'สุวัจน์' ปล่อยตัวจักรยานทางไกลหัวหิน-โคราช หาทุนซื้ออุปกรณ์แพทย์

เมื่อวันที่ 1 ต.ค. 63 หอนาฬิกาหน้าวัดหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ อดีตรองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิด “โครงการปั่นจักรยานทางไกล เฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ครั้งที่4 ระยะทาง 636 กม. หัวหิน-โคราช ระหว่างวันที่ 1-12 กย.64” ร่วมกับ นพ.จิรศักดิ์ วิจักขณาลัญฉ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเทพรัตน์ นครราชสีมา นายประยงค์ จันทเต็ง นายอำเภอหัวหิน จังหวัดประคีรีขันธุ์ เทศบาลหัวหิน และคณะนักปั่นปันบุญ จากทั่วประเทศที่มาร่วมกิจกรรมครั้งนี้

นายสุวัจน์ กล่าวเปิดงานว่า ขอขอบคุณนักปั่นทั่วประเทศที่มีจิตเป็นมหากุศลจริงๆ ที่แรกผมนึกว่าพวกท่านจะเป็นหนุ่มอายุ 20 กว่า ปรากฏว่า เลข 60 เลข 70 กันทุกคนเลย ยิ่งแสดงว่าพวกท่านมีจิตใจเอื้อเฟื้อประเทศชาติจริงๆ ต้องขอชมเชย ต้องขอขอบคุณ และโรงพยาบาลเทพรัตน์นครราชสีมา ก็อยู่โคกกรวดอยู่ริมถนนมิตรภาพ แล้วได้รับพระมหากรุณาธิคุณ และตอนนี้รัฐบาลได้ช่วยกันสนับสนุนงบประมาณต่างๆ จนพร้อมที่จะปฏิบัติหน้าที่โรงพยาบาลในการจะบริการพี่น้องประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งโรงพยาบาลอยู่ถนนมิตรภาพด้วย พอพูดถึงถนนมิตรภาพเราจะรู้กิติศักดิ์เลย ในช่วงหยุดยาวสงกรานต์ปีใหม่อุบัติเหตุจะสูงมาก ดังนั้นโรงพยาบาลนี้จะสามารถดูแลพี่น้องประชาชนทั้งประเทศ เพราะต้องสัญจรไปมา เวลามีอุบัติเหตุ โดยดูแลพี่น้องประชาชนไปทางภาคอีสาน แต่ว่าขณะนี้ทางโรงพยาบาลยังปฏิบัติหน้าที่ยังไม่สมบูรณ์แบบก็คือ ยังขาดเรื่องอุปกรณ์ทางการแพทย์ โดยเฉพาะตึกผ่าตัด ตึกอุบัติเหตุต่างๆ จำเป็นต้องมีเครื่องช่วยหายใจ เครื่องอัลตราซาวด์ โคมไฟผ่าตัด และตู้คอนเทนเนอร์เก็บอุปกรณ์การแพทย์ต่างๆ ได้มีวัตถุประสงค์ที่ดี ผอ.รพ.บอกว่าจริงๆ ขาดงบประมาณ 50 ล้าน ในการที่ได้รับอุปกรณ์ ไม่ทราบว่าคณะปั่นสามารถสร้างสถิติได้มากแค่ไหน แต่เห็นว่า ครั้งนี้ตั้งเป้าไว้ 6 ล้าน ก็ขอให้ประสบความสำเร็จ เพื่อจะได้มีเงินมอบให้ท่าน ผอ.จัดซื้อเครื่องมือทางการแพทย์

