ศุภาณัท จรูญพรภักดี เปิด 7 วิธีนำ 'แบรนด์เนมมือสอง' มาทำ 'ธุรกิจ'

นอกจากดีไซน์ การคัดเลือกวัสดุ ฝีมือการผลิตสุดเนี้ยบ การทำตลาดอย่างมีสไตล์ ที่สร้างรายได้มหาศาลให้กับผู้ผลิตสินค้า แบรนด์เนม ผู้บริโภคในฐานะผู้พึงใจสินค้ายอมจ่ายเงินก้อนโตซื้อแบรนด์เนมสุดรักมาครอบครองก็สามารถ ทำธุรกิจ กับสินค้าที่ซื้อมาได้..แม้แบรนด์เนมชิ้นนั้นจะได้ชื่อว่า “สินค้ามือสอง” แล้วก็ตาม

“สินค้าเบรนด์เนมที่คนนิยมลงทุนกันคือ กระเป๋า และ นาฬิกา แต่จริงๆ แล้ว สินค้าแบรนด์เนมทุกประเภท เสื้อผ้า เข็มขัด หมวก  แว่นตา รองเท้า ซื้อเพื่อการลงทุนได้ทั้งหมด” ปู-ศุภาณัท จรูญพรภักดี นายกสมาคมแบรนด์เนมมือสอง (Secondhand Brandname Association-SBA) กล่าวในการบรรยายเรื่อง “วิธีทำกำไรจากกระเป๋าแบรนด์เนม” ในหลักสูตร “Alternative Investment Season 1 ทางรอดฝ่าวิกฤตกับสินทรัพย์ทางเลือก” จัดโดยหนังสือพิมพ์ กรุงเทพธุรกิจ ที่ห้องสโรชา 1-2  โรงแรมสยาม เคมปินสกี้ กรุงเทพ เมื่อวันเสาร์ที่ 12 กันยายน 2563

ศุภาณัท จรูญพรภักดี บรรยายเรื่อง “วิธีทำกำไรจากกระเป๋าแบรนด์เนม”

หลายคนเชื่อแล้วว่า ‘กระเป๋า’ และ ‘นาฬิกา’ ซื้อเพื่อการลงทุนได้ แต่กับเสื้อผ้า เข็มขัด หมวก แว่นตา รองเท้า สามารถลงทุนได้ด้วยหรือ

“ได้แน่นอน” ศุภาณัทยืนยันจากประสบการณ์ส่วนตัวที่คลุกคลีอยู่กับ ‘สินค้าลักชัวรี่แบรนด์’ และ ‘ลูกค้าที่ซื้อสินค้าแบรนด์เนม’ มานานกว่า 20 ปี  พร้อมรวบรวมรูปแบบธุรกิจที่เกิดขึ้นกับแบรนด์เนมขณะนี้ ออกมาเป็น 7 Ways to Investment หรือ  ‘7 วิธีทำธุรกิจกับแบรนด์เนม’ ดังนี้

1 ลงทุนซื้อมาขายไป กำไรมากกว่าที่คิด

ไม่ว่าจะสินค้ามือหนึ่งจากช็อป และสินค้ามือสองจากตลาดที่เชื่อถือได้ (แอพพลิเคชั่น real 2 brand, ร้านค้าสมาชิกสมาคมแบรนด์เนมมือสอง) ก็สามารถซื้อมา-ขายไปเพื่อทำกำไรได้

คนที่ซื้อแบรนด์เนมเพื่อขายทำกำไรเกิดขึ้นมานานแล้วในลักษณะหิ้วของจากร้านเมืองนอกมาขายเอง ทำกำไรได้หลักแสนบาทต่อกระเป๋าเพียง 1 ใบ

 “เมื่อก่อน แอร์เมสหิ้วจากต่างประเทศ ซื้อมาสามแสน(บาท) เคยมีคนขายได้สูงสุดเจ็ดแสน(บาท)” คุณปูยกตัวอย่างสิ่งที่เกิดขึ้นแล้วในอดีตและว่า ปีนี้หลังเกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 สินค้าแบรนด์เนมราคาตกไป 20% แต่เนื่องจากเป็นสินค้าไม่เน่าไม่เสีย ประกอบกับหลายแบรนด์หยุดการผลิต ไม่สามารถหาสินค้าใหม่ในตลาด ทำให้ตอนนี้ราคาแบรนด์เนมกลับมาแล้วและกลับมาเกิน 20%

