5 เสน่ห์ A Fox Princess ท่าเตียน 'คาเฟ่' สุดฮิปที่ต้องปักหมุด!
รีวิว "คาเฟ่" บรรยากาศดีอย่าง "A Fox Princess Kitchen ท่าเตียน" ร้านอาหารอิตาเลียนกึ่งคาเฟ่ป้ายแดง ที่กำลังมาแรงและจัดจ้านในย่านท่าเตียน เพิ่งเปิดครัวต้อนรับนักชิมสายชิลไปสดๆ ร้อนๆ เมื่อสองสัปดาห์ก่อนนี่เอง
ถ้าคุณเป็นหนุ่มสาววัยทำงานที่อยากเปลี่ยนบรรยากาศการกินข้าวนอกบ้านให้มีสีสันมากขึ้น หรือเป็น Cafe Hopper สายฮิปสเตอร์ที่กำลังมองหา "คาเฟ่" สำหรับแฮงเอาท์กับเพื่อนๆ แต่ไม่อยากได้ร้านที่เป็นทางการมากเกินไปล่ะก็.. ขอบอกว่าอย่าลังเลที่จะมาปักหมุดที่ "A Fox Princess Kitchen" สาขาใหม่ ร้านอาหารอิตาเลียนกึ่งคาเฟ่ป้ายแดง ที่มาแรงและจัดจ้านในย่านท่าเตียนในตอนนี้
กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ จะพาไปทำความรู้จักร้านนี้ให้มากขึ้น เผื่อใครกำลังมองร้านร้านอาหารสำหรับดินเนอร์ชิลๆ ในช่วงสุดสัปดาห์นี้
สำหรับ A Fox เป็นร้านอาหารที่แตกยอดมาจากร้านอาหาร It’s Happened To Be A Closet ณ สุขุมวิท 23 (มี 1 สาขาเท่านั้น) ซึ่งถือเป็นยานแม่ของร้าน A Fox Princess kitchen ที่มีทั้งหมด 4 สาขาด้วยกัน (รวมสาขาใหม่ล่าสุด) ได้แก่
- A Fox Princess + A Spider ศูนย์การค้าเซ็นทรัลชิดลม
- A Fox Princess + Friends ศูนย์การค้าเซ็นทรัลลาดพร้าว
- A Fox Princess + a coffee shoppe ศูนย์การค้าสยามพารากอน
- A Fox Princess KITCHEN ท่าเตียน (เพิ่งเปิดบริการเมื่อ 12 กันยายน 2563)
นอกจากนี้ยังมีร้านเค้กคาเฟ่อันโด่งดังอย่าง A Pink Rabbit อีก 2 สาขา ที่เปิดบริการมาแล้วหลายปี จนถึงตอนนี้ก็ยังคงได้รับการตอบรับจากนักชิมสายหวานอย่างท่วมท้นเสมอมา ได้แก่ A Pink Rabbit + Bob สาขาท่าเตียน และ A Pink Rabbit Cake Cafe + Palette Outlet สาขาเซ็นทรัลวิลเลจ
รู้แบ็คกราวน์ของร้านคร่าวๆ แล้ว ได้เวลาไปเจาะลึกภายในร้าน “A Fox Princess kitchen ท่าเตียน” กับเสน่ห์ที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ ใครมาเยือนก็เป็นต้องตกหลุมรักทุกรายไป
1. หน้าร้านเรียบง่าย แต่ภายในสุดฮิป
เริ่มกันที่หน้าร้าน แม้จะดูเป็นร้านเล็กๆ หน้าแคบ ทางเข้าออกแบบเป็นแนวเรียบง่าย แต่ก็มองเห็นได้ชัดเจนสะดุดตาด้วยตัวประตูไม้สีขาว และชื่อร้านที่ใช้เป็นตัวอักษรสีขาวเช่นกัน แต่พอเปิดประตูก้าวมาข้างในร้านเท่านั้นแหละ โอ้โห.. บรรยากาศเปลี่ยนไปถนัดตา
ภายในตกแต่งไปด้วยสีสันสะดุดตามากกว่าหน้าร้านเสียอีก แต่ก็คุมโทนแสงสีและบรรยากาศออกมาได้อย่างกลมกลืน ออกแนวคล้ายบาร์แจ๊ส แต่ให้ความรู้สึก Casual Bistro ที่มีความเรียบง่ายและสบายๆ มากกว่า ในขณะเดียวกันก็ดูเท่ๆ ฮิปๆ เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของหนุ่มสาวรุ่นใหม่ยุค 2020