นายสุวัจน์ ย้ำว่าภารกิจที่ท่านทำวันนี้ ท่านก็เหมือนตัวแทนคนไทย ขอบคุณหมอด้วย วันนี้คนเราอยู่รอดปลอดภัย 6-7 เดือนนี้ ตอนที่โควิดเกิดขึ้น ทุกคนก็หวั่นวิตกเป็นอย่างมาก รัฐบาลโดยท่านนายกฯ ก็ได้รับการแนะนำจาก แพทย์ผู้ใหญ่ และในแง่ของการปฏิบัติการณ์หลังจากมีนโยบายที่ถูกต้องการมี Socials Distancing กันยังไง มีมาตรการในการกักตัวหรือจะต้องใช้หน้ากาก ล้างมือ มีการรณรงค์ต่างๆ และการดูแลผู้ป่วยติดเชื้อ 3000 กว่าคน ก็มีเสียชีวิตบ้าง คณะแพทย์ พยาบาล บุคลากร ทุกคนทำงานกันเสี่ยงเป็นเสี่ยงตายรักษาคนที่เจ็บและตัวเองอีก อันนี้ถือว่าเป็นนักรบ ไม่ใช่สงครามที่ใช้อาวุธ แต่เป็นสงครามที่เกิดจากโรคภัยไข้เจ็บ ที่ต้องยอมรับว่ามันเป็นเรื่องใหม่ของโลก เรื่องใหม่ของประเทศ และคณะแพทย์พยาบาลได้ทำตามหน้าที่ๆ มีความเสี่ยงทุกอย่าง กิจกรรมวันนี้ครั้งนี้ทุกอย่าง นอกจากจะช่วยโรงพยาบาลเทพรัตน์นครราชสีมาแล้วยังเป็นการแสดงออกถึงหัวใจ คนไทยว่า เรานึกถึงกันเรารักกัน ที่โคราชมีอยู่คำ ว่า ”คนโคราชรักจริงไม่ทิ้งกัน” ก็ยังสามารถนำมาใช้ได้

“ผมขอขอบคุณทุกท่านด้วย วันนี้นอกจากเรื่องโรงพยาบาลแล้ว ผมว่าเรื่องโควิด ก็เป็นเรื่องที่เราต้องร่วมมือกัน ต้องขอบคุณทุกท่านที่มีมาตรการ เข้าใจที่จะแสดงให้เห็นว่า กิจกรรมในเรื่องการกุศลก็จะเป็นตัวอย่างของการดูแลมาตรฐานของความปลอดภัย เพราะว่าวันนี้เรื่องโควิด ถึงแม้วันนี้เราเอาอยู่จริง แต่เมืองนอกยังเอาไม่อยู่ มันอาจจะรอดมาจากต่างประเทศ แล้วมาประเทศไทย ผ่านการเดินทาง ผ่านทางคมนาคม ผ่านทางธุรกิจ ผ่านทางนักท่องเที่ยว ฉะนั้น เราเองต้องไม่ประมาท ต้องใช้คำว่า การ์ดต้องไม่ตก ฉะนั้น หมอบอกให้ทำยังไง ก็ต้องยึดมั่นตัวนั้น Socials Distancing การใส่หน้ากาก หรือกิจกรรมต่างๆ ที่รัฐบาลอนุญาต แล้วมาตรการควบคุมและกิจกรรมควบคู่กันไป เราก็ต้องปฏิบัติตัวอย่างเคร่งครัด” นายสุวัจน์ กล่าว

นายสุวัจน์ กล่าวย้ำว่า สถานการณ์โควิด ผมคิดว่าปีหน้าทุกอย่างน่าจะคลี่คลาย ได้ข่าวดีว่า เตรียมจะฉีดวัคซีนกันแล้วมีการเจอนั้น เจอนี้กันแล้วเมื่อมีวัคซีนเมื่อไร สถานการณ์จะเบาไปมาก พอเรื่องโควิดเบา เราก็มาฟื้นฟูเศรษฐกิจกันอย่างจริงจัง วันนี้มีขอนไม้ก็ต้องเกาะกัน อย่าจมน้ำตาย คือ เอาโควิดให้อยู่ แล้วฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศ ดูเหมือนเป็นสถานการณ์ที่ยากลำบาก แต่ตราบใดที่คนไทยรักกัน ผมว่าเราเอาอยู่ ฉะนั้น วันนี้เราต้องช่วยกันทุกมิติ ในเรื่องการแพทย์ ในเรื่องสาธารณสุข และเรื่องเศรษฐกิจ

“ช่วงนี้ไม่มีนักท่องเที่ยวต่างประเทศคนไทยก็ต้องไทยเที่ยวไทย สินค้าเราผลิตแล้วส่งออกขายไม่ได้ แต่คนไทยก็ซื้อกัน ตอนนี้ “ไทยทำ ไทยใช้ ไทยเจริญ” Made in Thailand “ ไทยเที่ยวไทย ภาวะวิกฤติคนไทยจับมือกัน ผมว่าเราเอาอยู่ เราสามารถจะประครองทุกอย่างได้ วันนี้เป็นกิจกรรมการกุศล แสดงถึงหัวใจความเป็นคนไทยว่ามีอะไรเราช่วยกัน”นายสุวัจน์ กล่าวพร้อมอวยพรว่า

