'กินเจ 2566' เปิดลิสต์ 5 ผักห้ามกิน 9 ข้อห้ามทำ 'เทศกาลถือศีลกินผัก'
"กินเจ 2566" ปีนี้มีขึ้นระหว่างวันที่ 15-23 ตุลาคม 2566 สำหรับใครที่อยากร่วมพิธี 'ถือศีลกินผัก' อย่างเคร่งครัด จะต้องถือศีลให้เหมาะสม รวมถึงรู้ 'ข้อห้าม' 9 ข้อ และผักที่ห้ามกิน 5 ชนิด
เทศกาล “กินเจ 2566” เริ่มต้นขึ้นวันแรกในวันที่ 15 ตุลาคม 2566 โดยก่อนหน้านั้น 1-2 วัน หลายคนเริ่มปรับสมดุลร่างกายด้วยการเปลี่ยนจากการกินอาหารปกติ มากิน “อาหารเจ” เพื่อเป็นการล้างท้องก่อนที่จะเข้าสู่เทศกาลกินเจ เต็มรูปแบบ
สำหรับคนที่เลือก “กินเจ” แบบไม่เคร่ง เน้นการกินเจเพื่อสุขภาพเป็นหลัก โดยการงดบริโภคเนื้อสัตว์และเปลี่ยนมารับประทานผัก ผลไม้ เต้าหู้ ธัญพืชต่างๆ ทดแทน แต่ไม่ได้ถือศีลหรือปฏิบัติตามหลักต่างๆ มากมายนัก ก็ไม่ได้ผิดอะไร ถือเป็นทางเลือกสุขภาพของแต่ละบุคคล
แต่สำหรับใครที่อยากร่วม “ถือศีลกินผัก” อย่างเคร่งครัด เพื่อให้ได้บุญตามความเชื่อและได้สุขภาพดีไปพร้อมกัน ก็ต้องมาเรียนรู้ข้อปฏิบัติ การถือศีล และข้อห้ามต่างๆ ในระหว่างกินเจทั้ง 9 วัน กรุงเทพธุรกิจ ได้รวบรวมข้อควรปฏิบัติและข้อห้ามต่างๆ สำหรับการ "กินเจ" แบบเคร่งครัด มาฝากกัน ดังนี้
- งดกินเนื้อสัตว์ และผลิตภัณฑ์จากสัตว์
แน่นอนว่าคนที่จะ "กินเจ" ต้องรู้อยู่แล้วว่าอาหารเจ คือ อาหารที่ปราศจากเนื้อสัตว์ทุกชนิด ทั้งนี้ รวมถึงผลิตภัณฑ์ต่างๆ จากสัตว์ ไม่ว่าจะเป็น นมวัว, นมแพะ, น้ำมันหมู, ไข่ไก่, ไข่เป็ด, เนย, ชีส, โยเกิร์ต, น้ำผึ้ง, เจลาติน(ทำจากไขกระดูกและหนังสัตว์) ฯลฯ ต้องงดอาหารที่มีส่วนผสมของผลิตภัณฑ์เหล่านี้ด้วย เนื่องจากเป็นการเบียดเบียนสัตว์เพื่อให้ได้มา ดังนั้นจึงเป็นของต้องห้ามในช่วงกินเจเช่นกัน
- งดกินผักกลิ่นฉุน 5 ชนิด ในช่วงเทศกาลกินเจทั้ง 9 วัน
มีข้อมูลจาก ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร ในบทความ "ประเพณีท้องถิ่นในประเทศไทย" ได้อธิบายถึงข้อห้ามอีกอย่างในการ "กินเจ" อย่างเคร่งครัด นั่นคือ ต้องงดบริโภคผักกลิ่นฉุน 5 ชนิด เนื่องจากตามความเชื่อของชาวจีนฮกเกี้ยน ซัวเถา (ต้นกำเนิดประเพณีถือศีลกินผักในไทย) เชื่อว่าผักกลิ่นฉุนทั้ง 5 ชนิดนี้จะไปทำลายธาตุทั้งห้าในร่างกาย ได้แก่
