เช็คให้ชัวร์! สินค้า 4 ประเภท แม้มีสิทธิ 'คนละครึ่ง' ก็ซื้อไม่ได้!
4 ประเภทสินค้า ที่ไม่สามารถใช้สิทธิมาตรการ "คนละครึ่ง" ซื้อได้ มีอะไรบ้าง? เช็คที่นี่
หนึ่งในข้อควรรู้ของมาตรการ "คนละครึ่ง" คือ มีสินค้าอะไรที่ซื้อได้บ้าง? หรือสินค้าอะไรที่แม้จะได้รับสิทธิคนละครึ่งแล้ว ก็ไม่สามารถซื้อได้? "กรุงเทพธุรกิจออนไลน์" จะพามาไขความกระจ่าง ก่อนที่จะใช้สิทธิ ทั้งรอบแรกที่เปิดให้ลงทะเบียนไปตั้งแต่วันที่ 16 ตุลาคม 2563 และที่เปิดลงทะเบียนรอบ 2 ในวันนี้ (11 พฤศจิกายน 2563) เนื่องจากในรอบแรกมีผู้ที่ลงทะเบียนไปแล้วไม่ผ่านเกณฑ์ และไม่ใช้สิทธิภายใน 14 วัน หลังจากได้รับยืนยันทาง SMS ซึ่งรอบใหม่นี้เปิดให้ลงทะเบียนเพิ่มอีกราว 2.62 ล้านสิทธิ
ทั้งนี้สิทธิในมาตรการคนละครึ่ง สามารถนำไปซื้ออาหาร เครื่องดื่ม หรือสินค้าทั่วไป จากร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง ซึ่งผู้ที่มีสิทธิสามารถสังเกตสัญลักษณ์มาตรการนี้ได้ที่หน้าร้านค้า หรือสอบถามก่อนการใช้สิทธิ รวมถึงการค้นหาร้านค้าที่เข้าร่วมในเว็บไซต์ www.คนละครึ่ง.com ซึ่งสามารถทำได้ด้วยตัวเอง
โดยการใช้สิทธิจะใช้จ่ายผ่านแอพพลิเคชั่นเป๋าตังเท่านั้น โดยการสแกนจ่ายกับแอพพลิเคชั่นถุงเงินของร้านค้าต่างๆ ตามเงื่อนไขรัฐจ่าย 50% และจ่ายเอง 50% เช่น ซื้ออาหาร 400 บาท ในระบบรัฐจะช่วยจ่าย 150 บาท ผู้มีสิทธิจ่ายเองผ่านแอพพลิเคชั่นกระเป๋าตัง 250 บาท
โดยรัฐจะช่วยไม่เกิน 150 บาท/วัน หรือ 3,000 บาทตลอดมาตรการ จนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2563 และแต่ละวันสามารถใช้งานได้ระหว่างเวลา 06.00-23.00 น.
นอกจากนี้หากในวันนั้น ผู้มีสิทธิได้ใช้สิทธิซื้อสินค้าใน เป๋าตัง ไม่หมดในแต่ละวัน ระบบจะคืนสิทธิที่ไม่ได้ใช้เข้ายอดรวมของผู้ได้รับสิทธิ และจะคำนวณสิทธิใหม่ในเวลา 06:00 น. ของทุกวัน หรือรวมทั้งมาตรการไม่เกิน 3,000 บาทนั่นเอง
ทั้งนี้ข้อควรรู้คือ สินค้าที่ไม่สามารถซื้อได้ แม้มีสิทธิในมาตรการคนละครึ่ง ซึ่งประกอบด้วย 4 ประเภทสินค้า ดังนี้
1.สลากกินแบ่งรัฐบาล
2.เครื่องดื่มแอลกอฮอล์
3.บุหรี่ หรือยาสูบที่มีชื่อเรียกอย่างอื่น
4.การบริการต่างๆ