'ส้มตำปูปลาร้า' เด็ดที่ 'ร้านหมูไปไก่มา'
บอกเลยว่ากิน “ส้มตำ” ทั้งทีจะมาเรื่องเยอะไม่ได้ ต้อง “ส้มตำปูปลาร้า” เท่านั้น จึงจะอร่อยถึงใจ ทว่าแฟนคลับ “ส้มตำไทย” ก็ไม่ผิดหวัง ที่ ร้านหมูไปไก่มา แซบนัวหลายเมนู ไม่เชื่อไปพิสูจน์กันได้ ที่ซอยสุขุมวิท 39
“ร้านหมูไปไก่มา” เป็นร้านอาหารไทยอีสานในเครือ วอเตอร์ไลบรารี่ (Water Library) ที่เกิดขึ้นจากความชื่นชอบในอาหารไทยรสจัดจ้านของทางเจ้าของและทีมงานของเครือวอเตอร์ไลบรารี่เอง จนกลายเป็นที่มาของโปรเจคในการนำเสนออาหารไทยให้ดูน่ากินและสนุกสนานยิ่งขึ้น ด้วยการผสมผสานรสชาติที่ชอบ รวมไปถึงสูตรเด็ดของแต่ละครอบครัวออกมาเป็นอาหารไทยรสจัดจ้านตำรับหมูไปไก่มาภายใต้บรรยากาศที่ดูโปร่งโล่งสบาย มองเห็นวิวท้องถนนภายนอก
หากได้ยินชื่อ วอเตอร์ไลบรารี่ (Water Library) หลายคนคงนึกถึงอาหารไฟน์ไดนิ่งสุดหรู ทว่าสำหรับ “หมูไปไก่มา” แม้จะเป็นคอนเซปต์อาหารไทยอีสานรสจัดจ้านฉีกกฏจากที่เราเคยรู้จัก แต่ยังคงรักษามาตรฐานด้วยการคัดสรรวัตถุดิบตามฤดูกาล เชฟโขลกเครื่องแกงเอง
เชฟตู่-ชัยพันธุ์ ธิราศรัย อธิบายถึงชื่อร้าน “หมูไปไก่มา” ว่าต่างจากคำว่า “ยื่นหมูยื่นแมว” เช่น ตอนเช้ามีกับข้าวเอาไปเผื่อแผ่คนข้างบ้าน ตอนเย็นคนข้างบ้านทำกับข้าวมาให้เรา จึงเป็นความอบอุ่นมีน้ำใจจากมิตรภาพ ร้านนี้เสิร์ฟอาหารง่ายๆ มีทั้งอาหารธรรมดาๆที่รับประทานได้ทุกวัน และอาหารจานพิเศษ
“พูดง่ายๆคือร้านนี้เปิดขึ้นมาแบบหาเพื่อน คิดว่าผมเป็นเพื่อนซักคนหนึ่งก็ได้ครับ แวะมากินข้าวแล้วพูดคุยกัน วันนี้อยากกินอะไรก็บอกมา ชอบรสชาติแบบไหนบอกผม นอกเมนูก็ทำได้ ปกติแล้วผมเป็นคนค่อนข้างตามใจลูกค้าอย่างเมื่อวานมีลูกค้าท่านหนึ่งอยากกินแลมป์ แต่ว่าเป็นน้ำตก ผมก็ทำให้ได้ครับ”
เชฟตู่พูดถึงเมนูซิกเนเจอร์ของทางร้าน “ไก่มา” เป็นไก่อบเสริฟ์แบบเต็มตัวทานได้ 3-4 คน เชฟเลือกไก่เลี้ยงแบบปลอกสารน้ำหนักตัว 1.2 กิโลกรัม นำมาหมักกับสมุนไพราขิง ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด พริกกระเหรี่ยง นาน 1 คืนแล้ว นำไปปรุงแบบ Slow Cook ด้วยเครื่อง Combi Oven จนได้ไก่หนังบางกรอบ ยังคงความนุ่มชุ่มฉ่ำของเนื้อไก่ เสิร์ฟมากับน้ำจิ้ม 2 แบบ ก็คือ "น้ำจิ้มแจ่ว" และน้ำจิ้มไก่ปรุงพิเศษ
เมนู “หมูไป” เชฟเลือกซี่โครงหมูประมาณ 800 กรัม หมักแล้วนำเข้าเครื่องซูวี 24 ชั่วโมงเพื่อให้เนื้อล่อนออกจากกระดูก ส่วนที่อร่อยที่สุดก็คือเอ็นติดกับกระดูก ก่อนเสิร์ฟนำมาเซียร์กับกระทะแล้วนำเข้าเตาอบ ปรุงซอสบาร์บีคิวสไตล์ไทย ก็คือเชฟนำซอสบาร์บีคิวมาผสมผสานกับสมุนไพรไทยเน้นความเผ็ดร้อนของข่า ส่วนใหญ่ลูกค้าจะสั่งเซตเมนูคู่กันก็คือ “หมูไปไก่มา” จะสั่งไก่ทั้งตัวหรือครึ่งตัวก็ได้