2. มีครัวเปิดให้ความรู้สึกเป็นกันเอง
เดินเข้ามาในร้านจะพบกับ “ครัวเปิด” ที่เชฟจะปรุงอาหารสดใหม่ให้เห็นกันเลย ได้ความรู้สึกเหมือนมาทานอาหารที่บ้านเพื่อนแบบสบายๆ
3. เลือกบรรยากาศได้หลายสไตล์
สำหรับที่นั่งของทางร้านแบ่งออกเป็น 4 ชั้น 4 โซน โดย “ชั้น 1” เป็นที่นั่งในโซนที่มีบรรยากาศสนุกสนาน มีสีสัน นั่งสบาย เหมาะกับการมาทานอาหารหรือนั่งดื่มคนเดียวชิลๆ หรือมานั่งคุยกับเพื่อนสองคนก็สามารถมานั่งโซนนี้ได้
แต่ถ้ามากันเยอะก็สามารถเดินขึ้นไปนั่งบน “ชั้น 2” และ “ชั้น 3” ได้ บรรยากาศของสองชั้นนี้ก็ยังมีความชิลๆ สนุกสนานคล้ายโซนแรก เพิ่มเติมด้วยการจัดแสงและออกแบบให้มีความเรียบหรูขึ้นมาอีกหนึ่งเบอร์ แถมบางมุมของ “ชั้น 3” ก็มีโต๊ะขนาดกลางจำนวน 2 โต๊ะ ที่รับรองได้ 4-6 ที่นั่ง และแยกพื้นที่เป็นส่วนตัวมากขึ้น
ถัดมาที่ “ชั้น 4” เป็นโซนที่มีความไพรเวทมากที่สุด มีความสวยงามอลังการและความหรูหราเพิ่มขึ้นมาอีก เหมาะกับการมาฉลองมื้อใหญ่กับครอบครัวหรือเพื่อนฝูงจำนวนหลายคน โดยสามารถรับรองได้ 7-14 ที่นั่ง
4. เสิร์ฟ Warm Bread ก่อนมื้อหลัก
ตามสเต็ปของร้านอาหารอิตาเลียน ก่อนจะเสิร์ฟมื้อหลักที่ลูกค้าสั่งไป ทางร้านจะมีการเสิร์ฟ Appetizer ให้ก่อนเสมอ ซึ่งร้านนี้ก็ไม่พลาดรายละเอียดข้อนี้เช่นกัน พอลูกค้านั่งที่โต๊ะปุ๊บ พนักงานจะเข้ามาเซ็ตโต๊ะให้ปั๊บ! จากนั้นไม่นานก็จะเสิร์ฟ Appetizer ฟรี เป็นขนมปังอบหอมๆ ชิ้นน่ารักกำลังดี มาพร้อมกับ Dipping น้ำมันมะกอกและบัลซามิก ตามสไตล์อาหารอิตาเลียน
5. อาหารอิตาเลียนฝีมือเชฟไทย อร่อยไม่แพ้เชฟนอก!
อาหารทุกเมนูของจักรวาลร้าน It’s Happened และ A Fox ทุกสาขา ล้วนแต่ถูกปรุงอย่างพิถีพิถันจากฝีมือเชฟคนไทยทั้งหมด 4 คน โดยเป็นเชฟที่มีประสบการณ์ด้านอาหารอิตาเลียนโดยเฉพาะ ซึ่งเชฟใหญ่ของร้าน คือ “เชฟวินัย กันภัย” ที่อยู่ประจำร้านนี้มานานถึง 20 ปี ที่ล่าสุดมาอยู่ประจำร้าน A Fox ท่าเตียน สาขาใหม่ล่าสุดด้วย การันตีความอร่อยทุกจานแน่นอน สำหรับเมนูแนะนำที่น่าสนใจ ได้แก่
- สลัดขนมปัง ราคา 260 บาท
(Panzanella Salad Sour Dough toast, Grilled tomato, Mozzarella, Basil, Garlic, Capsicum)
ขนมปังอบเป็นส่วนผสมหลักของเมนูนี้ ปรุงขนมปังเล็กน้อยด้วยบัลซามิก เสิร์ฟทัพความอร่อยด้วยมอสซาเรลล่าชีส มะเขือเทศย่าง พริกหวานย่าง กระเทียมย่าง และให้ความหอมด้วยใบโหระพา ทานแล้วให้ความรู้สึกสดชื่น รสชาติคลีนๆ ไม่หนักจนเกินไป ชีสมอสซาเรลล่าคือดีมาก ให้มาชิ้นใหญ่ หอม นุ่ม เคี้ยวหนึบ
- ราวิโอลี่ไส้เห็ดบนซอสหมึกดำ ราคา 280 บาท
(Grantortelloni Porcini with Manila Clam & Black Ink Sauce)
