'หมาบางแก้ว' เหตุใดละม้ายจิ้งจอก รู้จักนิสัยน้องเบื้องต้นก่อนเลี้ยง
ทำไม "หมาบางแก้ว" หรือสุนัขสายพันธุ์ "ไทยบางแก้ว" จึงมีลักษณะบางอย่างคล้ายสุนัขจิ้งจอก อยากเป็นเจ้าของ..ควรถามอะไรตัวเองก่อนเลี้ยง
...ขนปุยยาว มีความสง่างาม ว่องไวและแข็งแรง เวลายืนมักเชิดหน้าและโก่งคอคล้ายม้า...
เป็นคำบรรรยายถึงลักษณะส่วนหนึ่งของ ไทยบางแก้ว สุนัขสายพันธุ์หนึ่งที่มีถิ่นกำเนิดในประเทศไทย มักเรียกกันสั้นๆ ว่า “หมาพันธุ์บางแก้ว” ดูๆ ไปรูปทรงคล้ายสุนัขจิ้งจอกอยู่เหมือนกัน
สุนัขไทยบางแก้ว จัดอยู่ในกลุ่มสุนัขขนาดกลาง ขนาดเท่าสุนัขไทยทั่วไป หรือเล็กกว่าเล็กน้อย ไม่อ้วน ความสูงวัดที่ไหล่ ตัวผู้พ่อพันธุ์สูงราว 42-53 เซนติเมตร น้ำหนัก 14-16 กิโลกรัม ตัวเมียแม่พันธุ์สูงราว 38-48 เซนติเมตร น้ำหนัก 13-15 กิโลกรัม
รูปทรงของสุนัข ‘ไทยบางแก้ว’ ตั้งแต่ช่วงขาหน้าถึงขาหลังเป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัส ลำตัวหนาปานกลาง ไหล่กว้าง ขาหน้าใหญ่กว่าขาหลังเล็กน้อย ขาส่วนบนใหญ่และเรียวลงมาถึงข้อเท้า ตั้งตรงแข็งแรง ยืดอกเวลายืน ถ้าดูด้านข้างจะเห็นขนยาวเป็นเส้นตรงจากข้อเท้าด้านหลังขึ้นไปถึงข้อศอกเหมือนขาสิงห์ ท้องไม่คอดกิ่ว
หัวกะโหลกใหญ่ หน้าแหลม กะโหลกศีรษะและปากรับกันเป็นรูปสามเหลี่ยม หูเล็ก-สั้น-ตั้ง-ป้องไปข้างหน้า ปลายหูเบนไปข้างๆ เล็กน้อย โคนหูทั้งสองอยู่ห่างกันมากกว่าสุนัขพันธุ์อื่นๆ ใช้เป็นจุดเด่นในการสังเกตว่าเป็นสุนัขบางแก้ว ภายในหูมีขนปรายสีดำปิดรูหู และคอยาวกว่าสุนัขไทยทั่วไป
ขนมีสองชั้น หนา ชั้นล่างละเอียดอ่อนนิ่ม ขนชั้นบนยาวเป็นเส้น เมื่อยังเล็กจะมีขนยาวปุกปุยแน่นทั่วตัว แต่เมื่อโตขึ้นจะมีขนยาวปานกลางแน่นทั้งตัว ขนที่กลางหลังตั้งแต่แผงคอไปยังโคนหางจะยาวกว่าขนบริเวณอื่น ๆ มีแผงขนเป็นชั้นช่วงสันหลัง เวลาโกรธจะฟูยกให้เห็นชัดเจน ด้านล่างจากข้อเท้าตอนล่างถึงโคนขาตอนบนจะมีขนยาวฟูพอประมาณ หางต้องเป็นพวง ถือเป็นลักษณะเด่นที่สืบทอดมาจากสุนัขจิ้งจอก
สุนัข ‘ไทยบางแก้ว’ ได้รับการตั้งชื่อตามถิ่นกำเนิดคือ วัดบางแก้ว ตำบลท่านางงาม อำเภอบางระกำ จังหวัดพิษณุโลก ซึ่งตั้งอยู่ริมแม่น้ำยม และยังเป็นที่มาอีกว่าทำไมสุนัขไทยบางแก้วจึงมีลักษณะคล้าย สุนัขจิ้งจอก หรือเป็นสุนัขลูกผสมของสุนัขจิ้งจอก
สภาพภูมิประเทศทั่วไปของที่ตั้งวัดบางแก้วขณะนั้นยังคงเป็นป่าพง ป่าระกำ ป่าไผ่ และต้นไม้ชนิดต่างๆ ขึ้นอยู่อย่างหนาแน่น เป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่าชนิดต่างๆ อย่างชุกชุม เช่น ช้างป่าเป็นโขลงๆ หมูป่า ไก่ป่า หมาจิ้งจอก และหมาใน (หมายถึง ‘หมาในป่า’ คนละสายพันธุ์กับ ‘หมาไน’ แห่งแอฟริกา)
