพนันออนไลน์ใครเป็นคนสร้างขึ้น คำตอบก็คือเจ้าของหรือคนเขียนที่จ้างมา เขาจะเขียนโปรแกรมให้เจ้ามือเสียเงินให้โง่กระนั้นหรือ เขาก็เขียนให้ตอนพนันด้วยเงินเล็กน้อยคนเล่นชนะได้เงิน ต่อมาพอเงินพนันมากก็ให้เล่นเสียบ่อยๆ และให้ชนะบางครั้ง
กลการเล่นทุกอย่างมันเหมือนสคริปท์ละครที่เขาเขียนขึ้นมาเพื่อให้คนเล่นเสียเงินในที่สุดเสมอ สั่งอะไรลงไปในโปรแกรมมันทำให้ได้ทั้งนั้น จะให้แยบยลเพียงใดก็ได้
ในต่างประเทศ กิจการบ่อนกาสิโนและการพนันออนไลน์จะถูกควบคุมโดยทางการอย่างใกล้ชิด เพราะมันฟอกเงินให้ “ขาว” ได้ง่าย (โกงมาและอ้างว่าได้มาจากการพนัน) เป็นสินบนเจ้าหน้าที่ก็ง่าย (ผมรวยมาจากการเล่นพนัน) ฯลฯ โดยเฉพาะอย่างยิ่งอัตราที่ผู้เล่นได้เงินคืนไป กล่าวคือไม่ใช่ให้บ่อนสูบกลับคืนไปเต็มๆ จนผู้เล่นหมดตัวบ่อนไหนก็กำไรทั้งนั้น หากเจ้าของขาดทุนแล้วจะเปิดไว้ทำไม นี่คือเหตุผลที่ต้องบังคับให้คืนคนเล่นไปบ้าง
เกมพนันออนไลน์ที่คนบ้านเราเล่นกันนั้นไม่มีการควบคุมดูแลในทุกเรื่อง ไม่ว่าการเขียนโปรแกรมเป็นสคริปท์ไว้เพื่อ “ต้มตุ๋น” การโอนเงินให้ผู้เล่นอย่างรับผิดชอบอัตราคืนเงินให้ผู้เล่น ฯลฯ มันไม่มีทั้งนั้น เพราะในเบื้องต้นไม่รู้ว่าใครเป็นเจ้ามือและอยู่ที่ประเทศไหน (เปิดเป็นเว็บไซต์ที่เลื่อนลอยแบบ “จับให้มั่นคั้นให้ตาย” นั้นยาก เปิดที่นี่ไปโผล่ที่โน่น) และจนถึงปัจจุบันยังไม่มีข่าวว่าทางการไทยลงมือทำอะไรกับปรากฏการณ์ใหม่ที่เลวร้ายนี้
การเข้าถึงตัวผู้เล่นก็ทำได้ง่ายๆ ด้วยการจ่ายเงินให้ยูทูบเบอร์แทรกการชักชวนให้มาเล่นไว้ในรายการแบบเนียนๆ โดยบอกว่าเป็นเกมที่ได้เงินจริง (เรื่องเสียไม่พูดถึง) สนุกจริงๆ พร้อมกับมีเงินให้ทดลองเล่น (แต่ไม่ได้บอกว่าเพื่อจะได้ “ล็อกคอตีเข่า” ในเวลาต่อไป) ยูทูบเบอร์เหล่านี้กำลังทำผิดกฎหมายถึงขนาดถูกถอดออกจากการเป็นยูทูบเบอร์และอาจติดคุกได้
ปัจจุบันการเล่นพนันออนไลน์แบบเกมกำลังกระจายเป็นไฟไหม้ป่าวัยรุ่น ตั้งแต่มัธยมจนถึงมหาวิทยาลัย ติดกันงอมแงม ตลอดจนเจ้าของกิจการ SME และลูกจ้างวันหนึ่งๆ อาจได้เงินไปจากคนไทยนับร้อยล้านบาท อย่าลืมว่าสังคมไทยนั้นการพนันขึ้นสมองขนาดไหน วันที่ 1 และ 16 ของทุกเดือนที่หวยออกคนไทยทั้งประเทศจะมีพฤติกรรมผิดไปจาก 28 วันของเดือน