อีกจานที่หมูหวานชื่นชมโดยลุกขึ้นจากเกาอี้ ยืนแล้วปรบมือรัวๆก็คือ พาสต้าปู อุแม่เจ้ามันดีงามมาก ด้วยความที่ชอบเส้นพาสต้าอยู่เป็นทุน แล้วก็ชอบ “ปูทะเล” เพราะเนื้อแน่นเนื้อเยอะเต็มคำ พอสองอย่างมาผสมผสานกันในรสชาติที่เผ็ดร้อนถึงใจแบบนี้อิ่มเอมใจเป็นยิ่งนัก เชฟตู่กล่าวถึงเมนูนี้ว่า “ซอสผมขึ้นมาจาก Lobster Bisque เคี่ยวล็อบสเตอร์บิสกับมันกุ้ง ออกมารสชาติจะเข้มข้นเผ็ดพริกไทยดำ จะสั่งเป็นล็อบสเตอร์หรือปูทะเลก็ได้ ผมใช้ปูทะเลขนาด 2 ตัว 1 กิโล เราทำสดใหม่เนื้อปูจะแน่นหวาน เมนูแนะนำก็จะมี หมี่กระเฉดกุ้ง เป็นเส้นหมี่ผัดกับกระเฉด มันกุ้ง มีซอสที่ผมคิดเอง ที่นี่อาหารค่อนข้างเผ็ด ถ้าไม่กินเผ็ดก็สั่งได้ แกงป่า ที่ผมมีจะเป็นไก่และปลา พริกแกงผมตำเอง ถ้าไปกินที่อื่นสีน้ำจะแดงๆ แต่ของผมจะออกสีเหลืองๆเพราะใช้ขมิ้น เคล็ดลับของผมก็คือใส่เมล็ดกะเพราลงไปด้วยทำให้รู้สึกเผ็ดร้อนซู่ซ่า”
“ส้มตำ” มีให้เลือกหลายแบบ เบสิกเลยก็คือ “ส้มตำไทย” “ส้มตำปูปลาร้า” “ส้มตำสามหอย” (หอยแครง นางรม แมลงภู่) ฯลฯ เชฟอยากแนะนำ “ส้มตำไทย” เมนูง่ายๆ แต่เป็น “ส้มตำไทย” แท้จริง มะนาวบีบสด หวานนำ เปรี้ยวตาม และเผ็ดประชิดเข้ามาใกล้ๆ มีความขมของผิวมะนาวมาเติมเต็มให้รสชาติชัดเจนยิ่งขึ้น ครบห้ารส เปรี้ยว เค็ม เผ็ด หวาน ขม อร่อยลงตัว
ขนมหวานร้านนี้เด็ดไม่แพ้ร้านกาแฟเบเกอรี่ทั่วไปนะคะ หมูหวานชอบ “เค้กช็อกโกแลต” มีความดาร์กมากๆ ไม่หวาน ส่วนเพื่อนร่วมโต๊ะชอบ “เค้กมะพร้าว” ฝีมือของ เชฟจาว-ภคปัทม์ ศักดิ์ยโศ จาก “ครัวขนม” ร้านขนมร้านใหม่ล่าสุดในเครือวอเตอร์ไลบราลี่ที่ได้กระแสการตอบรับอย่างดีเยี่ยมในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็น เค้กมะพร้าว เค้กสุดฮิตที่คนรักมะพร้าวห้ามพลาด ตามด้วยเค้กช็อกโกแลตหน้านิ่ม ชีสเค้ก และไอศกรีมโฮมเมดหลากรสชาติที่เพียงได้ชิมก็ต้องหลับตาพริ้ม
เชฟตู่กล่าวทิ้งท้ายว่า “อาหารเปรียบเหมือนเสียงเพลง ไม่มีเพลงไหนที่ไม่เพราะ ขึ้นอยู่กับว่าเราชอบหรือไม่ชอบเท่านั้นเอง อาหารก็เหมือนกัน ผมว่าไม่มีอาหารจานไหนที่ไม่อร่อย มันอยู่ที่ว่าเราชอบหรือไม่ชอบ บางคนบอกว่าอาหารจานนี้เปรี้ยวมากกินไม่ได้เลย แต่อีกคนบอกว่าเปรี้ยวดีชอบอร่อยมาก ในเรื่องอาหารไม่ว่าผมจะประดิษฐมาดีขนาดไหน แต่ผมไม่มีอีโก้ ลูกค้าที่มาเหมือนเป็นเพื่อนผม จะกินแบบไหนล่ะ บอกผมสิ เดี๋ยวผมทำให้ จะเติมเปรี้ยว เติมเค็ม ว่ากันมาเดี๋ยวผมเติมให้ ก๋วยเตี๋ยวยังมีเครื่องปรุงเลย คิดซะว่าผมเป็นเครื่องปรุงก็แล้วกัน ปรุงให้ได้ทุกอย่าง เพราะเรารู้อยู่แล้วว่าอาหาร 1 จานไม่มีทางถูกใจทุกคนหรอก” นอกจากเค้กยังมีน้ำชา กาไฟ ไอศกรีม เบียร์สดประมาณ 5 ชนิดให้เลือกรับประทานกับอาหารรสจัดจ้าน พร้อมเครื่องดื่มม็อกเทล ค๊อกเทล ไวน์ ฯลฯ เชฟกล่าวทิ้งท้ายว่า “มาที่อื่นคุณเป็นลูกค้า มาที่นี่คุณเป็นเพื่อนผม"
“ร้านหมูไปไก่มา” อยู่ในซอยสุขุมวิท 39 (ใกล้ BTS สถานีพร้อมพงษ์) เปิดบริการทุกวันตั้งแต่เวลา 11.00-14.30 และ 17.30-22.30 น. โทร. 095-072-7777 เฟสบุค: Moo Pai Kai Ma อินสตาร์แกรม: moopai_kaima