'เดอะ บัลเวนี’ ซิงเกิ้ลมอลต์ ที่มีเอกลักษณ์
ในแวดวงผู้ผลิต ‘ซิงเกิ้ลมอลต์’ (Single Malt) คุณภาพและชื่อเสียงระดับโลกแล้ว ชื่อของ ‘เดอะ บัลเวนี’ (The Balvenie distillery) อยู่ในระดับต้น ๆ
โรงกลั่นนี้เจ้าของคือบริษัท วิลเลียม แกรนต์ แอนด์ ซัน (William Grant & Sons) ตั้งอยู่ในเมืองดัฟฟ์ทาวน์ (Dufftown) ในเขตผลิตซิงเกิ้ลมอลต์ สเปย์ไซด์ (Speyside) ซึ่งเป็น 1 ใน 6 แหล่งผลิตวิสกี้ของสก็อตแลนด์
วิลเลียม แกรนต์ (William Grant) ผู้ก่อตั้งเกิดเมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 1839 ในเมือง Dufftown เริ่มทำงานตั้งแต่ 7 ขวบ ในฟาร์มปศุสัตว์ทางตอนเหนือของแม่น้ำดีเวรอน (Deveron) ก่อนจะมาเป็นเด็กฝึกงานช่างทำรองเท้า ตามด้วยเสมียน กระทั่งปี 1866 จึงก้าวเข้าสู่แวดวงการกลั่นด้วยการทำงานในฝ่ายบัญชีของโรงกลั่นมอร์ตลาส (Mortlach Distillery) ก่อนจะก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งผู้จัดการ ซึ่งตรงนี้เองที่เขาได้เรียนรู้การขายวิสกี้ หลังอยู่กับ Mortlach distillery ประมาณ 20 ปี เขาจึงลาออกมาซื้อพื้นที่ใกล้ ๆ กับ ปราสาทบัลเวนี (Balvenie Castle) และตั้งบริษัทของตนเองในปี 1886 ก่อนจะเสียชีวิตในปี 1923 ด้วยวัย 83 ปี
Balvenie Distillery เริ่มจุดประกายในต้น ๆ ปี 1892 ด้วยการปรับเปลี่ยนคฤหาสถ์ที่สร้างมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 18 คือ Balvenie New House ให้เป็นโรงกลั่นและแล้วเสร็จในวันที่ 1 พฤษภาคม 1893 หลังจากนั้นกิจการก็เติบโตมากนะทั่งปัจจุบัน และผลิตวิสกี้ส่งไปทั่วโลก สามารถกวาดรางวัลมาแล้วมากมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ซิงเกิ้ลมอลต์ (Single Malt)
ก่อนอื่นทำความเข้าใจ ซิงเกิ้ลมอลต์ (Single Malt) สักนิด ความหมายในเบื้องต้นคือ “....วิสกี้ที่หมักและกลั่นจากมอลต์ของข้าวบาร์เลย์ (malted barley) หรือการเพาะข้าวบาร์เลย์ให้งอกเป็นมอลต์ล้วน ๆ.....” แต่ 2 คำ Single กับ Malt มีความหมายมากกว่านั้น
Single หมายความว่าทุกหยาดหยดของมอลต์ในขวด มาจากโรงกลั่นเดียว (Single distillery) เท่านั้น แต่ถ้าผสมกันหลายโรงกลั่นจะเรียกว่าเบลนเดด มอลต์ (Blended Malt) หรือ แวตเตด มอลต์ (Vatted Malt)
Malt หมายความว่าวิสกี้นั้นต้องทำจากมอลต์ (malted) ของธัญพืชล้วน ๆ โดยธัญพืชที่ทำวิสกี้ได้ดีคือ ข้าวบาร์เลย์ (Barley) ข้าวสาลี (Wheat) และข้าวไรย์ (Rye) แต่ถ้าเป็น Single Malt Scotch Whisky ต้องเป็น Barley เท่านั้น
Single Malt มีการผลิตกันทั่วโลกแต่ความขลังและศักดิ์สิทธิ์อยู่ที่สกอตแลนด์ ดังนั้นตัวจริงเสียงจริง ข้างขวดต้องมีคำว่า Single Malt Scotch Whisky นั่นหมายความว่าต้องทำจาก Malted Barley ล้วน ๆ (สามารถเติมคาราเมลแต่งสีได้) ต้องกลั่นแบบสองครั้งหรือแบบกลั่นทับ (Pot Still) อันเป็นวิธีกลั่นที่จะสงวนกลิ่นรสของข้าวมอลต์เอาไว้ได้ดีที่สุด จากนั้นต้องบ่มในถังไม้โอ๊คอย่างน้อย 3 ปี (แต่ส่วนใหญ่บ่มนานกว่านี้) และถังโอ๊คนั้นต้องมีความจุเกิน 700 ลิตร เป็นต้น
