'แทมมาริน วิลเลจ เชียงใหม่' ความผ่อนคลายสไตล์ล้านนา

ต้นมะขามยักษ์เด่นตระหง่านอยู่กลางลานสนามหญ้าในโรงแรม คือ เอกลักษณ์ของโรงแรมสไตล์ล้านนาประยุกต์ ที่ดึงเอาจุดเด่นของพื้นที่เดิมมาตั้งเป็นชื่อว่า Tamarind Village Chiang Mai – แทมมาริน วิลเลจ เชียงใหม่

จากปากทางถนนราชดำเนิน ในเมืองเชียงใหม่ ตรงกับประตูท่าแพพอดิบพอดี เข้ามาไม่ไกลนัก คือพิกัดของ “โรงแรมแทมมาริน วิลเลจ” แม้ว่าบนถนนสายนี้จะถูกกาลเวลาแต่งแต้มหลายอย่างเข้ามา แต่มนต์เสน่ห์ของศิลปะล้านนายังมีให้เห็นผ่านสถาปัตยกรรมของวัดวาที่เรียงรายอยู่ทั่ว รวมถึงความกลมกลืนของโรงแรมที่มีกลิ่นอายศิลปะเชียงใหม่แบบเข้มข้น แต่โดดเด่นด้วยการนำความโมเดิร์นเข้ามาบาลานซ์

การดีไซน์และตกแต่งให้ “โรงแรมแทมมาริน วิลเลจ” เป็นโรงแรมดั้งเดิมแต่ท้าทายกาลเวลาได้ขนาดนี้ เป็นฝีมือการออกแบบของ องอาจ สาตรพันธุ์ ศิลปินแห่งชาติ ประจำปี 2552 สาขาทัศนศิลป์ ด้านสถาปัตยกรรมร่วมสมัย ที่ดึงเอารูปแบบล้านนาประยุกต์ หลังคาทรงต่ำ โดยมีคอนเซปต์หลักคือเป็นหมู่บ้าน ซึ่งในยุคแรกเริ่มนั้นที่นี่คือวิลเลจแห่งแรกของเมืองเชียงใหม่เลยทีเดียว

แรงบันดาลใจการออกแบบมาจากวัดอินทราวาส เชียงใหม่ หรือ “วัดต้นเกว๋น” โดยสังเกตได้จากระเบียงคด ที่ทอดยาวตั้งแต่ด้านหน้าไปจนทั่วโรงแรม แล้วมาแตกแยกย่อยความน่าสนใจของแต่ละอาคาร บ้านแต่ละหลัง ด้วยศิลปะของกลุ่มชาติพันธุ์ต่างๆ ในเชียงใหม่ อาทิ ไทเขิน, ไทยวน, ไทใหญ่, ไทลาว ทำให้บางตึกมีจั่วซ้อนกัน บางตึกมีบันไดสองข้าง บางตึกมีบันไดข้างเดียว ตามแต่ละกลุ่มชาติพันธุ์

แต่ที่มีเหมือนกันเลยคือการเลือกใช้กระเบื้องดินขอ เป็นกระเบื้องมุงหลังคาแบบโบราณ มีคุณสมบัติทำให้เย็นในช่วงฤดูร้อน และทำให้อบอุ่นในช่วงฤดูหนาว บวกกับการออกแบบหลังคาทรงต่ำ จึงทำให้ความหนาวเย็นของเมืองเหนือไม่มากเกินไป

คาแรคเตอร์แบบล้านนาประยุกต์ถูกถ่ายทอดไปยังรายละเอียดต่างๆ ใน “โรงแรมแทมมาริน วิลเลจ” โดยเน้นวัสดุจากกลุ่มชาติพันธุ์ล้านนา อย่างเช่น ผ้าทอ มาทำเป็นหมอนตกแต่ง ผ้าม่าน ส่วนอาคารที่มี inspiration จากไทเขิน ก็จะใช้เครื่องเขิน ผ้าทอแถบสิบสองปันนา มาตกแต่ง เป็นต้น

สำหรับห้องพัก มีทั้งหมด 46 ห้อง แบ่งเป็น ลานนากับดีลักซ์ 41 ห้อง และห้องสวีท 5 ห้อง แบ่งออกเป็น 5 แบบ ดังนี้

ห้องลานนา มีอยู่ทั้งชั้น 1 และ 2 ของอาคารที่รายรอบด้วยสวนเขียวขจี การตกแต่งของทุกห้องมีเสน่ห์เฉพาะตัว อาทิ การใช้กล่องเครื่องเขิน และ หมวกเด็กชาวเขา ซึ่งเป็นความใส่ใจในรายละเอียดเช่นเดียวกับที่พบเห็นได้ทั่วทั้งโรงแรม

ห้องลานนาดีลักซ์ พรั่งพร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ เช่นเดียวกับห้องลานนา แต่เพิ่มความสะดวกสบายกับขนาดที่กว้างขึ้นและระเบียงหรือที่นั่งนอกบ้าน

ห้องลานนาสวีท มีอยู่ทั้งชั้น 1 และ 2 ของอาคาร ด้วยขนาดพื้นที่ 46 ตารางเมตร ภายในโอ่โถง มีทั้งห้องนั่งเล่นและห้องนอน การตกแต่งภายในห้องพักมีกลิ่นอายของวัฒนธรรมล้านนาโดยนำเอางานฝีมือและสิ่งทอของชนเผ่าพื้นเมืองมาใช้ตกแต่งห้องพัก ภายในห้องน้ำมีอ่างอาบน้ำหินอ่อน และการตกแต่งที่มีเสน่ห์เฉพาะตัวทำให้ลานนาสวีทเหมาะสำหรับวันพักผ่อนของคู่รักและครอบครัว