โอกาสที่ สุนัขจิ้งจอก และ หมาในตัวผู้ จะมาแอบลักลอบเข้ามาผสมพันธุ์กับสุนัขไทยตัวเมียที่เลี้ยงไว้ใน ‘วัดบางแก้ว’ มีความเป็นไปได้สูงมาก เพราะสุนัขป่าทั้งหลายนี้เป็นสุนัขที่กล้าหาญชาญชัย ว่องไว ปราดเปรียว แข็งแรง
สุนัขไทยพันธุ์บางแก้วจึงมีลักษณะดีเด่นปรากฏโฉมออกมา คือมีขนยาว ขนมีลักษณะเป็นขนสองชั้น หางเป็นพวงสวยงาม มีขนแผงคอคล้ายแผงคอสิงโต เฉลียวฉลาด มีไอคิวสูงไม่แพ้สุนัขพันธุ์ต่างประเทศ รวมทั้ง ‘ความดุ’
ในเวลานั้น ‘หลวงพ่อมาก เมธาวี’ เจ้าอาวาสองค์ที่ 3 ของวัดบางแก้ว เลี้ยงสุนัขไว้ไม่ต่ำกว่า 20-30 ตัว ส่วนใหญ่เป็นสุนัขที่ดุขึ้นชื่อลือชา และชาวบ้านทราบกันดีใครเข้ามาในวัดแต่ละครั้ง ต้องตะโกนให้เสียงแต่ไกลๆ เพื่อให้พระอาจารย์ช่วยดูหมาเอาไว้ก่อน มิฉะนั้นจะถูกไล่กัด
ด้วยกิตติศัพท์ในความดุของสุนัขที่วัดบางแก้วนี้เอง จึงมีผู้คนนิยมมาขอลูกสุนัขไปเลี้ยงไว้ เฝ้าบ้าน เฝ้าเรือน เฝ้าเรือ เฝ้าแพ เฝ้าวัว เฝ้าควาย พื้นที่ที่สุนัขไทยบางแก้วได้ขยายพันธุ์ไปมากที่สุดก็คือ ตำบลท่านางงาม และ ตำบลชุมแสงสงคราม อำเภอบางระกำ จังหวัดพิษณุโลก แต่ในปัจจุบันได้ขยายวงกว้างออกไปหลายจังหวัด โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเฝ้าบ้านเรือนหรือเรือกสวนไร่นาทางภาคใต้และภาคตะวันออก
สุนัข ‘ไทยบางแก้ว’ มีนิสัยรักเจ้าของ ฉลาดปราดเปรียว กล้าหาญ ค่อนข้างดุ สามารถฝึกหัดได้ ชอบเล่นน้ำมาก
เว็บไซต์ dogilike.com ระบุว่า สิ่งแรกที่ผู้เลี้ยงต้องลงมือทำก่อนที่จะรับเลี้ยงสุนัข ‘ไทยบางแก้ว’ คือ ศึกษาและทำความเข้าใจในลักษณะนิสัยของสุนัข
- ไทยบางแก้ว วัย 6-10 สัปดาห์ ส่วนมากมีนิสัยเหมือนหมาวัยเด็กทั่วไป คือ ชอบกัดแทะและขุดดิน แต่จะหนักกว่า เพราะมีพลังงานสูง ผู้เลี้ยงจึงต้องหาของเล่นให้น้องหมากัดเล่น
- ไทยบางแก้ว วัย 2 เดือนขึ้นไป เริ่มมีนิสัย หวงถิ่นที่อยู่ หวงสิ่งของ รวมถึง หวงเจ้าของ และพร้อมที่จะเข้าต่อสู้หรือปกป้องเจ้าของหากเกิดอันตราย ถ้าสุนัขไม่ได้รับการอบรม ก็อาจมีพฤติกรรมก้าวร้าวได้ เจ้าของจึงต้อง มีเวลา ให้กับสุนัขเพื่อฝึกทักษะให้สุนัขรู้จักสงบนิ่ง มีวินัยที่ดี รู้จักคำสั่งพื้นฐานง่ายๆ เช่น “หยุด-ไม่” เมื่อสุนัขทำสิ่งผิด สุนัขจะได้เรียนรู้ว่าสิ่งไหนดี-ไม่ดี อะไรควรทำ-ไม่ควรทำ เพื่อควบคุมส่วนที่ ‘ดุ’ ของสุนัข