อีกอย่างหนึ่งที่สำคัญก็คือ กลิ่น (Aroma) รสชาติ (Flavour) และ ความยาวในตอนจบ (Finish) ทุกอย่างจะขึ้นอยู่กับแหล่งผลิต Single Malt Whisky มีวิธีการแบ่งคล้าย ๆ กับไวน์ในเรื่องของต้นกำเนิดหรือแหล่งผลิต (Region) โดยแต่ละ Region จะมีรสชาติ คุณลักษณะ (Character) และสไตล์ (Style) ต่างกัน ที่สำคัญทั้ง 6 เขตนี้มีกฎหมายคุ้มครองและปกป้องการผลิตวิสกี้อย่างเคร่งครัด
ในเมืองไทยบริษัท อิตาเลเซีย (Italasia) เป็นผู้นำเข้า ซิงเกิ้ลมอลต์ เดอะ บัลเวนี (The Balvenie) ซึ่งมีหลากหลายรุ่น ที่ผมเคยชิมมาแล้วมีดังนี้
เดอะ บัลเวนี ดับเบิ้ล วู้ด 12 ปี (The Balvenie Double Wood 12 Years Old) : เป็นรุ่นที่บ่มในถังโอ๊ค 2 ชนิด คือโอ๊คที่ผ่านมการบ่มเบอร์เบิ้น (Bourbon) และถังที่ผ่านมาบ่มแชร์รี (Sherry) ซึ่งเป็นฟอร์ติไฟด์ ไวน์ของสเปน แอลกอฮอล์ 40%Vol...สีเหลืองทอง หอมกลิ่นลูกเกด เชอร์รี ราสพ์เบอร์รี ช็อกโกแลต ขนมปัง สไปซี เฮิร์บ อบเชย เปปเปอร์ วานิลลา จบด้วยสไปซี ผลไม้สุกหอมหวาน
เดอะ บัลเวนี แคริบเบียน คาสค์ 14 ปี (The Balvenie Caribbean Cask 14 Years Old) รุ่นที่บ่มในถังไม้โอ๊คที่ผ่านการบ่มเหล้ารัม (Rum) มาแล้ว เป็นรุ่นที่หนักแน่น ดมครั้งแรกได้กลิ่นหอมหวานของผลไม้สุก ท็อฟฟีนม น้ำอ้อย คาราเมล ขณะที่อยู่ในปากมีวานิลลาที่โดดเด่น ตามด้วยโอ๊คหอมหวาน สไปซี จันทน์เทศ อบเชย ผลไม้สุก จบด้วยความนุ่นเนียน และสไปซีชุ่มคอ
เดอะ บัลเวนี ดับเบิ้ล วู้ด 17 ปี (The Balvenie Doublewood 17 Years Old) : บ่ม 2 โอคเหมือนกับรุ่น 12 ปี เป็นรุ่นที่คลาสสิก นุ่มนวลเนียนกว่า สีเหลืองทองอำพัน หอมกลิ่นเชอร์รีสุกฉ่ำ น้ำผึ้ง ฮาเซลนัท น้ำแอปเปิ้ล น้ำตาลทรายแดง ดอกไม้ เฮิร์บเขียว ๆ ขนมแอปเปิ้ลทาร์ตโดดเด่น และครีมมี จบด้วยน้ำผึ้ง ผลไม้สุก และโอ๊คหอมหวาน
เดอะ บัลเวนี ซิงเกิ้ล บาร์เรล 15 ปี (The Balvenie Single Barrel 15 Years Old) รุ่นที่บ่มในถังโอ๊คที่ผ่านการบ่มเบอร์เบิ้นมาแล้ว โดยบ่มเฉพาะถังไม่เอามาปนกันตอนบรรจุขวด ซึ่งบรรจุขวดด้วยมือทีละขวด แต่ละถังจะบรรจุไม่เกิน 350 ขวด มีหมายเลขประจำขวด เป็นซิงเกิ้ลมอลต์สไตล์ “Silky, Rich, Complex” หมัดหนักแต่แฝงไว้ด้วยความนุ่มนวล ...สีเหลืองทองเข้ม หอมกลิ่นน้ำผึ้ง วานิลลา โอ๊ค เปลือกส้มตากแห้ง กลิ่นข้าวบาร์เลย์ต้ม สไปซีเฮิร์บ อบเชย จันทน์เทศ กานพลู ผลไม้สุก จบด้วยกลิ่นเหล้าเบอร์เบิ้น สไปซี น้ำผึ้ง
เดอะ บัลเวนี พอร์ต วู้ด 21 ปี (The Balvenie Portwood 21 Years Old) : รุ่นพรีเมี่ยมของ เขา ทำจากซิงเกิ้ลมอลต์ ที่หายากและเก็บไว้นานเป็นพิเศษ จากนั้นนำมาเบลนด์กันแล้วบ่ม 21 ปีในถังโอ๊คที่ผ่านมาบ่มพอร์ต (Port) ซึ่งเป็นฟอร์ติไฟด์ ไวน์ชื่อดังของโปรตุเกสมาแล้ว เป็นรุ่นที่น้ำเนื้อหนักแน่น ล้ำลึก แต่นุ่มเนียนดุจใยไหม ...สีเหลืองทองอำพัน หอมกลิ่นพีช ควันไฟ ลูกเกด ผลไม้สุก โดยเฉพาะเบอร์รีค่อนข้างโดดเด่น โอ๊คกรุ่น ๆ น้ำผึ้ง ดอกไม้ ครีมมี สไปซี จันทน์เทศ ถั่ว ช็อกโกแลต จบด้วยกลิ่นโกโก้กรุ่น ๆ น้ำผึ้ง สไปซี่เฮิร์บหอมหวานชุ่มคอ
นั่นคือส่วนหนึ่งของ เดอะ บัลเวนี (The Balvenie) ซิงเกิ้ล มอลต์ จากโรงกลั่นที่ยังคงกระบวนการผลิตตามกรรมวิธีดั้งเดิม ซึ่ง ณ วันนี้มีไม่กี่แห่ง..!!