- กระเทียม : ทำลายธาตุไฟ ทำให้หัวใจทำงานไม่ปกติ
- หอมใหญ่ หอมแดง ต้นหอม : ทำลายธาตุน้ำ ทำให้ไตทำงานไม่ปกติ
- กุยช่าย : ทำลายธาตุไม้ ทำให้ตับทำงานไม่ปกติ
- หลักเกียว (คล้ายกระเทียมโทน) : ทำลายธาตุดิน ทำให้ม้ามทำงานไม่ปกติ
-ใบยาสูบ (สูบบุหรี่) : ทำลายธาตุโลหะ ทำให้ปอดทำงานไม่ปกติ
ส่วนในทางการแพทย์พบว่าผักกลิ่นฉุนทั้ง 5 ชนิดนี้ มีคุณสมบัติช่วยย่อยโปรตีนจากเนื้อสัตว์ ทำให้ระบบย่อยอาหารไม่ต้องทำงานหนักเกินไป แต่ในช่วงกินเจที่งดกินเนื้อสัตว์ หากกินผักเหล่านี้มากๆ ก็อาจระคายเคืองกระเพาะอาหาร และยังส่งผลต่อฮอร์โมนร่างกาย ทำให้จิตใจไม่สงบ หงุดหงิดง่าย และกระตุ้นการผลิตฮอร์โมนเพศ จึงไม่เหมาะสมที่จะบริโภคในช่วงถือศีลกินเจ
- งดบริโภคอาหารรสจัด
เนื่องจากตามวัฒนธรรมการกินของชาวจีน มักจะกินอาหารที่รสไม่จัด เพราะชาวจีนถือว่าอาหารรสจัดไม่ดีต่อสุขภาพ ไม่ว่าจะเป็นอาหารเผ็ดจัด เค็มจัด หวานจัด เนื่องจากส่งผลเสียต่อกระเพาะอาหารและการทำงานของไต
ส่วนในเรื่องความเชื่อทางศาสนา คนที่กินเจเชื่อกันว่าอาหารที่ผ่านการปรุงแต่งไม่เหมาะที่บริโภคช่วงกินเจ ทำให้ศีลไม่บริสุทธิ์ ช่วงกินเจจึงเน้นกินอาหารรสอ่อนๆ สดใหม่จากธรรมชาติ และไม่ผ่านการปรุงแต่งมากนัก
- ห้ามใช้ภาชนะร่วมกับผู้ที่ไม่ได้กินเจ
ข้อนี้อาจจะทำได้ยากสักหน่อย แต่สำหรับคนที่อยาก "ถือศีลกินเจ" ให้บริสุทธิ์จริงๆ ก็ต้องปฏิบัติตามข้อนี้ให้ได้ นั่นคือ ต้องรับประทาน "อาหารเจ" ที่ปรุงจากคนที่ถือศีลกินผักเหมือนกัน หรือไปรับอาหารเจจากศาลเจ้าเท่านั้น
หากไปรับประทานอาหารเจในร้านอาหาร ต้องเลือกร้านที่แยกภาชนะอาหารเจโดยเฉพาะ ไม่ปะปนกับอาหารปกติ แต่ในปัจจุบันเรื่องนี้อาจทำให้ยุ่งยากในชีวิตประจำวัน ส่วนใหญ่จึงไม่ค่อยเคร่งเรื่องนี้มากนัก ขอให้เป็นอาหารเจที่ปรุงถูกหลัก ปรุงสะอาด สดใหม่ และปลอดภัยก็พอ
- งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด
นอกจากการงดบริโภคเนื้อสัตว์ที่เป็นของคาวในช่วงกินเจแล้ว ตลอดช่วงเวลา 9 วันนี้ ผู้ที่ "ถือศีลกินเจ" ต้องงดสิ่งมึนเมาต่างๆ ด้วย เช่น งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ทั้งเหล้า เบียร์ ไวน์ งดสูบหรือบริโภคอาหารที่มีส่วนประกอบของใบยาสูบ ใบกัญชง เป็นต้น
- ห้ามใช้น้ำหอม ห้ามแต่งหน้า
ศีลอีกหนึ่งข้อที่ต้องปฏิบัติให้ได้ในช่วงกินเจ ก็คือ ห้ามประทินผิวด้วยเครื่องหอมต่างๆ ห้ามแต่งหน้า และห้ามใช้น้ำหอม เพราะสิ่งเหล่านี้ถือเป็นการปรุงแต่งทางกาย และส่งผลให้จิตปรุงแต่งตามไปด้วย ทำให้ศีลไม่บริสุทธิ์ ดังนั้นการถือศีลในช่วงกินเจ ต้องลด ละ เลิก การปรุงแต่งทั้งทางกายและทางจิตใจให้มากที่สุด นอกจากนี้ก็ควรนุ่งขาวห่มขาวให้ครบทั้ง 9 วันด้วย
- ชำระร่างกายให้สะอาด ก่อนเข้าศาลเจ้า
ผู้คนที่เคร่งการถือศีลกินเจมักจะเข้าร่วมพิธีกรรมไหว้เจ้าตามศาลเจ้าต่างๆ ในชุมชนด้วย ดังนั้นก่อนถึงวันกินเจวันแรก ผู้คนจะรวมตัวกันไปทำความสะอาดศาลเจ้าใกล้บ้าน และเมื่อถึงเทศกาลกินเจก็จะไปร่วมพิธีกรรมต่างๆ ในศาลเจ้า และต้องชำระล้างร่างกายให้สะอาดก่อนเข้าร่วมพิธีในศาลเจ้าเสมอ
- ผู้ไว้ทุกข์ ห้ามเข้าร่วมพิธีกรรมช่วงกินเจ
นอกจากนี้ยังมีข้อห้ามเล็กๆ น้อยๆ อีก เช่น บุคคลที่อยู่ระหว่างการไว้ทุกข์ ห้ามเข้าร่วมพิธีกรรมช่วงเทศการกินเจโดยเด็ดขาด ส่วนบุคคลที่อยู่ระหว่างตั้งครรภ์กำลังจะคลอดบุตร และบุคคลที่มีประจำเดือน สามารถเข้าร่วมประเพณีถือศีลกินผักได้ แต่ห้ามเข้าพระเข้าทรง (ม้าทรง) และห้ามร่วมพิธีกรรมในศาลเจ้า เป็นต้น
- ถือศีลและประพฤติชอบทั้งกาย วาจา และใจ
ผู้ที่ถือศีลกินเจต้องประพฤติชอบทั้งกาย วาจา และใจ แสดงออกทางความคิด การพูด และทำในสิ่งที่ดี เช่น ช่วยเหลือผู้อื่น บริจาคทาน เข้าโรงเจไหว้เจ้า เป็นต้น และห้ามฆ่าสัตว์ตัดชีวิตแม้จะเป็นสัตว์เล็กๆ เช่น ยุง มด แมลง ฯลฯ
- ห้ามร่วมรักในช่วงถือศีลกินผัก
คนที่กินเจต้องตั้งจิตใจให้อยู่ในศีลธรรม ที่สำคัญคือ ห้ามมีเพศสัมพันธ์ในระหว่างที่ถือศีลกินเจ (ในประเพณีดั้งเดิมพบว่าคนที่เป็นคู่สามีภรรยาจะมีการแยกห้องนอนในระหว่างเทศกาลถือศีลกินเจด้วย)
--------------------------------------------
อ้างอิง : m-culture.go.th, sac.or.th/databases, trueplookpanya.