- มีนิสัยชอบลงไป นอนแช่น้ำ เพราะขี้ร้อน หรือมีร่มเงาต้นไม้ให้นอนพัก ซึ่งผู้เลี้ยงก็ต้องคอยดูแลอย่างสม่ำเสมอ เนื่องจาก ‘ไทยบางแก้ว’ มักพบเป็นโรคผิวหนังบ่อยกว่าสุนัขสายพันธุ์อื่นๆ
- ชอบ ออกกำลังกาย สถานที่เลี้ยงจึงควรมีพื้นที่โล่งหรือบริเวณให้สุนัขวิ่งเล่น ช่วยปลดปล่อยพลังงานและระบายความกดดันของสุนัขได้ทางหนึ่ง
ใครอยากเลี้ยงสุนัขไทยบางแก้ว ไปชมน้องตัวเป็นๆ และศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมก่อนได้ในงาน Bangkaew Dog Story @CentralPlaza Phitsanulok ซึ่งบริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) ร่วมกับ ‘โครงการบางแก้วร่วมใจ’ และกลุ่มผู้ประกอบการ ร่วมกันจัดงานนี้ขึ้นที่ลานโปรโมชั่น ชั้น 1ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา พิษณุโลก ระหว่างวันที่ 12-18 ตุลาคม 2563
- พบกับสุนัขพันธุ์บางแก้วจาก 5 ฟาร์มระดับประเทศของเมืองไทย น้องสิบหมื่นและน้องเป๋าตังค์ มูลค่ากว่า 1 ล้านบาท ในวันที่ 13 ตุลาคม และ ระหว่างวันที่ 17-18 ตุลาคม 2563
- Dog Talent Show การแสดงของสุนัขแสนรู้
- กิจกรรมการแข่งขันกินสู้ฟัด จาก Jerhigh
- ร้าน Nail & Spa สำหรับน้องหมาสุดน่ารัก
- สตูดิโอถ่ายภาพสำหรับน้องหมาตัวโปรด
- สินค้าและผลิตภัณฑ์สำหรับสัตว์เลี้ยงแสนรักกว่า 30 บูธ
- ลูกค้าที่แอดไลน์ @centralphitsanulok รับสิทธิ์ถ่ายรูปสตูดิโอน้องหมาฟรี (จำนวนจำกัด)
“เราสร้างประสบการณ์แห่งความสุขให้กับเจ้าของและน้องหมาแสนรักได้ใช้ช่วงเวลาร่วมกันที่ศูนย์การค้าของเรา โดยนำกิจกรรมใหม่ๆ เข้ามาสร้างสีสัน อาทิ Dog Food Truck รถขายอาหารสุนัขทำสด การันตีทั้งคุณภาพและความอร่อยถูกใจเจ้าตูบ, ร้าน Nail & Spa สปาเพิ่มความสดใสคืนความสวยหล่อให้น้องหมาสุดรัก, สตูดิโอถ่ายภาพแมกกาซีนสำหรับสุนัขตัวโปรด, กิจกรรมทดสอบ IQ test สำหรับน้องหมา, พาน้องหมามาเข้าสังคมกับกิจกรรม Dog Club คลับที่จะรวมตัวสุนัขสายพันธุ์บางแก้ว และการแสดง Dog Talent Show โชว์สุดพิเศษจากสัตว์เลี้ยงแสนรู้ เป็นต้น ซึ่งนอกจากที่เราจะได้เติมเต็มประสบการณ์และเข้าถึงไลฟ์สไตล์ของกลุ่ม Pet Lover แล้ว ยังเป็นการเพิ่มโอกาสในการสร้างรายได้ให้แก่ผู้ประกอบการในพื้นที่ไปพร้อมๆ กันอีกด้วย” ณัฐกิตติ์ ตั้งพูลสินธนา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการตลาด บมจ.เซ็นทรัลพัฒนา กล่าว
แต่ไม่ว่าจะเลี้ยงสุนัขพันธุ์ใด เจ้าของต้องเอาใจใส่ มีเวลา และรับผิดชอบอย่างจริงจัง เพื่อป้องกันปัญหาทอดทิ้งสุนัขและสร้างปัญหาให้ผู้อื่น