ราวิโอลี่สอดไส้เห็ดพอร์ชินี่ผัดเนยและชีส วางบนซอสหมึกดำ ส่วนด้านบนราวิโอลี่ราดด้วยหอยกาบมะนิลาผัดกับการ์ลิคบัตเตอร์ที่มีพริกแดงและโหระพาใส่เพิ่มลงไปด้วย ราวิโอลี่แป้งนุ่ม ไส้เห็ดผัดข้างในก็อร่อยกลมกล่อม โดยเฉพาะหอยกาบผัดการ์ลิคบัตเตอร์ที่ราดมาด้านบนต้องบอกเลยว่าอร่อยเด็ด หอมสมุนไพรและมีราชาติเผ็ดนิดๆ ถูกปากคนไทย ทานแล้วไม่เลี่ยนเลย
- พาสต้าทะเลหมึกดำ ราคา 290 บาท
(Black Ink Pasta with Mixed of Manila Clam, Blue Mussel, White Prawn)
พาสต้าทะเลผัดซอสหมึกดำ ใส่มาทั้งหอยกาบมะนิลา หอยแมงภู่ และกุ้งขาวไซส์บิ๊ก ผัดคลุกซอสหมึกมาอย่างดี เชฟปรุงรสชาติได้อย่างกลมกล่อม ถูกปากคนไทย ได้ความหอมสมุนไพร และได้รสชาติเผ็ดนิดๆ จากพริกไทยดำ
- สเต๊กแซลมอน ถั่วปากอ้าบดและเพสโต้มิ้นท์ซอส ราคา 280 บาท
(Salmon Green Broad bean Mint Pesto Sauce)
เมนูแซมอนย่างมากำลังดี สวยเกรียมด้านนอก ส่วนด้านในก็นุ่มชุ่มฉ่ำ ไม่สุกจนเกินไป วางมาบนถั่วปากอ้าบดปรุงรสด้วยเกลือและพริกไทยดำ ชิมแล้วได้รสหวานจากถั่วและได้รสเผ็ดนิดๆ อร่อยกลมกล่อม เมื่อทานกับเนื้อปลาแซมอนแล้วเข้ากันได้ดี ส่วนซอสมิ้นท์เพสโต้ก็ช่วยเพิ่มความหอมสมุนไพรให้กับจานนี้มากขึ้น
- สเต๊กหมูพอร์คช้อป ราคา 350 บาท
(Our Favourite Pork chop with Apple Gravy, Poached Pear, Purple Mash, Sauté Cabbage)
เมนูสเต๊กหมูพอร์คช้อปชิ้นใหญ่ ย่างมาสุกดี ราดด้วยพริกไทยดำ เสิร์ฟมาพร้อมกับซอสเกรวี่แอปเปิ้ลรสหวานนุ่มละมุน และยังมีลูกแพร์เชื่อม มันม่วงบด และผัดกะหล่ำปลี ตัวสเต๊กย่างมาดี ปรุงรสชาติดี หอมพริกไทย ทานคู่กับซอสเกรวี่แอปเปิ้ลแล้วก็ได้รสชาติแปลกใหม่ที่เข้ากันดี (แต่บางคนอาจจะไม่ชอบรสหวานแบบนี้บนเมนูสเต๊ก)
- สเต๊กปลาเก๋าบนผักย่างหลากสี ราคา 320 บาท
(A Fish In A Garden : Garoupa with Roasted Shitake Tomato Green Bean)
เมนูนี้เป็นสเต็กปลาเก๋า ย่างมาสุกกำลังดี ปรุงรสชาติดี หอมสมุนไพร เสิร์ฟมาพร้อมกับผักย่างนานาชนิด เช่น เห็ดชิตาเกะ (เห็ดหอม) มะเขือเทศย่าง ถั่วแขกย่าง มันฝรั่ง เป็นต้น
- เลมอน คัสตาร์ด ช็อค ราคา 185 บาท / ซอฟท์ช็อคและมาสคาโปนชีส ราคา 175 บาท
(Bowl Cake : Lemon Custard Choc / Soft Choc Mascarpone)
ปิดท้ายกับของหวานเมนูเด็ดอย่าง Bowl Cake ซึ่งถูกดีไซน์ให้แตกต่างจากร้าน A Pink Rabbit เราได้ลองชิมเค้กสองเมนู ได้แก่
- Lemon Custard Choc : เป็นพายเลมอนรสเปรี้ยวหวานโดนใจวัยรุ่น มาพร้อมครีมสด ซอสเลมอน ครีมคัสตาร์ด และซอสช็อคโกแลต กินรวมกันแล้วรสชาติลงตัว
- Soft Choc Mascarpone : เป็นเค้กช็อคโกแลตเนื้อฉ่ำ ไม่หวานจนเกินไป ได้รสช็อคโกแลตเข้าข้น มาพร้อมกับครีมสด และมาสคาโปนชีส เพิ่มความหอมมันให้เมนูนี้มากยิ่งขึ้น