แต่จะลงทุนซื้อแบรนด์อะไร ต้องพิจารณา ‘ความนิยม’ ที่แบรนด์ได้รับ

เว็บไซต์ statista.com แสดงมูลค่าลักชัวรี่แบรนด์ที่มีมูลค่าสูงสุด 10 อันดับในปี 2020

• อันดับหนึ่ง หลุยส์ วิตตอง 1,611,559 ล้านบาท
• อันดับสอง ชาเนล 1,124,235 ล้านบาท
• อันดับสาม แอร์เมส 1,027,374 ล้านบาท

ตามมาด้วยกุชชี่, โรเล็กซ์, คาเทียร์, คริสเตียน ดิออร์, อีฟส์ แซงต์ โลรองต์, เบอร์เบอรี่ และ ปราด้า

สำหรับในประเทศไทย ข้อมูลจาก กรมศุลกากร ระบุ ‘มูลค่าการนำเข้า’ สินค้าแบรนด์เนมโดยตัวแทนถูกต้องตามกฎหมาย ปี 2560-2561 สูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ หลุยส์ วิตตอง 1,252.71 ล้านบาท, ชาเนล 1,128.63 บาท และ แอร์เมส 389.91 ล้านบาท ตามมาด้วย ปาเต็ก ฟิลิปป์ (นาฬิกา)และ คริสเตียน ดิออร์ ตามลำดับ

“จากสถิติแปลว่า แบรนด์ที่ได้รับความนิยมทั่วโลกยังคงเป็น หลุยส์ วิตตอง, ชาเนล, แอร์เมส เช่นเดียวกับตลาดในเมืองไทย เพียงแต่แบรนด์ที่มาเป็นอันดับสี่กลับเป็นนาฬิกา” ศุภาณัทกล่าวถึงลักชัวรี่แบรนด์ที่น่าลงทุน

เมื่อทราบแบรนด์แล้ว สิ่งที่ต้องพิจารณาต่อไปคือ “ซื้อรุ่นไหน”

คำแนะนำคือให้เลือกรุ่นที่อยู่ในกลุ่ม คลาสสิก, พ็อพพูลาร์, ลิมิเต็ด และ วินเทจ

“รุ่นคลาสสิกพอเป็นมือสองแล้วหาลูกค้าง่าย เช่นแอร์เมส เคลลี่ เบอร์กิ้น ดิออร์รุ่นสปีดี้(Speedy) ชาเนล บอย(Boy) เล่นได้หมด, รุ่นพ็อพพูลาร์สังเกตจากดาราถืออะไร ไฮโซถืออะไร ขอให้(ซื้อมา)ใช้แป๊บเดียวแล้วปล่อย หรือเห็นกำไรแล้วปล่อย เล่นตามกระแส, รุ่นลิมิเต็ด เล่นความหายาก แต่ถ้าแปลกประหลาดมากๆ ต้องพิจารณาอีกที, รุ่นวินเทจ ราคาไม่ค่อยตก” ศุภาณัท กล่าวและว่า ที่สำคัญต้องรู้จักใช้ของด้วยความทะนุถนอม เนื่องจากมูลค่าสินค้าพิจารณาตาม ‘สภาพ’ ต้องรักษามูลค่าการลงทุน

2 ลงทุนซื้อสินค้าแบรนด์เนมมาให้เช่า (กระเป๋า เสื้อผ้า รองเท้า)

ความต้องการของตลาดข้อนี้เกิดจากการที่ลูกค้าก็ไม่อยากซื้อเอง อยากแค่ เช่ารายวัน วิธีการคือ นำของที่เรามีหรือที่เราซื้อมา หรือของที่คนนำมาฝากขาย ตกลงกันก่อนว่าถ้าของวางอยู่เฉยๆ ไม่ทำเงิน ถ้าปล่อยเช่า ยังมีเงินเข้ามาระหว่างรอขาย แล้วแบ่งเปอร์เซ็นต์กัน