สถิติปี 2560 ระบุว่า 53.4% ของเยาวชนอายุระหว่าง 15-25 ปี เคยเล่นการพนัน และ 68.1% ของจำนวนเหล่านี้เคยเล่นการพนันมากกว่า 1 ประเภท (สูงที่สุดคือ 9 ประเภท) อายุต่ำสุดที่เล่นการพนันคือชาย 7 ปีและหญิง 10 ปี (อายุเฉลี่ยของชายคือ 17.4 ปี และหญิง 18.1 ปี) สำหรับกลุ่มผู้เล่นพนันออนไลน์มีอายุตั้งแต่ 15-55 ปี และมีหลากหลายอาชีพ กลุ่มนิสิตนักศึกษาเป็นกลุ่มที่เพิ่มจำนวนผู้เล่นมากขึ้น (การเรียนมหาวิทยาลัยในช่วงนี้โดยไม่ต้องไปมหาวิทยาลัยตามปกติในหลายสถาบันเป็นเวลาทองของการเล่นพนันออนไลน์แบบเกม)
เกมพนันออนไลน์ผิดกฎหมายอย่างแน่นอนโดยไม่ต้องสงสัย เพราะแค่มีการวางเดิมพันและมีรางวัลตอบแทนก็เข้าข่ายการพนันแล้ว สิ่งที่เลวร้ายกว่าทำสิ่งผิดกฎหมายก็คือการถูก “มอมเมา” (ทำให้หลงผิดและหมกมุ่นในทางที่ผิด) การให้ผู้เล่นเสียเวลาไม่ไปทำกิจกรรมที่เกิดประโยชน์ เสียเงินบ่มเพาะการเกิดอาชญากรรม เช่น การปล้นจี้ ล่อลวงเงินจากคนใกล้ชิด ค้ายาเสพติดหรือสิ่งผิดกฎหมาย เพื่อหาเงินมาเล่นการพนัน ฯลฯ
ในฝั่งผู้เล่นสิ่งที่สูญเสียคือเงินทอง โอกาสเข้าสู่อบายมุขอื่นเช่นติดเหล้า สารเสพติด ติดบุหรี่ ฯลฯ สูงขึ้น ขาดความนับถือและความเชื่อถือจากคนรอบข้าง และเหนือสิ่งอื่นใดหากติดการพนันอย่างหนักก็จะเสียสุขภาพจิตอันเกิดจากผลกระทบต่อสมอง จนอาจเกิดพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์ไปตลอดชีวิต
ในทางการแพทย์มีงานวิจัยมากมายที่พบว่าการหมกมุ่นและติดการพนันในวัยรุ่นสามารถทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของสมองได้เช่นเดียวกับยาเสพติด อีกทั้งขัดขวางการพัฒนาสมองและทักษะชีวิตอย่างถาวร กล่าวคือสมองส่วนหน้า (prefrontal cortex : PFC) ซึ่งเกี่ยวพันกับพฤติกรรมและความคิด การกำหนดบุคลิกภาพ พฤติกรรมทางสังคม ฯลฯ จะไม่มีเนื้อสมองเพิ่มขึ้น ไม่เกิดการพัฒนาอย่างถาวร จนอาจส่งผลต่อระบบการคิดและพฤติกรรมที่บกพร่อง ซึ่งจะติดตัวไปตลอดชีวิต
ผลพวงของการหมกมุ่นและติดการพนันคือความสามารถในการตัดสินใจลดลง เสี่ยงต่อโรคจิตเวช มีพฤติกรรมใช้เงินมือเติบ เสี่ยงต่อการมีพฤติกรรมลักขโมย ฉ้อฉล ฯลฯ บัดนี้ถึงเวลาที่จะต้องกำจัดหรือปราบปรามเกมพนันออนไลน์อย่างจริงจังเพราะสังคมมีแต่เสียกับเสีย
ไม่มีอะไรเขลาไปกว่าเล่นการพนันกับเจ้ามือที่เป็นทั้งผู้กำหนดกติกาและผู้กำหนดผลได้เสียของเกมอย่างลึกลับด้วยเทคโนโลยี อีกทั้งขาดการควบคุมในทุกลักษณะ เล่นปั่นแปะด้วยเหรียญยังมีโอกาสได้เงินมากกว่า