“วันอาทิตย์ที่ 4 ตุลาคม เป็นวันเกิดหลวงพ่อคูณ ท่านเป็นต้นแบบของการให้ ท่านสอนพวกเราว่า“ยิ่งให้ ยิ่งมี” สอนให้พวกเรารู้จักเสียสละ อย่าให้เงินเป็นเจ้านายเรา เราต้องเป็นผู้ให้ เป็นผู้เสียสละ ท่านเป็นพระผู้ใหญ่ หลวงพ่อคูณ ท่านบริจาคเงินการกุศลสร้างโรงพยาบาลและอีกมากมาย เป็นพันๆล้าน ผมพูดอย่างนี้เพราะผมอยากขอบุญบารมีของหลวงพ่อ ให้คุ้มครองคณะนักปั่นทั่วประเทศ ตลอดระยะเวลาการปั้น 1- 12 วัน ปั่นด้วยความปลอดภัย ไม่มีอุบัติเหตุและเรื่องใดๆ ที่มาแผ่วพาน เพื่อให้ภารกิจในการรับเงินบริจาคของประชาชนชาวไทย ทั่วประเทศมอบให้กับโรงพยาบาลเทพรัตน์นครราชสีมา ประสบความสำเร็จ และเราจะมีกิจกรรมดีๆ อย่างนี้ ตลอดไปเรื่อยๆ”
ด้าน นพ.จิรศักดิ์ วิจักขณาสัญฉ์ ผอ.โรงพยาบาลเทพรัตน์นครราชสีมา กล่าวว่าโครงการนี้ เรามีความตั้งใจในการเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และประชาสัมพันธ์ โรงพยาบาลเทพรัตน์นครราชสีมาให้คนทั่วไปได้รู้จักว่าเป็น รพ.ของรัฐ กระทรวงสาธารณสุข ให้บริการในพื้นที่ ต.โคกกรวด อ.เมือง จ.นครราชสีมา เป็น รพ.น้องของ รพ.มหาราช ที่มีการให้บริการแรกรับช่วยเหลือ พี่น้อง ประชาชน ในจังหวัดนครราชสีมา คือ แบ่งเบาภาระของ รพ.มหาราช ที่จะส่งต่อกรณีมีเงื่อนไขการรักษาที่หนักๆต่อไป

สำหรับกิจกรรมในครั้งนี้ มีความประสงค์ของกิจกรรมขอรับการสนับสนุนเงินในระหว่างทางของนักปั่นจักรยานจิตอาสาทั้ง 70 คนที่จะปั่นวันละ 40-60 กม.ในแต่ละวัน จำนวน 10 วัน ที่จะหยุดรับเงินสมทบในแต่ละจุดที่เชิญนักปั่นให้เข้าไปร่วมประชาสัมพันธ์โครงการอันเกี่ยวเนื่องของโรงพยาบาล กว่า 100 จุดใน หน่วยงาน สถานที่ราชการ วัด ในจังหวัดต่างๆ ตั้งแต่ เพชรบุรี ราชบุรี นครปฐม อยุธยา อ่างทอง สิงห์บุรี ลพบุรี สระบุรี และ จังหวัดนครราชสีมา กิจกรรมเฉลิมพระเกียติสมเด็จพระเทพฯในปี 2563 แบ่งเป็น 2 ลำดับ คือการปั่นจักรยานทางไกล ซึ่งจะเริ่มต้นในวันที่ 1 – 12 ตุลาคม หัวหิน-โคราช และการปั่นจักร และวิ่งเฉลิมพระเกียรติ ในวันที่ 25 ตุลาคม ณ.อ่างเก็บน้ำห้วยยาง จ.นครราชสีมา

ทั้งนี้ ผู้สนใจร่วมสนัสนุนเงินกับโครงการดังกล่าว สามารถขอใบลดหย่อนภาษีได้ 2 เท่า โทรแจ้งรายละเอียดการโอนเงิน โทร 044395000 ต่อ 1102 ในวัน เวลาราชการ