“ยกตัวอย่างกระเป๋าชาเนล สมมุติราคาตลาด 1 แสนบาท  จะเช่า รูดบัตรการันตีมาก่อน 1 แสน คิดค่าเช่าวันละ 2,000 บาท 24 ชั่วโมงเอามาคืน เขียนตกลงกันไว้..ถ้ามีปัญหาอะไรต้องจ่ายค่าทำความสะอาดรักษาสภาพหนัง หรือถ้าเช่าสามวัน เหลือวันละ 1,400 บาท เช่าเจ็ดวันเหลือวันละ 1,200 บาท ถ้าเอาไป 1 เดือนอาจจะเหลือวันละ 900 บาท ถ้าหายไปเลยไม่เอามาคืน จ่ายมา 1 แสน เพราะรูดบัตรการันตีไว้แล้ว นี่คือธุรกิจให้เช่า”

3 ลงทุนเปิดร้านซ่อมทำความสะอาดสินค้าแบรนด์เนมแบบมีหน้าร้านหรือออนไลน์

ธุรกิจนี้ผู้ประกอบการต้องมีความรู้ หรือจ้างช่างที่มีความเชี่ยวชาญจริงๆ หากต้องการศึกษาด้วยตนเองทางสมาคมฯ ก็มีคอร์สสอน ตั้งแต่คอร์สพื้นฐานการบำรุงหนังตามประเภทของหนัง เนื่องจากกระเป๋าหนึ่งใบอาจใช้หนังหลายส่วนประกอบกัน หนังแต่ละส่วนใช้น้ำมันบำรุงต่างกัน  เช่น ลาโนลิน ไขวาฬ มิ้งค์ออยล์ หากใช้ผิดประเภท กระเป๋ามีโอกาสเสียทรงจากสภาพหนังที่เสียหาย ต้องระมัดระวัง ถ้ากระเป๋าเสียทรงหรือมีความเปลี่ยนแปลงเกินห้าสิบเปอร์เซ็นต์ เช่น ขัดเหลี่ยมจนหาย ราคาตกทันที หรือไม่มีใครรับซื้อ ในฐานะผู้ให้บริการ ต้องทำให้ถูกต้อง รักษาสภาพกระเป๋าเอาไว้

4 ลงทุนปล่อยให้กู้-จำนำ ใช้เงินจำนวนมาก เป็นนายทุน ดอกเบี้ยสูง

คนใช้แบรนด์เนมมักเสียดายไม่อยากขาย และไม่ชอบเข้าโรงรับจำนำ ทั้งที่ดอกเบี้ย 1.25% แต่การเดินเข้ามาในร้านธุรกิจประเภทนี้ สามารถพูดคุยกันได้ กระเป๋าได้รับการดูแลอย่างดี ที่สำคัญคนรับกระเป๋ารู้มูลค่า

“ทุกวันนี้โรงรับจำนำรับกระเป๋าแบรนด์เนมมือสองแล้ว แต่กระเป๋าแอร์เมสใบละกี่แสนก็แล้วแต่ เขาให้สูงสุดก็หกหมื่นบาท แต่มาที่ร้านของสมาคมฯ ให้ 40 เปอร์เซ็นต์ 50 เปอร์เซ็นต์ก็สู้ แสนห้าก็ให้ได้ตามสภาพกระเป๋า ปูคิดดอกเบี้ย 10 เปอร์เซ็นต์ต่อเดือน ไม่จำเป็นต้องเป็นร้าน รับของเพื่อนฝูงก็ได้ คนอื่นเอาไปทำกัน 5 เปอร์เซ็นต์ก็มี เขียนจดหมายกันดีๆ ฝากของไว้ก่อน จ่ายดอกเบี้ยมานะ เดี๋ยวมาเอาของคืน”

5 เป็นนายหน้ารับฝากขาย-ให้เช่า เปิดร้านรับออฟไลน์ ออนไลน์

การฝากขายแล้วแต่จะตั้งราคา 10-20 เปอร์เซ็นต์ ขึ้นอยู่กับจะดึงคนมาฝากขายได้ไหม และขายให้เขาสำเร็จไหม