ห้องแทมมาริน สวีท ยกระดับการพักผ่อนในห้องสวีทที่โอ่โถง กับห้องนั่งเล่นส่วนตัว และห้องน้ำหินอ่อนพร้อมด้วยอ่างอาบน้ำที่แยกออกจากห้องอาบน้ำ การตกแต่งเพิ่มบรรยากาศของห้องพักให้อบอุ่นด้วยพื้นไม้ ชั้นไม้แกะสลักโบราณ ภาพถ่ายขาวดำ ประดับประดาด้วยงานฝีมือชาวเขา

และ ห้องสปา สวีท เป็นห้องพักหนึ่งเดียวที่อยู่เคียงข้างบรรยากาศสงบร่มรื่นของ “เดอะ วิลเลจ สปา” โดยเข้าถึงได้ผ่านบันไดส่วนตัว “ห้องสปา สวีท” เป็นห้องพักพิเศษสุดของโรงแรม ด้วยขนาดห้องที่กว้างขวาง ตกแต่งอย่างเรียบง่ายแฝงไปด้วยรายละเอียด พร้อมห้องน้ำและอ่างอาบน้ำหินอ่อน เปิดออกไปเป็นผักบัวอาบน้ำภายนอก นอกจากนี้ยังมีมุมพักผ่อนบนระเบียงส่วนตัวภายนอกพร้อมเตียงอาบแดด รายล้อมไปด้วยทิวทัศน์ของต้นมะขามตั้งตระหง่านอยู่กลางสวนด้านหนึ่งและเจดีย์ของวัดอุโมงค์เล็กอีกด้านหนึ่ง

นอกจากอาคารและห้องพักแล้ว สถาปัตยกรรมของห้องอาหารที่ชื่อ "เรือนแทมมาริน" ก็น่าสนใจ เพราะเป็นการนำยุ้งข้าวเก่ามาสร้างสรรค์จนเป็นห้องอาหารสุดเก๋ มีสองชั้น ชั้นล่างคือห้องอาหารที่เปิดตลอดทั้งวัน ส่วนชั้นบนเป็นห้องประชุมและห้องสมุด

ส่วนจุดเด่นที่สุดของโรงแรมแห่งนี้ คือ การมีต้นมะขามใหญ่อยู่กลางโรงแรม มะขามต้นนี้มีอายุราว 200 ปี การที่เป็นเสมือนสัญลักษณ์ของที่นี่ ทำให้ได้รับการดูแลอย่างดี รวมถึงต้นไม้น้อยใหญ่ในโรงแรมที่ทาง “แทมมาริน วิลเลจ” ถึงขั้นส่งพนักงานไปเรียนรู้การเป็น “รุกขกร” เพื่อมาดูแลต้นไม้อย่างถูกวิธี

ในช่วงที่สถานการณ์โควิด-19 ทำให้กระบวนทัศน์การท่องเที่ยวเปลี่ยนไป โรงแรมในเมืองเชียงใหม่ทุกแห่งได้รับผลกระทบ หนึ่งในนั้นคือ “แทมมาริน วิลเลจ” แต่ในสถานการณ์ไม่ปกติ นี่เป็นโอกาสดีที่คนไทยจะได้สัมผัสประสบการณ์ล้านนา ในแบบที่อาจจับจองยากสักนิดในช่วงปกติ เพราะเดิมทีที่นี่คือหมุดหมายของนักท่องเที่ยวต่างประเทศก็ว่าได้

แน่นอนว่ามาตรการด้านสาธารณสุขถือว่าเข้มข้นทีเดียว ตั้งแต่ Welcome Drink จากแต่ก่อนเสิร์ฟเป็นแก้วก็เปลี่ยนเป็นขวด รถรับส่งรวมถึงห้องพักก็ทำความสะอาดฆ่าเชื้อโรคตลอดเวลา เป็นไปตามมาตรฐาน SHA ครบถ้วน

และที่นี่ไม่ได้มีดีแค่การพักผ่อนและบรรยากาศเท่านั้น แต่ยังมีกิจกรรมมากมายให้แขกได้ทำ อาทิ กิจกรรม Village Walk ทำมา 2-3 ปีแล้ว ได้รับการตอบรับอย่างดีจากลูกค้า เป็นทัวร์พาเดินเที่ยวชมรอบๆ บริเวณใกล้โรงแรม ประกอบด้วย 3 วัด มีภัตตาหารใส่ปิ่นโตไปถวายพระ โดยทุกคนจะได้สวมใส่ชุดพื้นเมืองล้านนา เป็นอีกประสบการณ์ที่น่าประทับใจ

...

จุดเด่น : อยู่ใกล้แหล่งท่องเที่ยว มีบรรยากาศร่มรื่น เป็นส่วนตัว มีกลิ่นอายล้านนาเต็มเปี่ยม

ที่ตั้ง : บนถนนราชดำเนิน ตรงข้ามประตูท่าแพ เชียงใหม่

ราคา : 3,200 – 13,000 บาท (แล้วแต่ประเภทห้อง, ฤดูกาลท่องเที่ยว และโปรโมชั่น)

ติดต่อ : โทร. 0 2301 1861 และเว็บไซต์ http://www.tamarindvillage.com/