6 เป็นผู้เชี่ยวชาญรับตรวจสินค้าแท้-ปลอม 

การรับตรวจสินค้าของแท้-ของปลอมก็สามารถทำเป็นธุรกิจได้ หลายคนสนใจซื้อนาฬิกาตามโซเชียลมีเดีย มีความไม่แน่ใจ จึงนัดคนขายไปใช้บริการที่ Expert Watch (ศูนย์ซ่อมนาฬิกามาตรฐานสวิส)ตรวจสอบให้ ซึ่งคิดค่าบริการครั้งละ 1,000 บาท พร้อมออกใบรับรองให้ว่าของแท้

เช่นเดียวกับที่ สมาคมแบรนด์เนมมือสอง ก็มีผู้เชี่ยวชาญให้บริการตรวจสอบแบรนด์เนมของแท้-ของปลอมถ้าคุณไม่แน่ใจก่อนซื้อสินค้ามือสอง โดยใช้ผู้เชี่ยวชาญ 5 คนลงความเห็นต่อสินค้า 1 ชิ้น หากผู้เชี่ยวชาญ 3 ใน 5 คนลงความเห็นว่าของแท้ สองคนลงความเห็นว่าของปลอม ก็จะเลือกผู้เชี่ยวชาญชุดใหม่อีก 5 คนมาพิจารณา ถ้าอย่างน้อย 3 คนลงความเห็นว่าของแท้ ก็เชื่อได้ว่าสินค้านั้นเป็นของแท้

“การดูสินค้าของแท้ของปลอมสำหรับของมือสองก่อนรับซื้อเป็นเรื่องสำคัญ สินค้ามือสองส่วนใหญ่จะทำกำไรได้ 30% ไม่ว่าจะซื้อมาใช้หรือซื้อมาลงทุน แต่ถ้าซื้อของปลอม การลงทุนสูญเปล่าทันที”

เวิร์คชอป “ดูแบรนด์เนมของแท้-ของปลอม”

7 ประมูลสินค้าแบรนด์เนม

เปิดประมูลแบรนด์เนมที่คุณมีได้ทั้งกระเป๋า เสื้อผ้า นาฬิกา รองเท้า ก็สามารถสร้างรายได้ให้ตนเอง หรือหาสินค้ามาเพิ่มเติมด้วยการไปประมูลจาก กรมศุลกากร และ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ที่มีการเปิดประมูลเป็นระยะ เพื่อนำมาต่อยอดประกอบธุรกิจด้านอื่นๆ ข้างต้นแล้วแต่ความถนัดของนักลงทุนแต่ละคน

ศุภาณัท จรูญพรภักดี และผู้เข้ารับการอบรมหลักสูตร “Alternative Investment Season 1" เรื่อง “วิธีทำกำไรจากกระเป๋าแบรนด์เนม”

“7 วิธีทำธุรกิจกับแบรนด์เนม คุณอาจถนัดทำข้อใดข้อหนึ่ง หรือทำหลายข้อไปพร้อมกันก็ได้ ถ้าคุณมีความสามารถพอ ปรับใช้ให้เข้ากับความสนใจของตัวเอง เพราะแต่ละข้อก็สามารถเกี่ยวพันกันได้” ศุภาณัท กล่าวแนะนำ

ในการบรรยายเรื่อง “วิธีทำกำไรจากกระเป๋าแบรนด์เนม” ในหลักสูตร “Alternative Investment Season 1 ทางรอดฝ่าวิกฤตกับสินทรัพย์ทางเลือก” ยังมีข้อมูลที่น่าสนใจอีกมากมาย เช่น กฎหมาย การทำบัญชี การเสียภาษีอย่างถูกต้อง ไลฟ์สดขายแบรนด์เนมต้องระวังทั้งมือหนึ่งและมือสอง วิธีการดูของแท้ของปลอม ผู้สนใจติดตามการอบรมครั้งต่อๆ ไปได้ที่ www.bangkokbiznews.com

ทางเลือกการลงทุนตามความสนใจเฉพาะด้าน

* * *

เรื่องที่คุณอาจสนใจ

• 'กัญญารัตน์ พลาดิศัย' ลงทุน ‘กระเป๋า’ แบรนด์เนม รุ่นไหนดี
• ออม ‘ศิลป์’ ให้เป็นทรัพย์ กับ ก้องเกียรติ โอภาสวงการ
• 5 ข้อต้องรู้ สำหรับมือใหม่หัดออม 'ศิลป์'